Skip to content
  • TH
    • EN
    • CN
    • AR
  • TH
    • EN
    • CN
    • AR
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • Health Guru
    • บทความสุขภาพ
    • Doctor’s Health Insights
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา
Menu
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • Health Guru
    • บทความสุขภาพ
    • Doctor’s Health Insights
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา

เช็กอาการและเข้าใจโรคไทรอยด์แต่ละประเภท

นพ.ธัญวัจน์ ศาสนเกียรติกุล

บทความ

โรงพยาบาลพระรามเก้า

  • วันที่โพสต์ 17 พฤษภาคม 2023
เข้าใจโรคไทรอยด์

ความผิดปกติของต่อม “ไทรอยด์”  ทำให้เกิดโรคของต่อมไทรอยด์ได้หลายโรค เช่น  ไทรอยด์เป็นพิษ ภาวะพร่องฮอร์โมน มะเร็งไทรอยด์ หรือโรคไทรอยด์อักเสบ ซึ่งมักสังเกตเห็นเป็นก้อนที่ต่อมไทรอยด์ 

เนื่องจากโรคที่เกี่ยวกับความผิดปกติของต่อมไทรอยด์มีหลายประเภท ทำให้มีอาการการวินิจฉัยและการรักษาที่ต่างกันออกไป ในบางโรคของต่อมไทรอยด์อาจมีภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง ดังนั้นการทราบถึงความผิดปกติที่เกิดกับต่อมไทรอยด์เบื้องต้น จะช่วยทำให้เราสามารถสังเกตตัวเองว่ามีความผิดปกติที่อาจเป็นโรคของต่อมไทรอยด์หรือไม่ เพื่อที่เราจะได้เข้ารับการตรวจ และหากตรวจพบว่าเป็นโรคของต่อมไทรอยด์ ก็จะได้เข้ารับการรักษาได้อย่างทันท่วงที

สารบัญ

  • ไทรอยด์คืออะไร?
  • โรคไทรอยด์คืออะไร?
  • โรคไทรอยด์ที่พบบ่อย
  • อาการของโรคไทรอยด์
  • สาเหตุโรคไทรอยด์
  • โรคไทรอยด์วินิจฉัยอย่างไร?
  • การรักษาโรคไทรอยด์
  • การป้องกันโรคไทรอยด์
  • สรุป

ไทรอยด์คืออะไร?

ต่อมไทรอยด์ (thyroid gland) เป็นต่อมไร้ท่อที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของร่างกายมีรูปร่างคล้ายปีกผีเสื้อ อยู่บริเวณกึ่งกลางของลำคอ ด้านหน้าหลอดลมต่ำกว่าลูกกระเดือกเล็กน้อย ต่อมไทรอยด์มี 2 ข้าง น้ำหนักประมาณ 15 – 25 กรัม 

ต่อมไทรอยด์มีหน้าที่ผลิตฮอร์โมนไทรอยด์และหลั่งเข้าสู่กระแสเลือดเพื่อควบคุมการเจริญเติบโต การเผาผลาญและใช้พลังงานของร่างกาย (เมตาบอลิซึมของร่างกาย) ต่อมไทรอยด์จะหลั่งฮอร์โมนไทรอยด์ที่สำคัญ 2 ชนิด คือ thyroxine (T4) และ triiodothyronine (T3) ซึ่งการผลิตฮอร์โมนทั้ง 2 ชนิดจะใช้ ไอโอดีนเป็นสารตั้งตั้น จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมสารไอโอดีนจึงมีความสำคัญต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์  

ทั้งฮอร์โมน T3 และ T4 ที่อยู่ในกระแสเลือดจะไปควบคุมการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ควบคุมการใช้พลังงาน ควบคุมการเผาผลาญ ควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจ ควบคุมอุณภูมิร่างกาย และยังมีผลต่อการทำงานของฮอร์โมนชนิดอื่น ๆ นอกจากนี้ฮอร์โมนไทรอยด์ยังมีผลต่อพัฒนาการด้านสมองและระบบประสาทของทารกในครรภ์ การเจริญเติบโตของกระดูก ดังนั้นหากต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติก็จะส่งผลต่อหลายระบบในร่างกายตามมาได้

> กลับสู่สารบัญ

โรคไทรอยด์คืออะไร?

โรคไทรอยด์ คือ โรคที่มีความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ ซึ่งอาจมีหรือไม่มีการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนก็ได้ ส่วนใหญ่มักจะพบว่าต่อมไทรอยด์มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าปกติ ซึ่งอาจสร้างมากหรือน้อยเกินไป ถ้าต่อมไทรอยด์สร้างฮอร์โมนในปริมาณที่มากเกินไป จะทำให้ร่างกายใช้พลังงานมาก ผู้ป่วยจะอาการเหนื่อย หัวใจเต้นเร็ว เรียกภาวะนี้ว่า “ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน” ในทางกลับกัน ถ้าต่อมไทรอยด์สร้างฮอร์โมนน้อยเกินไป ผู้ป่วยจะมีอาการอ่อนเพลียเหนื่อยง่าย น้ำหนักขึ้น ร่างกายใช้พลังงานน้อย เรียกภาวะนี้ว่า “ภาวะพร่องไทรอยด์” โรคไทรอยด์เป็นโรคที่มีแนวโน้มพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย และสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ แต่อย่างไรก็ตามโรคไทรอยด์เป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายได้

> กลับสู่สารบัญ

โรคไทรอยด์ที่พบบ่อย

  • ภาวะไทรอยด์เป็นพิษ (hyperthyroidism) หรือภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินไป (overactive thyroid) เป็นภาวะที่ต่อมไทรอยด์สร้างฮอร์โมนไทรอยด์มากกว่าปกติ ทำให้ฮอร์โมนเกิน
  • ภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ (hypothyroidism) เป็นภาวะฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำกว่าปกติ ภาวะนี้จะตรงข้ามกับภาวะไทรอยด์เป็นพิษ
  • ก้อนที่ต่อมไทรอยด์ที่ไม่ใช่มะเร็ง (thyroid nodules) เป็นโรคที่มีก้อนของต่อมไทรอยด์ ส่วนใหญ่จะมีระดับฮอร์โมนไทรอยด์ในเลือดปกติ เพราะส่วนใหญ่แล้วเนื้องอกนี้มักไม่มีผลกระทบต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ แต่อาจพบเนื้องอกที่ผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ทำให้มีฮอร์โมนไทรอยด์มากผิดปกติ แต่พบได้น้อย
  • มะเร็งต่อมไทรอยด์ (thyroid cancer) พบได้หลายชนิด แต่ชนิดที่พบได้บ่อยที่สุดคือชนิด papillary thyroid cancer
  • ภาวะไทรอยด์อักเสบ (thyroiditis) เป็นโรคที่มีการอักเสบของต่อมไทรอยด์ ที่สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ที่พบได้บ่อยจะเป็นแบบเรื้อรัง (chronic thyroiditis) หรือเรียกว่า Hashimoto disease ซึ่งเป็นโรคที่มีความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันที่มีผลต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ทำให้มีภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ และชนิดแบบกึ่งเฉียบพลัน (thyroiditis subacute) ที่มักเกิดจากการติดเชื้อต่าง ๆ 
  • คอพอก (goiter) คือภาวะที่ต่อมไทรอยด์มีขนาดโตขึ้นกว่าปกติซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ

> กลับสู่สารบัญ

อาการของโรคไทรอยด์

  • ภาวะไทรอยด์เป็นพิษ หรือภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินไป (overactive thyroid) อาการที่พบได้ในผู้ป่วยกลุ่มนี้ คือ หัวใจเต้นเร็ว ใจสั่น หงุดหงิด อารมณ์แปรปรวน กระสับกระส่าย เหงื่อออกง่าย มีปัญหาการนอนหลับ มีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง น้ำหนักลด ประจำเดือนมาไม่ปกติ มีปัญหาเกี่ยวกับตา ระคายเคืองตา ไวต่อแสง มองเห็นภาพไม่ชัด เนื้อเยื่อรอบดวงตาบวม ตาโปน โรคที่พบบ่อยในกลุ่มนี้คือโรคเกรฟส์ (Graves’ disease) เป็นโรคที่ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อต่อมไทรอยด์กระตุ้นให้ต่อมไทรอยด์สร้างฮอร์โมนมากผิดปกติ เป็นภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินไปชนิดหนึ่ง 
  • ภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ อาการแสดงมักไม่ชัดเจน โดยผู้ป่วยมักมีอาการแบบค่อยเป็นค่อยไป  ในผู้ป่วยบางรายจะไม่มีอาการผิดปกติที่ชัดเจนในช่วงแรก อาจมีเพียงแค่อาการเหนื่อยง่าย น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น และพบอาการอื่น ๆ ตามมาในภายหลัง เช่น มีความรู้สึกไวต่ออากาศเย็น ผมแห้ง ผมบาง ผิวแห้ง เสียงแหบ หน้าบวม มีปัญหาเรื่องความจำ กล้ามเนื้ออ่อนแรง ปวดเมื่อย ประจำเดือนมาไม่ปกติและไม่สม่ำเสมอ มีภาวะซึมเศร้า อย่างไรก็ตามอาการจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค
  • ก้อนที่ต่อมไทรอยด์ที่ไม่ใช่มะเร็ง ส่วนใหญ่มักไม่มีอาการ แต่จะเห็นเป็นก้อนที่คอ หากก้อนมีขนาดใหญ่หรือมีหลายก้อนอาจทำให้กลืนอาหารลำบาก แต่ในผู้ป่วยที่เป็นเนื้องอกชนิดที่มีการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ด้วย ก็จะมีอาการของภาวะไทรอยด์เป็นพิษร่วมด้วย 
  • มะเร็งต่อมไทรอยด์ มีตั้งแต่ก้อนขนาดเล็ก ๆ ไปจนถึงก้อนขนาดใหญ่ หากก้อนมะเร็งใหญ่อาจสังเกตเห็นได้จากภายนอก โดยจะสังเกตเห็นว่าคอโต มีความรู้สึกแน่น ๆ ที่คอ อาจมีอาการหายใจลำบากกลืนลำบาก หรือมีเสียงแหบ
  • ภาวะไทรอยด์อักเสบ โดยอาการของไทรอยด์อักเสบชนิดที่พบได้บ่อย ได้แก่
    • แบบเรื้อรัง ที่เรียกว่า Hashimoto disease ที่ทำให้ผู้ป่วยมีภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ ซึ่งจะมีการดำเนินโรคอย่างช้า ๆ ผู้ป่วยบางรายไม่มีอาการในช่วงแรก ไม่มีอาการเจ็บ แต่ต่อมไทรอยด์จะค่อย ๆ  ขยายใหญ่ขึ้น คอด้านหน้าดูบวม ในระยะต่อมาผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการแสดงให้เห็น เช่น เหนื่อย น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น หัวใจเต้นช้า ปวดกล้ามเนื้อ ท้องผูก ตาและใบหน้าบวม ผิวแห้ง ผิวบาง ผมร่วง ประจำเดือนมาไม่ปกติหรือมามาก ตั้งครรภ์ยาก มีปัญหาด้านความจำ สมาธิ มีภาวะซึมเศร้า
    • แบบกึ่งเฉียบพลัน มักมีอาการไข้ ต่อมไทรอยด์โตขึ้น และคลำแล้วมักรู้สึกเจ็บ
  • คอพอก เนื่องจากโรคคอพอกเป็นภาวะที่มีการโตขึ้นของต่อมไทรอยด์จากสาเหตุใด ๆ ก็ได้ ดังนั้นอาการของโรคคอพอกจะมีอาการแสดงหลายแบบ ขึ้นอยู่กับสาเหตุ และความผิดปกติที่พบ เช่น หากเป็นโรคคอพอกที่เกิดจากภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ ก็จะแสดงอาการต่าง ๆ ของภาวะพร่อมฮอร์โมนไทรอยด์ หรือหากเป็นคอพอกที่เกิดจากการมีฮอร์โมนไทรอยด์เกิน ก็จะแสดงอาการของไทรอยด์เป็นพิษ เป็นต้น หรือหากต่อมไทรอยด์โตขึ้นมาก ๆ ก็อาจพบอาการอื่น ๆ เช่น ผู้ป่วยอาจรู้สึกแน่นบริเวณคอ มีเสียงแหบ ไอ หายใจลำบาก หายใจมีเสียงดัง หรือกลืนลำบาก เป็นต้น ดังนั้นหากสงสัยว่าต่อมไทรอยด์โตขึ้น หรือมีอาการผิดปกติที่อาจเป็นโรคของต่อมไทรอยด์ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัย และการรักษาอย่างถูกต้อง

> กลับสู่สารบัญ

สาเหตุโรคไทรอยด์

โรคไทรอยด์บางชนิดอาจมีสาเหตุของโรคร่วมกัน  โดยอาจแบ่งสาเหตุของโรคไทรอยด์ได้ดังนี้

  • ภาวะไทรอยด์เป็นพิษ เป็นภาวะที่ต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินไป (overactive thyroid) ทำให้มีฮอร์โมนไทรอยด์ในร่างกายมากผิดปกติ มักมีสาเหตุจาก
    • โรคเกรฟส์ (Graves’ disease) เป็นโรคทางระบบภูมิคุ้มกัน ที่มีปัจจัยบางอย่างไปกระตุ้นให้ร่างกายผลิตภูมิคุ้มกันต่อต่อมไทรอยด์ทำให้มีการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์มากผิดปกติ เป็นโรคที่ยังไม่สามารถระบุสาเหตุได้แน่ชัด แต่คาดว่าน่าจะเกิดจากความบกพร่องทางพันธุกรรมและปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น ความเครียด การติดเชื้อไวรัส หรือการตั้งครรภ์ หรือหลาย ๆ ปัจจัยร่วมกัน
    • มีก้อนที่ต่อมไทรอยด์ ที่เกิดจากการเพิ่มจำนวนที่ผิดปกติของเซลล์ในต่อมไทรอยด์ ทำให้ผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ออกมามากเกินความต้องการของร่างกาย 
    • มีการบริโภคหรือได้รับไอโอดีนมากเกินไป ซึ่งอาจได้รับผ่านการรับประทาน การได้ยา หรือสารทึบรังสีผ่านทางหลอดเลือดดำ ซึ่งสารทึบรังสีเหล่านี้มีไอโอดีนเป็นส่วนประกอบ ส่งผลให้ต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนมากขึ้น และต่อมไทรอยด์ทำงานหนัก
    • มีการอักเสบของต่อมไทรอยด์ ทำให้มีการผลิดฮอร์โมนไทรอยด์มากขึ้น ซึ่งอาจพบภาวะนี้ได้หลังการคลอดบุตร (มักเกิดภายใน 1 ปีหลังคลอด)
  • ภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
    • ภาวะต่อมไทรอยด์อักเสบเรื้อรังจากการที่มีภูมิคุ้มกันของร่างกายทำลายต่อมไทรอยด์ (Hashimoto’s disease) ทำให้ฮอร์โมนไทรอยด์ในร่างกายลดลง 
    • ไทรอยด์อักเสบ โดยการอักเสบของต่อมไทรอยด์บางชนิดทำให้มีระดับของฮอร์โมนไทรอยด์ลดลง
    • มีภาวะขาดสารไอโอดีน หรือผ่านการรักษาโรคที่ต้องมีการฉายรังสี ต้องผ่าตัดต่อมไทรอยด์ออก หรือมีการทำงานของต่อมใต้สมองผิดปกติ ทำให้มีการสร้างฮอร์โมนไทรอยด์ลดลง 
  • ก้อนที่ต่อมไทรอยด์ที่ไม่ใช่มะเร็ง สาเหตุมักเกิดจากมีการเจริญหรือแบ่งตัวที่ผิดปกติของเซลล์ในต่อมไทรอยด์ สามารถพบได้หลายประเภท เช่น ถุงน้ำ (thyroid cysts) ก้อนคอลลอยด์ (colloid nodule) หรือ ก้อนอะดีโนมา (thyroid adenoma) ซึ่งบางประเภทไม่มีผลต่อระดับฮอร์โมนไทรอยด์ แต่บางประเภทอาจทำให้มีการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์เพิ่มขึ้นจนทำให้มีภาวะไทรอยด์เป็นพิษได้
  • มะเร็งต่อมไทรอยด์ ยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจนของมะเร็งไทรอยด์ แต่พบว่ามีปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ การได้รับรังสีต่าง ๆ  ได้รับไอโอดีนจากอาหารไม่เพียงพอ มียีนที่ผิดปกติ มีประวัติครอบครัวเป็นโรคไทรอยด์หรือมะเร็งต่อมไทรอยด์ ไทรอยด์อักเสบ เป็นต้น
  • ไทรอยด์อักเสบ สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดมาจากโรคของระบบภูมิคุ้มกันหรือแพ้ภูมิตัวเอง หรือโรค Hashimoto disease ที่มีการสร้างภูมิคุ้มกันต่อต่อมไทรอยด์ทำให้เกิดการอักเสบและทำให้มีภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ ส่วนไทรอยด์อักเสบประเภทกึ่งเฉียบพลันสาเหตุมักมาจากการติดเชื้อ
  • คอพอก เนื่องจากคอพอกเป็นชื่อเรียกของภาวะมีขนาดของต่อมไทรอยด์ที่โตขึ้น ซึ่งเกิดได้จากหลาย ๆ สาเหตุ ดังนั้นสาเหตุของโรคคอพอกจึงขึ้นอยู่กับสาเหตุของภาวะนั้น ๆ เช่น ภาวะไทรอยด์เป็นพิษ ภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ ภาวะขาดสารไอโอดีน มีก้อนของต่อมไทรอยด์ทั้งชนิดที่เป็นมะเร็งและไม่ใช่มะเร็ง มีการอักเสบของต่อมไทรอยด์ หรือจากการตั้งครรภ์ เป็นต้น

> กลับสู่สารบัญ

โรคไทรอยด์วินิจฉัยอย่างไร?

การตรวจวินิจฉัยโรคไทรอยด์สามารถทำได้โดย 

  • การซักประวัติ และการตรวจร่างกาย โดยแพทย์อาจคลำบริเวณคอเพื่อตรวจดูขนาดของต่อมไทรอยด์
  • การตรวจเลือด เพื่อวัดระดับไทรอยด์ฮอร์โมนในเลือด โดยแพทย์อาจส่งตรวจเลือดเพื่อหาระดับของค่าเหล่านี้
    • ระดับฮอร์โมน TSH
    • Triodothyronine (T3)
    • Thyroxine (T4)
    • Free T3 หรือ free triiodothyronine
    • Free T4 หรือ free thyroxine 
    • ไทรอยด์แอนติบอดีหรือ anti-thyroidperoxidase (Anti-TPO) 
    • แคลซิโทนิน (calcitonin) เพื่อวินิจฉัยมะเร็งต่อมไทรอยด์
    • ไทโรโกลบูลิน (Thyroglobulin) เพื่อวินิจฉัยไทรอยด์อักเสบ
  • อัลตราซาวนด์ต่อมไทรอยด์ เพื่อดูขนาด รูปร่างของต่อมไทรอยด์ หรือค้นหาก้อนที่ต่อมไทรอยด์

> กลับสู่สารบัญ

การรักษาโรคไทรอยด์

โรคไทรอยด์สามารถรักษาให้หายได้ โดยระยะเวลาในการรักษาขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค ซึ่งแพทย์จะพิจารณาการรักษาให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย โดยแนวทางในการรักษาโรคไทรอยด์มีดังนี้

  • ยาต้านไทรอยด์ (antithyroid drugs) เป็นยาที่ใช้ในการรักษาภาวะไทรอยด์เป็นพิษ (hyperthyroidism) ยับยั้งการสร้างฮอร์โมนของต่อมไทรอยด์
  • การกลืนแร่ไอโอดีน (radioactive iodine therapy) เพื่อทำลายเซลล์ของต่อมไทรอยด์ให้ไม่ให้สร้างฮอร์โมนมากเกินไป ใช้ในการรักษา hyperthyroidism เช่น Graves’ disease ก้อนที่ต่อมไทรอยด์ที่ไม่ใช่มะเร็ง (nontoxic nodular goiter)และ มะเร็งต่อมไทรอยด์
  • ยาควบคุมการเต้นของหัวใจ (กลุ่มต้านเบต้า; beta blocker) เพื่อควบคุมการเต้นของหัวใจให้อยู่ในระดับปกติ เพื่อลดอาการใจสั่น เหนื่อยง่ายในผู้ป่วยโรคไทรอยด์
  • การผ่าตัดไทรอยด์ ใช้รักษาผู้ป่วยในกลุ่มไทรอยด์เป็นพิษ ภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ และก้อนที่ต่อมไทรอยด์ (ทั้งกรณีที่เป็นและไม่เป็นมะเร็ง) ซึ่งในปัจจุบันมีวิธีการผ่าตัดแบบส่องกล้องทางช่องปาก เป็นวิธีการรักษาที่ได้รับความนิยมถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ 
  • ยาฮอร์โมนไทรอยด์ (thyroid hormone treatment) ใช้รักษาในกลุ่มผู้ป่วยที่มีภาวะพร่องไทรอยด์ฮอร์โมน (hypothyroid) หรือในกลุ่มที่มีการผ่าตัดเอาต่อมไทรอยด์ออก หรือผู้ป่วยที่ต้องมีการกดการเจริญเติบโตของเซลล์ในต่อมไทรอยด์

การใช้คลื่นไมโครเวฟทำลายก้อนไทรอยด์ (microwave ablation) เป็นวิธีใหม่ล่าสุด สามารถใช้ทำลายเนื้องอกไทรอยด์ (thyroid nodule) โดยไม่ต้องผ่าตัดรักษา ฟื้นตัวไว เจ็บน้อย ไม่ต้องทานยา

> กลับสู่สารบัญ

การป้องกันโรคไทรอยด์

แม้ว่าการป้องกันโรคไทรอยด์ยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดในปัจจุบัน เนื่องจากในบางโรคมีสาเหตุมาจากความผิดปกติของพันธุกรรม หรือการทำงานที่ผิดปกติของภูมิคุ้มกัน แต่อย่างไรก็ตามเราสามารถลดความเสี่ยงของการเกิดโรคได้ คือ 

  • ป้องกันภาวะการขาดสารไอโอดีน เช่น บริโภคเกลือที่เสริมไอโอดีนหรือรับประทานอาหารที่มีไอโอดีน เช่น อาหารทะเล เพื่อป้องกันภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ 
  • การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อช่วยให้ต่อมไทรอยด์ทำงานได้เป็นปกติ เช่น หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารแปรรูป อาหารแช่แข็ง อาหารสำเร็จรูปบางชนิด 
  • รับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กให้เพียงพอ เช่น เนื้อสัตว์ที่มีสีแดงตามธรรมชาติ อาหารทะเล ธัญพืช ซีเรียล เป็นต้น เพราะหากขาดธาตุเหล็กแล้วอาจมีความเสี่ยงต่อภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ได้

> กลับสู่สารบัญ

สรุป

ต่อมไทรอยด์เป็นต่อมไร้ท่อที่มีความสำคัญต่อร่างกาย ทำหน้าที่ผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ที่ส่งผลต่อการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ หากต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติก็จะส่งผลต่อระบบภายในร่างกายได้ โรคไทรอยด์มีอาการแสดงแตกต่างกันขึ้นอยู่กับชนิดของความผิดปกติ การรักษาโรคไทรอยด์ควรทำการรักษาโดยแพทย์เฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านไทรอยด์ เพื่อผลการรักษาที่ดี โดยแพทย์จะพิจารณาการรักษาโดยขึ้นกับความรุนแรงและอาการของผู้ป่วย โดยแพทย์จะพิจารณาการรักษาตามความเหมาะสมของผู้ป่วยแต่ละราย การหมั่นสังเกตอาการผิดปกติต่าง ๆ หรือสังเกตขนาดที่ผิดปกติของต่อมไทรอยด์ หรือการตรวจสุขภาพประจำปีก็จะช่วยให้ทราบความผิดปกติของไทรอยด์ได้ตั้งแต่แรก ๆ และทำให้ได้รับการรักษาได้ตั้งแต่ระยะแรก ๆ ของโรค และช่วยลดความรุนแรงและภาวะแทรกซ้อนที่จะเกิดขึ้นได้

ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกับ Praram 9 V ปรึกษาแพทย์ได้ทุกที่ผ่านทางวิดีโอคอล (Telemedicine)

สนใจนัดหมาย

> กลับสู่สารบัญ

บทความล่าสุด

ผ่าตัดไส้เลื่อน

ผ่าตัดไส้เลื่อน วิธีรักษาไส้เลื่อนที่มีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนรุนแรง

อ่านเพิ่มเติม
เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

ผู้หญิงควรรู้! เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่คืออะไร มีสัญญาณเตือนอย่างไรบ้าง?

อ่านเพิ่มเติม
เนื้องอกมดลูก

เนื้องอกมดลูก อันตรายใกล้ตัวที่ควรรีบรักษา เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

อ่านเพิ่มเติม
ดูบทความทั้งหมด

ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกับ Praram 9 V

ปรึกษาแพทย์ได้ทุกที่ผ่านทางวิดีโอคอล (Telemedicine)

  • Praram 9 Hospital
  • @praram9hospital

แพทย์ผู้เขียนบทความ

DC2E6719-0611-4AD2-8573-7792D0026BED

นพ.ธัญวัจน์ ศาสนเกียรติกุล

ศูนย์ศัลยกรรม

นัดหมาย

ประวัติเพิ่มเติม

 

ศูนย์แพทย์

thyroid-center-th-1-1

ศูนย์ไทรอยด์และผ่าตัดไทรอยด์

เยี่ยมชม

ดูทั้งหมด

บทความอื่นๆ

ผ่าตัดไส้เลื่อน

ผ่าตัดไส้เลื่อน วิธีรักษาไส้เลื่อนที่มีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนรุนแรง

ผ่าตัดไส้เลื่อน เป็นวิธีรักษาไส้เลื่อนที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด โดยเฉพาะการผ่าแบบส่องกล้อง จะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนรุนแรง และลดการเป็นซ้ำได้

อ่านเพิ่มเติม
เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

ผู้หญิงควรรู้! เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่คืออะไร มีสัญญาณเตือนอย่างไรบ้าง?

เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) คือภาวะที่เนื้อเยื่อในโพรงมดลูกเจริญนอกมดลูก เช่น รังไข่หรือท่อนำไข่ ทำให้เกิดการอักเสบและปวดท้องประจำเดือนรุนแรง

อ่านเพิ่มเติม
เนื้องอกมดลูก

เนื้องอกมดลูก อันตรายใกล้ตัวที่ควรรีบรักษา เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

เนื้องอกมดลูก มีสาเหตุมาจากเซลล์กล้ามเนื้อมดลูกเจริญผิดปกติ ผู้ป่วยส่วนมากมักไม่แสดงอาการ และผู้ป่วยบางส่วนอาจมีอาการปวดท้องน้อยรุนแรง ท้องผูก ปัสสาวะบ่อย

อ่านเพิ่มเติม
อ่านบทความทั้งหมด
Facebook-f Youtube Instagram Line
  • 1270
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • นัดหมาย
  • บทความสุขภาพ
  • แพ็กเกจ
  • ข่าว และกิจกรรม รพ.
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • นักลงทุนสัมพันธ์
  • การพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน
  • ร่วมงานกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • ข้อกำหนดและเงื่อนไข

Copyright © 2025 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital

  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • Health Guru
    • บทความสุขภาพ
    • Doctor’s Health Insights
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา