บทความสุขภาพ

Knowledge

ผ่าตัดไทรอยด์แบบส่องกล้องทางช่องปาก ไร้รอยแผลเป็น

นพ. ธัญวัจน์ ศาสนเกียรติกุล

โรคไทรอยด์เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของ “ต่อมไทรอยด์” โดยพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ซึ่งโรคนี้จะมีอาการแสดงแตกต่างกันออกไปตามความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ เช่น มีโรคไทรอยด์เป็นพิษ โรคพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ หรือโรคเนื้องอกไทรอยด์ และมะเร็งไทรอยด์ ซึ่งแต่ละโรคก็มีการรักษาหลากหลาย โดยเราจำเป็นต้องเลือกการรักษาที่เหมาะสมกับโรคไทรอยด์แต่ละชนิด เช่น มีการรักษาด้วยการทานยา มีการกลืนแร่ หรือการผ่าตัดไทรอยด์รักษาโรค เป็นต้น


สำหรับคนไข้ที่ประสบปัญหาเป็นโรคไทรอยด์ที่จำเป็นจะต้องรักษาด้วยการผ่าตัด เรามาทราบเรื่องการผ่าตัดกันเบื้องต้น โดยการผ่าตัดไทรอยด์ในสมัยก่อนจะมีแบบเดียวคือ ผ่าตัดไทรอยด์แบบเปิด โดยจะทำให้มีแผลเป็นอยู่กลางลำคอ ซึ่งโรคไทรอยด์จะพบในคนไข้ผู้หญิงอายุน้อยเป็นจำนวนมาก การที่มีแผลเป็นอยู่กลางลำคอ จึงเป็นปัญหาทำให้แลดูไม่สวยงาม สูญเสียความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน ต้องหาเสื้อ หรือผ้าพันคอมาปิดคอไว้


ปัจจุบันเทคนิคในการผ่าตัดไทรอยด์ได้พัฒนาก้าวหน้าไปอย่างมาก คือมีการพัฒนาการใช้กล้องเข้ามาช่วยในการผ่าตัด ทำให้เราไม่ต้องเปิดแผลที่หน้าคอ ซึ่งเทคโนโลยีการผ่าตัดไทรอยด์แบบส่องกล้องทางช่องปาก เป็นวิธีการผ่าตัดแบบใหม่ที่สุด ที่ผ่าตัดโดยใช้กล้องส่องเข้ารอยแผลเล็กๆทางช่องปาก มีผลทำให้คนไข้เจ็บแผลผ่าตัดน้อย เพราะว่าแผลผ่าตัดเล็ก ฟื้นตัวได้ไว ไปทำงานได้ไว และที่สำคัญที่สุดคือไม่มีแผลเป็นอยู่กลางลำคออีกด้วย ปัจจุบันจึงเป็นวิธีผ่าตัดไทรอยด์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

ผู้ป่วยประเภทใดที่ควรรับการผ่าตัดไทรอยด์?


โรคไทรอยด์แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่


  1. ภาวะไทรอยด์เป็นพิษ (Hyperthyroid)
  2. ภาวะพร่องไทรอยด์ฮอร์โมน (Hypothyroid)
  3. โรคเนื้องอกไทรอยด์ (ทั้งกรณีที่เป็นและไม่เป็นมะเร็ง)

โรคไทรอยด์ทั้ง 3 กลุ่มนี้ หากมีอาการไม่รุนแรง หรือมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งต่ำ แพทย์อาจเลือกวิธีให้รับประทานยา หรือกลืนแร่รักษา แต่ในกรณีที่รักษาแล้วไม่ดีขึ้น หรือมีอาการรุนแรงและมีความเสี่ยง เช่น ไทรอยด์มีขนาดโตมากจนไปกดเบียดการกลืนหรือการหายใจ หรือตรวจพบว่าเป็นมะเร็ง แพทย์จะแนะนำให้ทำการผ่าตัดต่อมไทรอยด์ออก


“กรณีที่ผู้ป่วยคลำบริเวณคอแล้วเจอก้อนที่สงสัย
ควรรีบมาพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย”

การผ่าตัดไทรอยด์ มีกี่แบบ?


ในปัจจุบันวิธีการผ่าตัดไทรอยด์ แบ่งเป็น 2 วิธี คือ


  1. การผ่าตัดไทรอยด์แบบเปิด เป็นการผ่าตัดมาตรฐานที่มีมานาน โดยจะผ่าตัดบริเวณกลางคอ ผู้ป่วยจะมีแผลเป็นที่บริเวณกลางคอขนาดประมาณ 6-8 เซนติเมตร หรือขึ้นอยู่กับขนาดของก้อนไทรอยด์ที่ผ่าออก
  2. การผ่าตัดไทรอยด์แบบส่องกล้อง เป็นเทคนิคการการผ่าตัดไทรอยด์ที่พัฒนาให้สามารถผ่าตัดแบบส่องกล้องผ่านเข้าได้จากหลายทางและมีแผลขนาดเล็ก เช่น ทางรักแร้ ทางลานนม ทางหลังหู หรือแบบส่องกล้องทางช่องปาก

การผ่าตัดไทรอยด์ผ่านกล้องทางช่องปากนับว่าเป็นวิธีใหม่ล่าสุด ที่มีความปลอดภัยสูง เจ็บแผลน้อย ฟื้นตัวไว ส่องกล้องเห็นเส้นเสียงชัดเจนทำให้ลดโอกาสการเกิดเสียงแหบ และเป็นเพียงเทคนิคเดียวที่เป็นการผ่าตัดแบบไร้แผลเป็นภายนอก


wp-thyroid-surgery-compare.jpg

ข้อดีของการผ่าตัดไทรอยด์แบบส่องกล้องทางช่องปาก


สำหรับผู้ที่ต้องการผ่าตัดแบบไม่มีแผลเป็นที่คอ หลังผ่าตัดแทบจะดูไม่ออก ว่าไปผ่าตัดไทรอยด์มา และยังฟื้นตัวเร็ว โรงพยาบาลพระรามเก้ามีเทคโนโลยีใหม่ในการรักษา ด้วยการผ่าตัดไทรอยด์แบบส่องกล้องทางช่องปาก ซึ่งมีคุณสมบัติเด่น คือ


  • ไร้รอยแผล รอยกรีดบริเวณภายนอกลำคอ ทำให้บริเวณคอ แทบจะดูไม่ออก ว่าไปผ่าตัดมา
  • เย็บซ่อนแผลด้วยไหมละลายไว้ในช่องปาก ไม่ต้องทำแผล
  • การผ่าตัดแบบส่องกล้องทางช่องปากแผลจะมีขนาดเล็ก ทำให้ฟื้นตัวได้ไว เจ็บน้อยและสามารถ กลับไปทำงานได้อย่างรวดเร็ว
  • เกิดภาวะแทรกซ้อนจากการบาดเจ็บของเส้นประสาทเสียงน้อย ลดโอกาสการเกิดภาวะเสียงแหบหลังผ่าตัด จากการที่มีกล้อง 4k หรือกล้องที่มีความละเอียดสูงสุด ช่วยขยายขนาดของเส้นเสียงให้ศัลยแพทย์เห็นได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น
  • ด้วยเทคโนโลยีกล้องที่มีความละเอียด แม่นยำสูง ช่วยในการหาต่อมพาราไทรอยด์ ลดโอกาสการเกิดภาวะแคลเซียมต่ำอย่างรุนแรง จากการบาดเจ็บของต่อมพาราไทรอยด์

IMG_1841.jpg

ผ่าตัดไทรอยด์แบบส่องกล้องทางช่องปากเหมาะสำหรับใคร?


การรักษาด้วยการผ่าตัดไทรอยด์แบบส่องกล้องทางช่องปาก เหมาะกับผู้ป่วยที่มีคุณสมบัติ ดังนี้


  • ต้องการรักษาภาวะไทรอยด์เป็นพิษ ไทรอยด์ไม่เป็นพิษ และโรคมะเร็งไทรอยด์
  • มีขนาดก้อนเนื้อที่จะผ่าใหญ่ไม่เกิน 6 – 8 เซนติเมตร
  • มะเร็งไทรอยด์ ที่ยังไม่มีแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองที่คอด้านข้าง
  • ไม่ต้องการให้มีแผลเป็นภายนอก แผลเล็ก เจ็บแผลน้อย และต้องการฟื้นตัวเร็ว กลับไปทำงานได้รวดเร็ว
  • ผู้ป่วยที่ต้องการรับการผ่าตัดกับแพทย์เฉพาะทางที่จบด้านการผ่าตัดไทรอยด์โดยเฉพาะ มีความชำนาญสูง ทำให้ลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อนทุกด้าน

IMG_1840.jpg

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดไทรอยด์


เมื่อแพทย์วินิจฉัยและแนะนำให้ทำการรักษาด้วยผ่าตัดไทรอยด์ ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดไทรอยด์แบบเปิดหรือการผ่าตัดไทรอยด์แบบส่องกล้อง ต้องมีการเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัดดังนี้


  • แจ้งประวัติโรคประจำตัว ประวัติการเจ็บป่วย ยาที่ใช้ประจำ และประวัติการแพ้ยาให้แพทย์ทราบ
  • ตรวจสุขภาพ เช็กความพร้อมของร่างกาย ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เอกซเรย์ทรวงอก และอื่น ๆ ตามคำแนะนำของแพทย์
  • งดน้ำ งดอาหารอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด เนื่องจากต้องมีการดมยาสลบ

การปฏิบัติตัวหลังผ่าตัดไทรอยด์


หลังการผ่าตัดไทรอยด์แบบเปิดอาจมีท่อระบายบริเวณแผล เพื่อลดโอกาสเลือดคั่งบริเวณแผลผ่าตัด หากของเหลวไหลออกจากแผลน้อยลง แพทย์จะนำท่อระบายออก ส่วนการผ่าตัดไทรอยด์แบบส่องกล้องทางช่องปากหลังการผ่าตัดจะมีผ้าก๊อชกดไว้บริเวณใต้คางเพื่อลดโอกาสเลือดคั่ง ซึ่งคำแนะนำการปฏิบัติตัวหลังผ่าตัดมีดังนี้


  • ไม่ไอหรือจามอย่างรุนแรงหลังการผ่าตัดเด็ดขาด
  • งดใช้เสียงดังหรือตะโกนหลังการผ่าตัด
  • หลีกเลี่ยงการขากเสมหะแรง ๆ ให้ค่อย ๆ บ้วนออก
  • งดกิจกรรมที่ใช้แรงเยอะ หรือยกของหนักในช่วง 1-2 สัปดาห์หลังผ่าตัด
  • ไม่ควรรับประทานอาหารที่มีรสจัดหรือร้อนจัดเกินไป ให้รับประทานอาหารอ่อน กลืนง่าย
  • รับประทานยาปฏิชีวนะ ยาฆ่าเชื้อ ตามแพทย์สั่ง สามารถรับประทานยาแก้ปวด ยาละลายเสมหะได้ เมื่อมีอาการ

การผ่าตัดไทรอยด์ มีผลข้างเคียงอย่างไรบ้าง


โดยทั่วไปหลังจากการผ่าตัดไทรอยด์อาจมีอาการข้างเคียงที่สามารถพบได้ ดังนี้


  • รู้สึกตึงหรือชาบริเวณลำคอหลังการผ่าตัด
  • มีอาการเจ็บคอ ปวดคอ กลืนลำบากในช่วง 1-2 อาทิตย์แรก
  • ในกรณีที่มีการบาดเจ็บต่อเส้นประสาทเสียง คนไข้จะมีอาการเสียงแหบ เสียงพูดเบา โดยอาการเหล่านี้อาจใช้เวลาในการรักษาให้ดีขึ้นใน 6-12 เดือนหลังการผ่าตัด ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเพียงชั่วคราว
  • อาจมีภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ โดยอาจมีอาการที่เข้าได้กับภาวะแคลเซี่ยมในเลือดต่ำ เช่น ชาบริเวณริมฝีปาก มือ หรือฝ่าเท้า เป็นตะคริว กล้ามเนื้อกระตุก ปวดหัว เนื่องจากเกิดการบาดเจ็บต่อต่อมพาราไทรอยด์ระหว่างการผ่าตัด โดยแพทย์จะให้คนไข้ทานยาแคลเซียม รวมถึงวิตามินดีทดแทนการทำงานของต่อมไทรอยด์ และจะค่อย ๆ ลดขนาดยาลง จนผู้ป่วยบางคน สามารถหยุดยาได้

ในขณะที่การผ่าตัดไทรอยด์แบบส่องกล้องทางช่องปากจะพบผลข้างเคียงน้อย ไม่ว่าจะเป็นการบาดเจ็บของเส้นประสาท อาการเสียงแหบ ภาวะแคลเซียมต่ำ หรือภาวะมีก้อนเลือดอุดตันบริเวณลำคอหลังจากผ่าตัด และนับว่าเป็นวิธีใหม่ล่าสุด ที่มีความปลอดภัยสูง และเป็นเพียงเทคนิคเดียวที่เป็นการผ่าตัดแบบไร้แผลเป็นภายนอก อีกทั้งคนไข้ยังเจ็บแผลน้อย เพราะแผลเล็ก ฟื้นตัวได้เร็ว แผลโดนน้ำได้เลย สามารถอาบน้ำหลังผ่าตัดได้ตามปกติ และสามารถกลับไปทำงานได้รวดเร็ว แต่ว่าทั้งนี้การผ่าตัดด้วยเทคนิคดังกล่าว จำเป็นต้องใช้ศัลยแพทย์ที่มีความชำนาญสูงและเครื่องมือที่ทันสมัยประกอบกัน


ผ่าตัดไทรอยด์ผ่านกล้องทางช่องปากกับศัลยแพทย์ผู้ชำนาญการ นพ. ธัญวัจน์ ศาสนเกียรติกุล


อาจารย์นายแพทย์ ธัญวัจน์ ศาสนเกียรติกุล ศัลยแพทย์ผู้ชำนาญการด้านการผ่าตัดไทรอยด์ทั้งแบบเปิด และแบบส่องกล้องทางช่องปาก รพ.พระรามเก้า ด้วยประสบการณ์การผ่าตัดไทรอยด์ทั้งแบบเปิด และแบบส่องกล้องทางช่องปากมากกว่า 2,000 ราย ทำให้มีความชำนาญในการผ่าตัดไทรอยด์ ทั้งผ่าตัดแบบเปิด ผ่าตัดแบบส่องกล้องทางช่องปาก ในโรคไทรอยด์ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น ไทรอยด์เป็นพิษ โรคคอพอก โรคไทรอยด์อักเสบเรื้อรังแบบ Hashimoto’s รวมถึง โรคเนื้องอกไทรอยด์ที่ยื่นลงไปในช่องอก โรคเนื้องอกไทรอยด์ชนิดไม่เป็นมะเร็ง และโรคมะเร็งไทรอยด์ ทั้งชนิดไม่ลุกลาม และชนิดลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลืองที่ลำคอ โดยนับเป็นแพทย์ท่านแรก ๆ ของโลกทำการผ่าตัดไทรอยด์ผ่านกล้องทางช่องปาก


ดังที่กล่าวข้างต้น การผ่าตัดไทรอยด์แบบส่องกล้องทางช่องปากทำให้ไม่มีรอยแผลเป็นที่ผิวหนังบริเวณลำคอ เจ็บแผลน้อย ช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็ว และลดความเสี่ยงเสียงแหบหลังผ่าตัดอีกด้วย จึงถือเป็นทางเลือกการผ่าตัดที่น่าสนใจในปัจจุบัน


dr.thunyawat-1089x1536.jpg
นพ.ธัญวัจน์ ศาสนเกียรติกุล
ศัลยแพทย์ผู้ชำนาญการผ่าตัดไทรอยด์ ทั้งแบบเปิดและแบบส่องกล้องทางช่องปาก

อย่ารอจนทุกอย่างสายเกินแก้


โรคมะเร็งไทรอยด์ เป็นมะเร็งที่มีความเสี่ยงไม่ต่างจากมะเร็งชนิดอื่น ๆ แต่ก็มีโอกาสการรอดชีวิตสูงหากได้รับการรักษาที่ถูกต้องและทันท่วงที ในกรณีที่เรามีก้อนที่ไทรอยด์ อย่านิ่งนอนใจ คิดว่าก้อนนี้ไม่เป็นมะเร็ง คนไข้จำเป็นต้องได้รับการตรวจโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างละเอียด ก่อนที่จะมั่นใจได้ ทั้งนี้ ผู้ป่วยควรปรึกษาศัลยแพทย์เฉพาะทางด้านไทรอยด์ เพื่อให้การผ่าตัดออกมาได้ประสิทธิภาพสูงสุด


เข้ารับการผ่าตัดไทรอยด์ ด้วยความอุ่นใจ มั่นใจและปลอดภัย


ทางศูนย์ศัลยกรรม รพ.พระรามเก้า โดยทีมแพทย์ผู้มีประสบการณ์เฉพาะทาง ที่มุ่งเน้นการรักษา รวมทั้งการดูแลแบบเฉพาะทางพร้อมด้วยเทคโนโลยีการรักษาและเครื่องมือที่ทันสมัย โดยคำนึงถึงความปลอดภัยและประสิทธิภาพต่อผู้ป่วยเป็นสำคัญ


และเนื่องในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ทาง รพ.พระรามเก้า ได้มีมาตรการ COVID SAFE HOSPITAL คำนึงถึงผู้เข้ารับการรักษาเป็นสำคัญ เราจึงทำงานอย่างหนัก เพื่อให้คุณอุ่นใจ มั่นใจ และปลอดภัยจากโควิด 19 แม้ต้องผ่าตัดในช่วงนี้ อย่างครอบคลุม ดังนี้


ผู้เข้ารับการผ่าตัดปลอดภัย


  • ตรวจคัดกรองโควิด-19 ตามมาตรฐานความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด ก่อนผ่าตัดทุกราย
  • แยกห้อง แยกอุปกรณ์ และเลือกใช้อุปกรณ์ที่สามารถใช้แล้วทิ้ง กรณีผู้ป่วยมีความเสี่ยงติดเชื้อและจำเป็นต้องผ่าตัด

บุคลากรของโรงพยาบาลปลอดภัย


  • ตวรจคัดกรอง บุคลากรทุกคน ทุกวันก่อนเข้าปฏิบัติงาน
  • เจ้าหน้าที่ทุกคนสวมชุดป้องกันร่างกาย (PPE) ขณะผ่าตัด

อุปกรณ์และเครื่องมือผ่าตัดปลอดภัย


  • ทำความสะอาดอุปกรณ์ผ่าตัดทุกชิ้น ด้วยการนึ่งทำลายเชื้อ (Sterilization)
  • เช็ดทำความสะอาดเครื่องมือในห้องผ่าตัดด้วยน้ำยาทำลายเชื้อ

S__3195066-1536x2048-1.jpeg

ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกับ Praram 9 V ปรึกษาแพทย์ได้ทุกที่
ผ่านทางวิดีโอคอล (Telemedicine)

เกี่ยวกับผู้เขียนบทความ

นพ. ธัญวัจน์ ศาสนเกียรติกุล

นพ. ธัญวัจน์ ศาสนเกียรติกุล

ศูนย์ศัลยกรรม

บทความที่เกี่ยวข้อง (10)

ดูทั้งหมด

คุณเป็นโรคภูมิแพ้…จริงหรือ…?

คนทั่วไปเมื่อมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหลเรื้อรัง หรือเป็นๆ หายๆ มักจะบอกว่า เป็นโรคภูมิแพ้ หรือไม่ก็เข้าใจว่าตนเป็นหวัด หวัด เกิดจากการติดเชื้อไวรัส คนทั่วไปมักเป็นได้ปีละ 4 – 5 ครั้งก็มากเกินปกติแล้ว อาการหวัดมักเป็นอยู่ 3 – 4 วัน

โรคไข้อีดำอีแดง โรคที่เกิดจากพิษของเชื้อแบคทีเรีย

ข้อมูลจาก สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย โรคไข้อีดำอีแดงหรือ scarlet fever เป็นโรคที่เกิดจากพิษของเชื้อแบคทีเรียชื่อ #สเตร็ปโตคอคคัสชนิดเอ ทำให้มีผื่นแดง ตามตัวร่วมกับคอหอยหรือทอนซิลอักเสบ พบบ่อยในช่วงอายุระหว่าง 5-15 ปี

วัคซีนปอดอักเสบนิวโมคอกคัสชนิดใหม่ 20 สายพันธุ์ (PCV 20)

โรคปอดอักเสบจากเชื้อนิวโมคอกคัสเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอคคัสนิวโมเนียอี (Streptococcus pneumoniae) ส่วนใหญ่เชื้อจะพบอยู่ในโพรงจมูกและลำคอ สามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งทางละอองฝอยทางการไอหรือจาม เป็นหนึ่งในเชื้อที่ทำให้เกิดปอดอักเสบที่พบบ่อย ทั้งในเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ

โรคแอนแทรกซ์ (Anthrax) โรคติดต่อจากสัตว์สู่คน

โรคแอนแทรกซ์ หรือชาวบ้านเรียกว่าโรคกาลี เป็นโรคที่รู้จักกันมาแต่โบราณกาล แอนแทรกซ์นับว่าเป็นโรคระบาดสำคัญโรคหนึ่งในพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2499 เป็นโรคติดต่ออันตรายร้ายแรงที่เกิดขึ้นได้ในสัตว์กินหญ้าแทบทุกชนิด ทั้งสัตว์ป่า เช่น ช้าง เก้ง กวาง และสัตว์เลี้ยง เช่น โค กระบือ แพะ แกะ แล้วติดต่อไปยังคนและสัตว์อื่น

บอลลูนหัวใจ: แก้ปัญหาหลอดเลือดหัวใจตีบ โดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่

การทำบอลลูนหัวใจหรือ PCI เป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพในการรักษาภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบ ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้สะดวก ลดอาการเจ็บหน้าอก และลดความเสี่ยงของหัวใจวาย เป็นการเปิดหลอดเลือดโดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ ทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยยังคงต้องดูแลสุขภาพ หมั่นออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และลดปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ เพื่อรักษาสุขภาพของหัวใจในระยะยาว

ลิ้นหัวใจเทียมคืออะไร? ทำไมต้องเปลี่ยน? และอะไรบ้างที่คุณควรรู้?

การผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจเทียมเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาสำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาลิ้นหัวใจผิดปกติ และการผ่าตัดเปลี่ยนลินหัวใจจะช่วยฟื้นฟูการทำงานของหัวใจให้กลับมาใกล้เคียงปกติ อย่างไรก็ตามผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาจะต้องได้รับการประเมินอย่างละเอียด เพื่อเลือกชนิดของลิ้นหัวใจที่เหมาะสม

หัวใจล้มเหลว อาการเป็นอย่างไร ป้องกันได้อย่างไรบ้าง

หัวใจล้มเหลวคือภาวะที่หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนและสารอาหารไม่เพียงพอ อาการสำคัญที่ควรสังเกต ได้แก่ เหนื่อยง่าย หายใจลำบาก ขาบวม และน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มักเกี่ยวข้องกับโรคหัวใจและหลอดเลือด การวินิจฉัยและรักษาอย่างรวดเร็วจะช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนรุนแรง

การตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจมะเร็ง (Biopsy) หมดความสงสัย วินิจฉัยได้อย่างแม่นยำ

การตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจมะเร็ง (Biopsy) คือวิธีที่นิยมในการวินิจฉัยมะเร็ง เนื่องจากความแม่นยำและละเอียดในการบ่งชี้ประเภทของมะเร็ง ทำได้อย่างไร? บทความนี้มีคำตอบ!

การใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ รักษาใจเต้นผิดจังหวะ ให้กลับสู่ภาวะปกติ

การใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ (Pacemaker Implantation) จะใช้รักษาผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ เครื่องจะช่วยให้หัวใจกลับมาทำงานได้ใกล้เคียงกับระดับปกติอีกครั้ง

รู้จัก ASD คืออะไร? ผนังหัวใจรั่วอาการเป็นแบบไหน รักษายังไงดี

ชวนรู้จัก ASD หรือ ภาวะผนังกั้นหัวใจรั่วคืออะไร ผนังหัวใจรั่ว อันตรายไหม? มาเช็กต้นตอสาเหตุ อาการของ ASD แนวทางการรักษา พร้อมวิธีดูแลให้หัวใจห้องบนแข็งแรง!

Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital