Skip to content
  • TH
    • EN
    • CN
Menu
  • TH
    • EN
    • CN
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • บทความสุขภาพ
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา
Menu
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • บทความสุขภาพ
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา

รพ.พระรามเก้า เปิดตัว “แอนติบอดี ค็อกเทล” ยาใหม่ที่พลิกแนวทางการรักษาผู้ป่วยโควิด 19

ข่าวสาร

โรงพยาบาลพระรามเก้า

  • วันที่โพสต์ 20 ตุลาคม 2021
โรงพยาบาลพระรามเก้า เปิดตัว แอนติบอดี ค็อกเทล (Antibody Cocktail) นวัตกรรมยารักษาโควิด 19 ที่ได้รับการอนุมัติและใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลก ด้วยประสิทธิภาพการรักษา-ลดความรุนแรง ป้องกันอาการหนักหรือเสียชีวิตได้มากถึง 70% พร้อมเดินหน้าเปิดศูนย์การดูแลเฉพาะ สำหรับบำบัดฟื้นฟูและเพิ่มสมรรถภาพร่างกายหลังหายป่วยจากอาการโควิดอย่างถูกต้อง ภายใต้การดูแลของทีมแพทย์และบุคลากรเฉพาะทาง
นายแพทย์น๊อต เตชะวัฒนวรรณา ผู้ช่วยผู้อำนวยการ โรงพยาบาลพระรามเก้า กล่าวว่า ในสถานการณ์ของโรคโควิด 19 วัคซีนไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่องค์การสาธารณสุขทั่วโลกใช้เพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาด เพราะภายหลังที่ไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลต้า (Delta) ได้ทำให้โรคทวีความรุนแรงขึ้น ได้มีการคิดค้นนวัตกรรมการรักษาโควิดทุกสายพันธุ์ รู้จักกันในชื่อ แอนติบอดี ค็อกเทล (Antibody Cocktail) ที่ใช้ในหลายประเทศ ตั้งแต่สหรัฐอเมริกา อินเดีย ญี่ปุ่น อังกฤษ รวมถึงประเทศไทย ที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้แบบมีเงื่อนไขภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา

ยาแอนติบอดี ค็อกเทล (Antibody Cocktail) หรือแอนติบอดีแบบผสม เป็นยาที่เกิดจากการผลิตผสมรวมกันของแอนติบอดี 2 ชนิดคือ คาซิริวิแมบ (Casirivimab) และ อิมเดวิแมบ (Imdevimab) จนเกิดโปรตีนที่เรียกว่า โมโนโคลนอลแอนติบอดี (Monoclonal Antibody) จัดอยู่ในกลุ่มยาภูมิคุ้มกันลบล้างฤทธิ์ Neutralizing Monoclonal Antibodies (NmAbs) มีหลักการทำงานคือจะตรงเข้าจับกับโปรตีนตรงส่วนหนาม (Spike Protein) ทำให้ไวรัสที่เข้าสู่ร่างกายลดปริมาณลง ส่งผลต่อการยับยั้งการติดเชื้อโควิด-19 ได้ทุกสายพันธุ์ รวมถึงเชื้อกลายพันธุ์ อย่างสายพันธุ์เดลต้าและสายพันธุ์เอปซิลอน ได้ทันที


“แอนติบอดี ค็อกเทล เป็นนวัตกรรมที่คิดค้นขึ้นเพื่อรักษาอาการโควิด 19 โดยเฉพาะ แตกต่างจากตัวยาอย่างฟาวิพิราเวียร์ หรือกับสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ที่เป็นเพียงยารักษาตามอาการ แต่ไม่ได้เจาะจงต่อเชื้อโควิด-19 เฉพาะ นอกเหนือไปจากนี้แล้ว แอนติบอดี ค็อกเทล ยังมีประสิทธิภาพลดความรุนแรงและป้องกันให้คนไข้ต้องเข้าโรงพยาบาล เพราะอาการหนักหรือเสียชีวิตได้มากถึง 70% ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมาก และสูงกว่ายารักษาโควิดอีกชนิดอย่างโมลนูพิราเวียร์ (Molnupiravir) ที่มีตัวเลขการป้องกันอยู่ที่ประมาณ 50% เท่านั้น
“โรงพยาบาลพระรามเก้า มีการนำตัวยาแอนติบอดี ค็อกเทล มาใช้เพื่อรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิดแล้วประมาณ 1 เดือน กับคนไข้มากกว่า 20 ราย ตามข้อบ่งใช้สำหรับคนไข้ติดเชื้อในระยะเริ่มต้น ไม่เกิน 10 วันหลังได้รับเชื้อ และไม่มีอาการรุนแรง หรือเป็นผู้มีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการรุนแรงขึ้นได้เมื่อติดเชื้อ โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ป่วย 7 โรคกลุ่มเสี่ยง ซึ่งจากการประเมินก่อนการรักษา คนไข้ที่เราดูแลควรจะมี 10-20% ที่อาจต้องรักษาด้วยการให้ออกซิเจน หรือจำเป็นต้องให้ยาชนิดอื่น เช่น สเตอรอยด์ แต่ภายหลังที่คนไข้ทั้ง 20 เคสได้รับยาแอนติบอดี ค็อกเทล เข้าไปแล้ว ยังไม่มีเคสไหนที่เกิดอาการรุนแรง จนถึงขั้นต้องให้ออกซิเจนหรือต้องเข้าห้องไอซียูเลยแม้แต่รายเดียว” นายแพทย์น๊อต กล่าว



แอนติบอดี ค็อกเทล เป็นยาสำหรับฉีดให้ทางหลอดเลือดดำ และให้เพียงครั้งเดียวโดยบุคลากรทางการแพทย์ มีข้อบ่งใช้สำหรับผู้ป่วยที่วินิจฉัยว่าติดเชื้อโควิด-19 ในระยะเริ่มต้น (ไม่เกิน 10 วัน) และมีอาการของโรคตั้งแต่เล็กน้อยถึงปานกลาง หรือเป็นผู้ป่วยที่มีปัจจัยเสี่ยงจะทำให้เกิดอาการรุนแรงขึ้นได้เมื่อติดเชื้อ ได้แก่ ผู้สูงอายุ, ผู้มีภาวะน้ำหนักเกิน (BMI มากกว่า 30), ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด หรือมีภาวะความดันโลหิตสูง, ผู้ป่วยโรคปอดเรื้อรัง, โรคหอบหืด, โรคเบาหวาน, โรคไตเรื้อรัง, โรคตับเรื้อรัง รวมถึงผู้มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือภูมิคุ้มกันถูกกด
นายแพทย์น๊อต ยังกล่าวต่อไปว่า ข้อบ่งใช้ที่สำคัญที่สุดของยาแอนติบอดี ค็อกเทล คือจะต้องให้ยากับผู้ป่วยตั้งแต่ในระยะที่เชื้อยังไม่รุนแรง หรือพูดได้ว่ายิ่งผู้ป่วยได้รับยาเร็วเท่าไร ยิ่งมีโอกาสหายมากขึ้นเท่านั้น โรงพยาบาลพระรามเก้าจึงมีการวางแผนการรักษา รวมถึงให้ความสำคัญกับการดูแลผู้ป่วยอย่างดีที่สุดในทุกขั้นตอน ตั้งแต่กระบวนการรับผู้ป่วย แนวทางการรักษา การรับยาแอนติบอดี ค็อกเทล พร้อมวางแผนให้บริการ Virtual Hospital การดูแลผ่านทาง Video Call สอบถามและติดตามอาการคนไข้ทุกวัน รวมถึงให้บริการฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายหลังหายจากการติดเชื้อ ซึ่งเป็นอีกแนวทางที่โรงพยาบาลให้ความสำคัญเพื่อให้ผู้ป่วยฟื้นฟูสุขภาพได้ดีในระยะยาว


ทั้งนี้ทั้งนั้น หลังหายจากอาการโควิด-19 ผู้ป่วยส่วนหนึ่งมักจะเจอกับภาวะที่เรียกว่า ลองโควิด (Long Covid) ซึ่งเป็นผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมที่มาจากช่วงเคยติดเชื้อ ส่งผลให้เกิดอาการทางร่างกาย เช่น อ่อนเพลียเหนื่อยง่าย หายใจลำบาก ปวดศีรษะ ไอ เจ็บหน้าอก กล้ามเนื้ออ่อนแรง สมองล้า นอนไม่หลับ รวมถึงผลกระทบทางจิตใจ วิตกกังวล ซึมเศร้า หรือมีอาการ PTSD (Post-Traumatic Stress Disorder) หรือสภาวะป่วยทางจิตใจหลังเผชิญเหตุการณ์รุนแรง โรงพยาบาลพระรามเก้าจึงได้เดินหน้าจัดตั้งPost Covid Care Clinic เพื่อดูแลรักษาและอำนวยความสะดวกกับผู้ป่วยที่อยู่ภายใต้การดูแลด้วย”
Post Covid Care Clinic โรงพยาบาลพระรามเก้า จะรวมทีมแพทย์และบุคลากรเฉพาะทางในการดูแลด้านการฟื้นฟูปอดและระบบทางเดินหายใจ หัวใจ ไต สมอง ระบบประสาท และจิตใจ รวมไปถึงกายภาพบำบัดและโภชนาการ เพื่อเพิ่มสมรรถภาพทั้งร่างกายและจิตใจ หลังหายป่วยจากอาการโควิด อย่างถูกต้อง


 
ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อเข้าใช้บริการรักษาอาการป่วยหลังหายจากโควิด-19 กับศูนย์ Post Covid Care Clinic โรงพยาบาลพระรามเก้า ได้ทาง โทร.02-202-9889 HEALTHCARE YOU CAN TRUST เรื่องสุขภาพ…ไว้ใจเรา #Praram9Hospital #COVIDSAFEHOSPITAL  #CovidSafeHospital

บทความล่าสุด

รักษามะเร็งเต้านม

แนวทางใหม่! รักษามะเร็งเต้านม ด้วยวิธีผ่าตัดสงวนเต้า และการเสริมสร้างเต้านมใหม่

อ่านเพิ่มเติม
เด็กหลอดแก้ว

การทำเด็กหลอดแก้ว เพื่อเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์สำหรับผู้มีบุตรยาก

อ่านเพิ่มเติม
ลำไส้แปรปรวน

โรคลำไส้แปรปรวน สาเหตุการปวดท้องเรื้อรัง อืดแน่นท้อง ขับถ่ายผิดปกติ

อ่านเพิ่มเติม
ดูบทความทั้งหมด

ข่าวสารอื่นๆ ที่น่าสนใจ

โรงพยาบาลพระรามเก้า เปิด “ศูนย์นิทรารมณ์ (Sleep center)” มุ่งแก้ไขปัญหาการนอนหลับที่ผิดปกติแบบครบวงจร ชี้วิกฤต “นอนไม่หลับ นอนกรน” ปัญหาที่แก้ไขได้

โรงพยาบาลพระรามเก้า เปิด “ศูนย์นิทรารมณ์ (Sleep center)” พร้อมระดมทีมแพทย์มือหนึ่ง ด้านโรคระบบการหายใจและภาวะวิกฤตโรคระบบทางเดินหายใจ และอายุรศาสตร์การนอนหลับ และด้านโสต ศอ นาสิกวิทยา

อ่านเพิ่มเติม

World Kidney Day 2023 ตระหนักภัย ใส่ใจไต ป้องกันไว้ เน้นกลุ่มเสี่ยง

โรงพยาบาลพระรามเก้าเปิดงาน World Kidney Day 2023 รณรงค์เสริมสร้างความรู้เรื่องโรคไต และการดูแลไต เพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงความรุนแรงของโรคไต

อ่านเพิ่มเติม

บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ด้านโรคไต

โรงพยาบาลพระรามเก้าลงนาม บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ด้านโรคไตกับ Khema International

อ่านเพิ่มเติม
อ่านข่าวสารทั้งหมด
Facebook-f Youtube Instagram Line
  • 1270
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • นัดหมาย
  • บทความสุขภาพ
  • แพ็กเกจ
  • ข่าว และกิจกรรม รพ.
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • นักลงทุนสัมพันธ์
  • การพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน
  • ร่วมงานกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • ข้อกำหนดและเงื่อนไข

Copyright © 2021 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital

Menu
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • บทความสุขภาพ
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา