โรคกระดูกพรุน โรคที่มีการสลายของเนื้อกระดูกอย่างต่อเนื่องทำให้มวลกระดูกลดลง ส่งผลให้กระดูกมีความแข็งแรงลดลง จนกระทั่งเกิดความเสี่ยงต่อการเกิดกระดูกหัก
ระยะดำเนินของโรคใช้เวลายาวนานหลายปี ไม่สามารถสังเกตได้หรือไม่สามารถรู้สึกได้จนกว่าจะเกิดกระดูกหัก หรือเกิดการค่อมโค้งผิดรูปของกระดูกสันหลังเนื่องจากกระดูกทรุดและตัวเตี้ยลงอย่างชัดเจน
สาเหตุของการเกิดโรคกระดูกพรุน
- การไม่ได้รับแคลเซียมที่เพียงพอ
- สาเหตุจากกรรมพันธุ์ ซึ่งควรจะพิจารณาถึงบุคคลในครอบครัว เช่น ปู่ ยา ตา ยาย ถ้าท่านเหล่านั้นมีอาการของโรคกระดูกพรุนอย่างชัดเจน โอกาสที่บุตรหลานจะมีอาการ เช่นกันนั้นสูงถึง 80%
- ยา อาจเกิดจากการใช้ยาสำหรับโรคบางอย่างที่นำสู่การลดความหนาแน่นของ กระดูก เช่น ออร์ติโซน สาหรับโรคไขข้ออักเสบ, โรคหืด, ยาเฮปาริน สาหรับโรคหัวใจ และความดันโลหิต การรักษาโดยการฉายรังสี หรือการให้สารเคมีก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่ง ที่มีการทำลายเซลล์กระดูก ซึ่งนำไปสู่โรคกระดูกพรุน
- การสูบบุหรี่ การดื่มสุราเป็นประจำ จะลดประสิทธิภาพการดูดซึมแคลเซียม ในร่างกาย ทำให้กระดูกเสื่อมและหดลงเร็ว
- คาเฟอีน การดื่มกาแฟมาก ๆ หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น โค้ก, ชา เป็นต้น ก็ทำให้กระดูกเสื่อมง่ายขึ้น
- ฮอร์โมน การลดลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนของหญิงวัยหมดประจำเดือน ทำให้ประสิทธิภาพในการดูดซึมแคลเซียมในร่างกายลดลง เป็นสาเหตุให้เกิดโรคกระดูกพรุนเพิ่มขึ้น
- การไม่เคลื่อนไหวหรือออกกาลังกาย เมื่อวัยชราโรคกระดูกพรุนเกิดขึ้นรุนแรง ถ้าขาดการออกกำลังกาย และการสูญเสียความแข็งแรงของกระดูก มักเกิดขึ้นในช่วงที่ไม่ได้เคลื่อนไหว เช่น ในขณะนั่งรถเข็น หรือนอนพักฟื้น
- ขาดวิตามินดี เพราะในวิตามินดีมีความจาเป็นในการดูดซึมแคลเซียมไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเมื่อได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอ ซึ่งเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อย
การวินิจฉัยโรคกระดูกพรุน
การซักประวัติ การตรวจร่างกาย
การตรวจด้วยเครื่องมือต่างๆ เช่นการตรวจความหนาแน่นของกระดูก การตรวจเลือดทางห้องปฏิบัติการ
อาการกระดูกพรุน
- ส่วนสูงลดลง
- กระดูกข้อหรือกระดูกสะโพกอาจหักได้ง่าย
- มีอาการปวดกระดูกเรื้อรัง
- ตัวเตี้ยลงหรือหลังค่อม
การรักษาโรคกระดูกพรุน
- 1.การให้ยายับยั้งการสลายกระดูก เช่น Alendronate (Fosamax), Tamoxifen, Calcitonin
- ยาบรรเทาปวด เช่น พาราเซตามอล (Paracetamol) เป็นยาที่ใช้ลดอาการปวด หาซื้อได้ทั่วไป
- การทดแทนเอสโตรเจนหลังหมดประจำเดือน
การป้องกันโรคกระดูกพรุน
- ออกกาลังกายเป็นกิจวัตร โดยเฉพาะกลางแจ้งตอนที่มีแดดอ่อน เช่น เวลาเช้า หรือเย็น
- เมื่อมีความเจ็บป่วยไม่ว่าจากสาเหตุใด ควรรีบทำกายภาพบาบัด หรือเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ของร่างกายให้เร็วที่สุดเท่าที่สภาพร่างกายจะเอื้ออำนวย
- รับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่น ปลากระป๋อง ซึ่งสามารถรับประทาน กระดูกปลาได้ หรือดื่มนมพร่องไขมันเนย ผักผลไม้ เป็นต้น
- งดการดื่มสุรา และสูบบุหรี่
- ไม่ควรซื้อยารับประทานเอง เช่น ยาลูกกลอน เพราะมักจะมีสารเสตียรอยด์ผสมอยู่ ทำให้กระดูกพรุนได้ โดยไม่รู้ตัว
- ตรวจวัดระดับวิตามันดีในร่างกาย หากพบว่าต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดควรพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเพื่อวางแผนการรักษาต่อไป