เยื่อหุ้มสมองอักเสบ อาจไม่ใช่โรคที่พบได้บ่อย แต่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตหากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม เพื่อลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนอันตราย การเข้าใจถึงสาเหตุและอาการของโรคจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถเฝ้าระวังและตัดสินใจเข้ารับการรักษาอย่างทันท่วงที
Key Takeaways
- เยื่อหุ้มสมองอักเสบเป็นโรคอันตรายที่มีอัตราการเสียชีวิตและเกิดภาวะแทรกซ้อนสูง จึงจัดเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องได้รับการรักษาเร่งด่วน
- สาเหตุการเกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบสามารถเกิดได้ทั้งจากการติดเชื้อ และไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ
- อาการเยื่อหุ้มสมองอักเสบจะคล้ายกับไข้หวัดใหญ่ แต่จะมีความรุนแรงและทรุดตัวอย่างรวดเร็ว
- การรักษาเยื่อหุ้มสมองอักเสบขึ้นอยู่กับสาเหตุของโรค เช่น การรักษาตามอาการ และการให้ยาปฏิชีวนะ
- การป้องกันเยื่อหุ้มสมองอักเสบสามารถทำได้ด้วยการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง รวมถึงการฉีดวัคซีนป้องกันเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากการติดเชื้อ
สารบัญบทความ
- เยื่อหุ้มสมองอักเสบคืออะไร
- เยื่อหุ้มสมองอักเสบมีกี่ประเภท
- สาเหตุที่ก่อให้เกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบ มีอะไรบ้าง?
- อาการแบบไหนอาจเป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
- การวินิจฉัยเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
- การรักษาเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
- แนวทางการป้องกันเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
- เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ภาวะฉุกเฉินการแพทย์ที่ต้องได้รับการรักษาโดยเร็ว
- คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
เยื่อหุ้มสมองอักเสบคืออะไร
เยื่อหุ้มสมองอักเสบ(Meningitis) คือ ภาวะที่เนื้อเยื่อหุ้มสมองและไขสันหลังเกิดการอักเสบขึ้น จนเกิดอาการปวด บวม เป็นไข้ ซึ่งอาการในช่วงแรกจะคล้ายกับอาการไข้หวัดใหญ่ แต่หากไม่ได้รับการรักษาทันทีอาการจะรุนแรงขึ้นจนอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้
เยื่อหุ้มสมองอักเสบมีกี่ประเภท
เราสามารถแยกประเภทการเกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบได้ 2 ประเภท ตามระยะเวลาการดำเนินโรค
- เยื่อหุ้มสมองอักเสบเฉียบพลัน (Acute Meningitis) มักเกิดอาการรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว หากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสมทันทีอาจเสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อนหรือเสียชีวิตได้
- เยื่อหุ้มสมองอักเสบเรื้อรัง (Chronic Meningitis) ระยะเวลาดำเนินโรคมากกว่า 4 สัปดาห์ อาจเกิดจากการติดเชื้อที่มีการแบ่งตัวช้า หรือการอักเสบที่ไม่ได้มาจากการติดเชื้อ
สาเหตุที่ก่อให้เกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบ มีอะไรบ้าง?
เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากการติดเชื้อไวรัส (Viral Meningitis)
เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากการติดเชื้อไวรัสเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อย มักมีอาการไม่รุนแรง สามารถรักษาตามอาการหรือหายได้เอง และมีโอกาสน้อยที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อน ยกตัวอย่างเชื้อไวรัสที่สามารถทำให้เกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบ เช่น
- ไข้หวัดใหญ่ (Influenza virus)
- เริม (Herpes simplex virus; HSV)
- คางทูม (Mumps virus)
- อีสุกอีใส (Varicella virus)
- หัดเยอรมัน (Rubella virus)
เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรีย (Bacterial Meningitis)
เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรียเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดความรุนแรงและอันตรายที่สุด หากไม่ได้รับการรักษาทันที มีโอกาสที่จะเสียชีวิตได้ภายใน 24 ชั่วโมงหรืออาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างถาวร พบได้บ่อยในเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีภูมิต่ำ ยกตัวอย่างเชื้อแบคทีเรียที่สามารถทำให้เกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบ เช่น
- Streptococcus pneumoniae
- Streptococcus agalactiae
- Neisseria meningitidis
- Haemophilus influenzae type b (Hib)
- Escherichia coli
- Mycobacterium tuberculosis
เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากการติดเชื้อรา (Fungal Meningitis)
เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากการติดเชื้อราเป็นสาเหตุที่พบได้น้อย ส่วนมากจะพบในผู้ที่ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น ผู้ป่วยเอดส์
เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากการติดเชื้อปรสิต (Parasitic Meningitis)
เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากการติดเชื้อปรสิตเป็นสาเหตุที่พบได้น้อยมาก แต่หากเกิดการติดเชื้อขึ้นมักจะก่อให้เกิดอาการรุนแรงและมีโอกาสเสียชีวิตสูงมากโดยเชื้อปรสิตที่ก่อให้เกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบมีหลายชนิด ยกตัวอย่างเช่น
- Naegleria fowleri
- Angiostrongylus cantonensis
- Gnathostoma spinigerum
- Baylisascaris procyonis
เยื่อหุ้มสมองอักเสบที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ (Non-infectious Meningitis)
เยื่อหุ้มสมองสามารถเกิดการอักเสบขึ้นได้จากสาเหตุนอกเหนือจากการติดเชื้อ โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดการอักเสบมีดังต่อไปนี้
- โรคระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ เช่น โรคแพ้ภูมิตัวเอง
- การใช้ยาบางชนิด
- การลุกลามของเซลล์มะเร็งบางชนิด
- การผ่าตัดสมอง
- การบาดเจ็บที่ศีรษะ
อาการแบบไหนอาจเป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบ

เยื่อหุ้มสมองอักเสบเป็นภาวะฉุกเฉินที่พบได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิดจนถึงผู้ใหญ่ โดยอาการที่อาจพบได้มีดังนี้
- ปวดศีรษะรุนแรง
- มีไข้สูง
- อาเจียน
- คอแข็ง ก้มไม่ได้
- มีอาการสับสน ซึม หมดสติ
- ชัก
- เบื่ออาหาร
- แพ้แสง
กรณีโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบเกิดในเด็กทารกอาจสังเกตอาการผิดปกติได้ดังต่อไปนี้
- มีไข้สูง
- กระหม่อมนูน
- ร้องไห้ตลอดเวลา
- ไม่ยอมดื่มนม หรือดื่มน้อยมาก
- ปลุกไม่ค่อยตื่น
- ไม่ค่อยขยับตัว เฉื่อยชา
การวินิจฉัยเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
การวินิจฉัยเยื่อหุ้มสมองอักเสบจะเริ่มต้นที่การซักประวัติผู้ป่วย และตรวจร่างกายเบื้องต้นว่ามีลักษณะอาการที่บ่งบอกถึงการอักเสบของเยื่อหุ้มสมองหรือไม่ เช่น อาการคอแข็ง อุณหภูมิร่างกาย ระดับการรับรู้ ร่วมกับการตรวจอื่น ๆ เช่น
- การตรวจเลือด และการเจาะน้ำไขสันหลัง เพื่อตรวจหาเชื้อที่ก่อให้เกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
- การทำ CT Scan หรือ MRI เพื่อตรวจดูการอักเสบและความเสียหายของเยื่อหุ้มสมองที่เกิดขึ้น
การรักษาเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
การรักษาเยื่อหุ้มสมองอักเสบขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ก่อให้เกิดอาการ และระดับความรุนแรงของการอักเสบ ซึ่งสามารถแบ่งวิธีการรักษาได้ดังนี้
- การรักษาโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากการติดเชื้อไวรัส
ผู้ป่วยส่วนมากมีอาการไม่รุนแรง คล้ายกับไข้หวัด การรักษาจึงมักเป็นการรักษาตามอาการ ร่วมกับการพักผ่อนเพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูได้เต็มที่
- การรักษาโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรีย
ผู้ป่วยจะต้องได้รับยาปฏิชีวนะผ่านหลอดเลือดดำโดยเร็วที่สุด โดยชนิดของยาปฏิชีวนะที่ใช้ขึ้นอยู่กับชนิดเชื้อแบคทีเรียก่อโรค
- การรักษาโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากการติดเชื้อรา
ผู้ป่วยจะได้รับยาต้านเชื้อราทางหลอดเลือดดำ
- การรักษาโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากการติดเชื้อปรสิต
ผู้ป่วยจะต้องได้รับยายาฆ่าปรสิตผ่านหลอดเลือดดำโดยเร็วที่สุด แต่ส่วนใหญ่แล้วมักจะรับการรักษาไม่ทัน เนื่องจากการดำเนินโรคเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
- การรักษาโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ
แนวทางการรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ก่อให้เกิดการอักเสบ เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากโรคแพ้ภูมิตนเอง อาจต้องได้รับยากดภูมิคุ้มกัน หรือกรณีเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากการใช้ยา เมื่อหยุดยาอาการก็มักจะดีขึ้น
ทั้งนี้ แพทย์อาจให้ผู้ป่วยนอนโรงพยาบาลเพื่อติดตามอาการอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงและจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง
แนวทางการป้องกันเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
สาเหตุส่วนใหญ่ของการเกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบเกิดจากการติดเชื้อ ดังนั้นการป้องกันจึงทำได้ด้วยการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ซึ่งมีแนวทางการปฏิบัติตนดังนี้
- ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนและหลังเข้าห้องน้ำ และเมื่อต้องใช้มือในการหยิบจับสัมผัสอาหาร
- รับประทานอาหารปรุงสุก สะอาด หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ หรืออาหารที่ไม่ทราบแหล่งที่มา
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบหมู่ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและความแข็งแรงของร่างกาย
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด อากาศไม่ถ่ายเท และควรใส่แมสก์ป้องกันการติดเชื้อ
- รักษาสุขอนามัยส่วนตัว ไม่ใช้ของหรือรับประทานอาหารร่วมกับใคร
- เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ภาวะฉุกเฉินการแพทย์ที่ต้องได้รับการรักษาโดยเร็ว
การตรวจและวินิจฉัยเยื่อหุ้มสมองอักเสบอย่างรวดเร็วและแม่นยำ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการฟื้นตัว ลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนรุนแรง และช่วยให้ผู้ป่วยกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีในแบบที่ควรจะเป็น
ศูนย์สมองและระบบประสาท โรงพยาบาลพระรามเก้า เราจึงเตรียมพร้อมรับมือกับภาวะฉุกเฉินโดยทีมแพทย์เฉพาะทางโรคสมองและระบบประสาท เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่เหมาะสมอย่างทันท่วงที พร้อมดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดกระบวนการรักษา และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติอีกครั้ง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
- Facebook : Praram 9 hospital
- Line : @Praram9Hospital
- โทร. 1270
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
1. เยื่อหุ้มสมองอักเสบอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอย่างไร?
ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นจากเยื่อหุ้มสมองอักเสบขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ก่อให้เกิดการอักเสบและระดับความรุนแรงที่เกิดขึ้น ยกตัวอย่างภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ได้แก่ สมองได้รับความเสียหาย เกิดปัญหาทางระบบประสาท การแพร่กระจายของเชื้อไปยังส่วนอื่นของร่างกาย หรือเกิดความพิการ เป็นต้น
References
Meningitis. (2023, April 17). WHO. https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/meningitis
Lights, V. (2023, November 27). Meningitis: Everything You Need to Know. Healthline. https://www.healthline.com/health/meningitis#What-is-meningitis