Skip to content
  • TH
    • EN
    • CN
    • AR
  • TH
    • EN
    • CN
    • AR
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • Health Guru
    • บทความสุขภาพ
    • Praram 9 Star Doctors
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา
Menu
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • Health Guru
    • บทความสุขภาพ
    • Praram 9 Star Doctors
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา

ซีสต์รังไข่ อันตรายใกล้ตัวที่สาว ๆ ต้องรู้

บทความ

โรงพยาบาลพระรามเก้า

  • วันที่โพสต์ 30 สิงหาคม 2024
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นพ.แสงชัย พฤทธิพันธุ์

สมัยนี้ใครจะคิดว่าเรื่องของ “ซีสต์รังไข่” จะกลายเป็นภัยเงียบที่ผู้หญิงต้องคอยระวัง ตัวเลขชี้ชัดว่าผู้หญิงไทยถึง 15% มีความเสี่ยงที่จะพบกับปัญหานี้ แต่ข่าวร้ายกว่านั้นคือ เมื่อซีสต์รังไข่มาเยือน มันมักจะไม่ส่งสัญญาณเตือนชัดเจน ทำให้หลายคนไม่รู้ตัวว่าตัวเองมีซีสต์รังไข่ จนกระทั่งอาการเริ่มหนัก เช่น ปวดท้องประจำเดือนอย่างรุนแรง ประจำเดือนมาผิดปกติ ท้องโตคล้ายคนท้อง คลำได้ก้อนในท้องน้อย หรือมีอาการปวดมากเมื่อมีเพศสัมพันธ์ หากปล่อยไว้โดยไม่พบแพทย์ ก็อาจอันตรายถึงชีวิตได้!

ไขความลับของซีสต์รังไข่กับแพทย์ผู้ชำนาญการ

ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นพ.แสงชัย พฤทธิพันธุ์ สูติ-นรีแพทย์ ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์และการผ่าตัดผ่านกล้อง จากโรงพยาบาลพระรามเก้า อธิบายว่า “รังไข่” เป็นอวัยวะเล็ก ๆ ขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือ ทำหน้าที่ผลิตไข่ในแต่ละเดือน และทุกครั้งที่มีการตกไข่ ร่างกายก็จะสร้างถุงน้ำขึ้นมารอบ ๆ ไข่ แต่ในบางครั้ง ถุงน้ำเหล่านี้ไม่ยุบหายไปตามปกติ ทำให้กลายเป็นซีสต์ ซึ่งซีสต์รังไข่นี้มีอยู่หลากหลายประเภท ตั้งแต่ซีสต์ที่เกิดจากการทำงานบกพร่องของรังไข่ ซีสต์เนื้องอก ซีสต์จากเยื่อบุมดลูกที่เจริญผิดที่ (ช็อกโกแลตซีสต์) ซีสต์ที่มีลักษณะเหมือนเนื้อเยื่ออื่น ๆ ของร่างกาย ไปจนถึงซีสต์มะเร็ง

ข้อมูลจากคุณหมอแสงชัยยังบอกอีกว่า ผู้หญิงในช่วงวัยเจริญพันธุ์จนถึงวัยหมดประจำเดือน ทุกคนล้วนมีความเสี่ยงที่จะพบซีสต์รังไข่ โดยผู้หญิง 30-35% จะพบซีสต์ที่เกิดจากรังไข่ทำงานผิดปกติ อีก 20% จะพบซีสต์เนื้องอก และซีสต์ช็อกโกแลต รวมถึงซีสต์ที่มีลักษณะคล้ายเนื้อเยื่ออื่น ๆ ในร่างกาย ประมาณ 15% ขณะที่ซีสต์มะเร็งพบได้ประมาณ 1-5% ซึ่งทุกประเภทของซีสต์นี้มีโอกาสที่จะสร้างปัญหาต่อสุขภาพได้ไม่มากก็น้อย

ซีสต์รังไข่ สาเหตุของปัญหาที่ซ่อนอยู่

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดเกี่ยวกับซีสต์รังไข่ก็คือ ส่วนใหญ่จะไม่มีอาการใด ๆ ให้เราเห็นจนกว่าจะสายไป แต่เมื่อซีสต์เริ่มโตจนมีขนาด 5 เซนติเมตรขึ้นไป อาการต่าง ๆ เช่น ปวดท้องน้อย ปวดหน่วง ๆ หรือปัสสาวะบ่อยเพราะซีสต์เบียดกระเพาะปัสสาวะ อาจเริ่มแสดงออกมา หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา ซีสต์อาจบิดขั้วหรือปริแตกได้ ทำให้เกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรง หรือถึงขั้นมีเลือดตกในช่องท้อง ซึ่งอาจอันตรายถึงชีวิต

นอกจากนี้ หากคุณมีบุตรยาก ซีสต์รังไข่ โดยเฉพาะช็อกโกแลตซีสต์ อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญ เพราะซีสต์นี้สามารถทำลายส่วนที่ดีของรังไข่ ทำให้คุณภาพไข่ลดลงและเกิดภาวะตกไข่ผิดปกติ

การรักษาและการป้องกันซีสต์รังไข่

คุณหมอแสงชัยเน้นย้ำว่า หากคุณสงสัยว่าตัวเองมีซีสต์รังไข่ ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจเช็ก ไม่ว่าจะเป็นการทำอัลตร้าซาวด์หน้าท้องหรืออัลตร้าซาวด์ผ่านช่องคลอดตามความเหมาะสม และหากพบว่ามีซีสต์ แพทย์จะทำการประเมินว่าเป็นชนิดใด หากเป็นซีสต์ที่ไม่อันตรายก็จะติดตามอาการทุก 3-6 เดือน แต่ถ้าเป็นซีสต์ที่เสี่ยงต่อสุขภาพ ก็อาจต้องเข้ารับการผ่าตัดรักษา

ดังนั้น อย่ารอให้ซีสต์รังไข่กลายเป็นปัญหาใหญ่ รีบตรวจสุขภาพและพูดคุยกับแพทย์เพื่อตรวจเช็กอยู่เสมอ นี่คือเรื่องสำคัญที่ผู้หญิงทุกคนไม่ควรมองข้าม เพราะการดูแลสุขภาพของคุณเองให้ดีเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

บทความล่าสุด

“PTSD หลังภัยพิบัติ” อันตรายที่ไม่ควรมองข้าม

อ่านเพิ่มเติม

หินปูนหลอดเลือดหัวใจ ภัยมืดที่เราไม่รู้!

อ่านเพิ่มเติม

กลัวแดดมากไป… กระดูกพรุนไวไม่รู้ตัว!

อ่านเพิ่มเติม
ดูบทความทั้งหมด

ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกับ Praram 9 V

ปรึกษาแพทย์ได้ทุกที่ผ่านทางวิดีโอคอล (Telemedicine)

  • Praram 9 Hospital
  • @praram9hospital

บทความอื่นๆ

“PTSD หลังภัยพิบัติ” อันตรายที่ไม่ควรมองข้าม

ภาวะเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนขวัญ” หรือ PTSD (Post-Traumatic Stress Disorder) คือภาวะทางจิตใจที่เกิดขึ้น เมื่อเราต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่รุนแรง กระทบกระเทือนร่างกายหรือจิตใจอย่างหนัก เช่น ภัยพิบัติธรรมชาติ อุบัติเหตุร้ายแรง ถูกคุกคามทางเพศ

อ่านเพิ่มเติม

หินปูนหลอดเลือดหัวใจ ภัยมืดที่เราไม่รู้!

การตรวจหาว่าเราเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบหรือไม่นั้น เราควรเข้าใจว่าเส้นเลือดหัวใจตีบได้อย่างไร เพื่อวางแผนดูแลสุขภาพและการตรวจรักษาอย่างเหมาะสมต่อไป

อ่านเพิ่มเติม

กลัวแดดมากไป… กระดูกพรุนไวไม่รู้ตัว!

หลายคนคิดว่า “แสงแดด” เป็นอันตรายต่อผิว สร้างริ้วรอยหมองคล้ำ ฝ้า กระ ทำให้มองข้ามประโยชน์ของแสงแดดไป จากการศึกษาพบว่าแสงแดดมีส่วนสำคัญในการป้องกัน “โรคกระดูกพรุน”

อ่านเพิ่มเติม
อ่านบทความทั้งหมด
Facebook-f Youtube Instagram Line
  • 1270
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • นัดหมาย
  • บทความสุขภาพ
  • แพ็กเกจ
  • ข่าว และกิจกรรม รพ.
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • นักลงทุนสัมพันธ์
  • การพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน
  • ร่วมงานกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • ข้อกำหนดและเงื่อนไข

Copyright © 2025 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital

  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • Health Guru
    • บทความสุขภาพ
    • Praram 9 Star Doctors
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา