Skip to content
  • TH
    • EN
    • CN
    • AR
  • TH
    • EN
    • CN
    • AR
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • Health Guru
    • บทความสุขภาพ
    • Doctor’s Health Insights
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา
Menu
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • Health Guru
    • บทความสุขภาพ
    • Doctor’s Health Insights
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา

ปัสสาวะบ่อย อย่าปล่อยไว้ เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนโรคอันตรายที่ต้องรักษา

พญ.ชโลธร แต้ศิลปสาธิต

บทความ

โรงพยาบาลพระรามเก้า

  • วันที่โพสต์ 21 มิถุนายน 2025
ปัสสาวะบ่อย

ปัสสาวะบ่อยอาจไม่ได้จบเพียงแค่ความน่ารำคาญใจเท่านั้น เพราะอาจกลายเป็นหนึ่งในสัญญาณเตือนถึงโรคอันตรายต่าง ๆ ที่ซุกซ่อนอยู่ โดยเฉพาะอาการปัสสาวะบ่อยร่วมกับอาการผิดปกติอื่น ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพกายและสุขภาพใจได้ไม่น้อย แต่ก่อนอื่นจะต้องทราบก่อนว่าปัสสาวะแบบไหนเรียกว่าบ่อย และแบบไหนที่ต้องรีบพบแพทย์ เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสมต่อไป

Key Takeaways

  • อาการที่นับว่าปัสสาวะบ่อย ได้แก่ ปัสสาวะมากกว่า 7 ครั้งต่อวัน 
  • การปัสสาวะบ่อยอาจเกิดขึ้นได้จากการดื่มน้ำมาก หรือความผิดปกติที่เกิดจากโรคต่าง ๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคไต โรคทางเดินปัสสาวะ รวมไปถึงการตั้งครรภ์ก็สามารถทำให้ปัสสาวะบ่อยเช่นกัน
  • ปัสสาวะบ่อยร่วมกับอาการผิดปกติอื่น เช่น มีเลือดปนในปัสสาวะ, ปัสสาวะแสบขัด, กลั้นปัสสาวะไม่อยู่, มีไข้สูง, ปัสสาวะเป็นฟอง ควรจะต้องพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม

สารบัญบทความ

  • ปัสสาวะแบบไหนเรียกว่าบ่อย แล้วแบบไหนเรียกว่าผิดปกติ
  • รวมสาเหตุปัสสาวะบ่อยเกิดจากอะไร?
  • สัญญาณเตือน! ปัสสาวะบ่อยเสี่ยงโรคอะไร?
  • อาการปัสสาวะบ่อยแบบไหนที่ต้องพบแพทย์?
  • แนะนำวิธีป้องกัน และการดูแลสุขภาพเมื่อปัสสาวะบ่อย
  • ปัสสาวะบ่อย อาจเป็นสัญญาณเตือนโรคอันตราย รีบตรวจสุขภาพ เพื่อรักษาสุขภาพที่ดีในระยะยาว
  • คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับปัสสาวะบ่อย

ปัสสาวะแบบไหนเรียกว่าบ่อย แล้วแบบไหนเรียกว่าผิดปกติ

ปัสสาวะปกติ ปริมาณเท่าไหร่? ปกติปัสสาวะของผู้ที่ไม่มีปัญหาสุขภาพจะมีปริมาณอยู่ที่ 250-500 ซีซีต่อครั้ง และภายใน 24 ชั่วโมงอาจปัสสาวะประมาณ 5-6 ครั้งต่อวัน หรือมากสุดน้อยกว่า 8 ครั้งต่อวันโดยไม่มีอาการปวดปัสสาวะหลังนอนหลับไปแล้ว แต่หากมีการปัสสาวะจำนวนครั้งมากกว่าที่กล่าวถึง อาจแสดงถึงภาวะปัสสาวะบ่อย (Frequent Urination) ได้

ทั้งนี้หากการปัสสาวะบ่อยนั้นเกิดขึ้นในช่วงเวลากลางคืน ต้องลุกขึ้นมาปัสสาวะทั้ง ๆ ที่นอนหลับไปแล้วมากกว่า 2 ครั้งเป็นต้นไปจนรบกวนการนอนหลับ จะนับว่าเป็นอาการฉี่กลางคืน (Nocturia) ซึ่งอาจนับว่าเป็นความผิดปกติที่ควรเข้ารับการตรวจวินิจฉัยเช่นกัน

รวมสาเหตุปัสสาวะบ่อยเกิดจากอะไร?

ปัสสาวะบ่อยเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุปัจจัย ซึ่งอาจเป็นเพียงปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยร่วมกันก็ได้ ดังนี้

  • การดื่มน้ำหรือของเหลวในปริมาณมากกว่าปกติ
  • การได้รับสารที่มีฤทธิ์กระตุ้นการปัสสาวะ เช่น การดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหรือแอลกอฮอล์ การรับประทานยาขับปัสสาวะ
  • สภาพแวดล้อม เช่น การอยู่ในที่อากาศเย็นเกินไป 
  • ความเครียดและสภาพจิตใจที่ผิดปกติ ส่งผลกระทบต่อระบบประสาท ที่อาจไปกระตุ้นให้ปัสสาวะบ่อย
  • โรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินปัสสาวะ ที่อาจกระตุ้นให้กระเพาะปัสสาวะบีบตัวเกิน
  • โรคที่ส่งผลกระทบต่อความจุของกระเพาะปัสสาวะ ทำให้กระเพาะปัสสาวะจุน้ำปัสสาวะน้อยลง และปวดปัสสาวะบ่อยขึ้น
  • โรคเรื้อรังที่มีผลต่อปริมาณน้ำปัสสาวะที่เพิ่มขึ้นผิดปกติ
  • การตั้งครรภ์

สัญญาณเตือน! ปัสสาวะบ่อยเสี่ยงโรคอะไร?

ปัสสาวะบ่อยเสี่ยงโรคอะไร

ปัสสาวะบ่อยไม่ได้เกิดจากการดื่มน้ำเยอะเพียงอย่างเดียว หากใครที่กำลังเผชิญกับปัญหาปัสสาวะบ่อย ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ดื่มน้ำมาก อาจต้องระมัดระวังสัญญาณเตือนจากโรคดังต่อไปนี้

  • โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ เกิดจากการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
  • เนื้องอกในกระเพาะปัสสาวะ นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ ล้วนทำให้กระเพาะปัสสาวะมีพื้นที่จุลดลง จนทำให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น
  • โรคไต เกิดจากไตเสื่อมสภาพและไม่สามารถทำหน้าที่ในการดูดน้ำกลับสู่ร่างกายได้ตามปกติ
  • โรคเบาหวาน ทำให้มีปริมาณน้ำตาลกลูโคสในเลือดสูง จนร่างกายจำเป็นต้องขับออกทางปัสสาวะ 
  • โรคเบาจืด ทำให้ร่างกายไม่สามารถควบคุมสมดุลของน้ำในร่างกายได้ ส่งผลให้ปัสสาวะบ่อยและมากกว่าปกติ
  • โรคระบบสืบพันธุ์ เช่น เนื้องอกมดลูก มดลูกหย่อน เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ต่อมลูกหมากโต เป็นต้น
  • โรคทางระบบประสาท และโรคที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมปัสสาวะ เช่น ภาวะกระเพาะปัสสาวะบีบตัวเกิน ท่อปัสสาวะตีบ หูรูดท่อปัสสาวะหลวม

อาการปัสสาวะบ่อยแบบไหนที่ต้องพบแพทย์?

ปวดฉี่บ่อย

การปัสสาวะบ่อย ๆ อาจเป็นอันตรายกว่าที่คิด ปัสสาวะบ่อยแบบไหนบ้างที่ควรเข้าพบแพทย์

  • ปัสสาวะบ่อยร่วมกับการมีไข้สูง
  • ปัสสาวะบ่อยแต่ปริมาณน้ำปัสสาวะแต่ละครั้งน้อย กะปริบกะปรอย หรือมีอาการปัสสาวะไม่สุด
  • ปวดปัสสาวะบ่อยกลางคืน ต้องลุกมาเข้าห้องน้ำมากกว่า 2 ครั้งต่อคืน
  • ปัสสาวะบ่อยพร้อมกับอาการแสบขัด
  • ปัสสาวะมีเลือดปน หรือน้ำปัสสาวะมีสีผิดปกติ 
  • ปัสสาวะเป็นฟอง 
  • ปัสสาวะบ่อยร่วมกับการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่

แนะนำวิธีป้องกัน และการดูแลสุขภาพเมื่อปัสสาวะบ่อย

การปัสสาวะบ่อย ๆ นั้นส่งผลกระทบต่อสุขภาพกายแล้วยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตใจได้ด้วย เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ปัสสาวะบ่อย ๆ และดูแลสุขภาพให้กลับมาปัสสาวะเป็นปกติโดยเร็ว สามารถปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้

  • หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีฤทธิ์กระตุ้นการปัสสาวะ เช่น ชา กาแฟที่มีคาเฟอีน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฯลฯ
  • ปรับพฤติกรรมการดื่มน้ำ เช่น ลดการดื่มน้ำก่อนนอน ดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอ ไม่น้อยไป ไม่มากไป
  • ปรับพฤติกรรมการปัสสาวะ เช่น ปัสสาวะเป็นเวลา ไม่กลั้นปัสสาวะนานๆ ฯลฯ
  • ดูแลและควบคุมโรคประจำตัวให้อาการคงที่ เช่น หากเป็นโรคเบาหวาน ให้ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
  • เข้ารับการรักษาโรคที่เกี่ยวข้อง เช่น การผ่าตัดเนื้องอกมดลูก เพื่อไม่ให้เนื้องอกมดลูกกดทับกระเพาะปัสสาวะ การเข้ารับการรักษาโรคต่อมลูกหมากโต  
  • คอยสังเกตปริมาณและจำนวนครั้งที่ปัสสาวะ รวมถึงอาการอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อปัสสาวะ หากมีความผิดปกติควรรีบปรึกษาแพทย์ 

ปัสสาวะบ่อย อาจเป็นสัญญาณเตือนโรคอันตราย รีบตรวจสุขภาพ เพื่อรักษาสุขภาพที่ดีในระยะยาว 

อาการปัสสาวะบ่อยเป็นบางครั้งบางคราวอาจเกิดขึ้นได้จากพฤติกรรมการดื่มน้ำ สภาพอากาศ และสภาพจิตใจในขณะนั้น ซึ่งเป็นภาวะปกติที่ไม่ต้องรักษา แต่หากปัสสาวะบ่อยเป็นประจำ หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมกับปัสสาวะบ่อย อาจต้องเข้ารับการตรวจวินิจฉัยเพื่อหาสาเหตุและรับการรักษาที่ถูกต้องต่อไป

อย่าปล่อยให้การปัสสาวะบ่อย ๆ กลายเป็นปัญหาเรื้อรังที่คอยบั่นทอนสุขภาพกายและสุขภาพใจ แนะนำให้เข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อติดตามข้อมูลสุขภาพของตนเองอย่างใกล้ชิด พร้อมรับคำแนะนำในการดูแลสุขภาพโดยแพทย์ เพื่อรักษาสุขภาพที่แข็งแรงเอาไว้ได้อีกยาวนาน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

  • Facebook : Praram 9 hospital  
  • Line : @Praram9Hospital
  • โทร. 1270

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับปัสสาวะบ่อย

1. การวินิจฉัยปัสสาวะบ่อยมีขั้นตอนอย่างไร?

การวินิจฉัยอาการปัสสาวะบ่อยเริ่มต้นจากการซักประวัติสุขภาพ เช่น ความถี่ในการปัสสาวะ ปริมาณปัสสาวะแต่ละครั้ง อาการร่วมเมื่อปัสสาวะ รวมถึงพฤติกรรมการดื่มน้ำ การใช้ยา หรือโรคประจำตัว จากนั้นอาจเก็บตัวอย่างปัสสาวะและเลือดของผู้ป่วยสำหรับการตรวจในห้องปฏิบัติการเพื่อหาสาเหตุของการเกิดปัสสาวะบ่อย กรณีที่แพทย์สงสัยว่าอาการปัสสาวะบ่อยเกิดจากอวัยวะใดอวัยวะหนึ่ง และต้องการตรวจหาความผิดปกติ อาจมีการตรวจด้วยเครื่องมือแพทย์เพิ่มเติม เช่น อัลตราซาวนด์, CT Scan การส่องกล้อง เป็นต้น

References 

Dunkin, MA. (2023, September 5). Frequent Urination: Causes and Treatments. WebMD. https://www.webmd.com/urinary-incontinence-oab/frequent-urination-causes-and-treatments

Paddock, C. (2025, February 14). Why do I have to pee all the time?. MedicalNewsToday. https://www.medicalnewstoday.com/articles/70782

บทความล่าสุด

ผ่าตัดไส้เลื่อน

ผ่าตัดไส้เลื่อน วิธีรักษาไส้เลื่อนที่มีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนรุนแรง

อ่านเพิ่มเติม
เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

ผู้หญิงควรรู้! เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่คืออะไร มีสัญญาณเตือนอย่างไรบ้าง?

อ่านเพิ่มเติม
เนื้องอกมดลูก

เนื้องอกมดลูก อันตรายใกล้ตัวที่ควรรีบรักษา เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

อ่านเพิ่มเติม
ดูบทความทั้งหมด

ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกับ Praram 9 V

ปรึกษาแพทย์ได้ทุกที่ผ่านทางวิดีโอคอล (Telemedicine)

  • Praram 9 Hospital
  • @praram9hospital

แพทย์ผู้เขียนบทความ

 

ศูนย์แพทย์

1677919536144

สถาบันโรคไตและเปลี่ยนไต

เยี่ยมชม

ดูทั้งหมด

บทความอื่นๆ

ผ่าตัดไส้เลื่อน

ผ่าตัดไส้เลื่อน วิธีรักษาไส้เลื่อนที่มีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนรุนแรง

ผ่าตัดไส้เลื่อน เป็นวิธีรักษาไส้เลื่อนที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด โดยเฉพาะการผ่าแบบส่องกล้อง จะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนรุนแรง และลดการเป็นซ้ำได้

อ่านเพิ่มเติม
เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

ผู้หญิงควรรู้! เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่คืออะไร มีสัญญาณเตือนอย่างไรบ้าง?

เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) คือภาวะที่เนื้อเยื่อในโพรงมดลูกเจริญนอกมดลูก เช่น รังไข่หรือท่อนำไข่ ทำให้เกิดการอักเสบและปวดท้องประจำเดือนรุนแรง

อ่านเพิ่มเติม
เนื้องอกมดลูก

เนื้องอกมดลูก อันตรายใกล้ตัวที่ควรรีบรักษา เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

เนื้องอกมดลูก มีสาเหตุมาจากเซลล์กล้ามเนื้อมดลูกเจริญผิดปกติ ผู้ป่วยส่วนมากมักไม่แสดงอาการ และผู้ป่วยบางส่วนอาจมีอาการปวดท้องน้อยรุนแรง ท้องผูก ปัสสาวะบ่อย

อ่านเพิ่มเติม
อ่านบทความทั้งหมด
Facebook-f Youtube Instagram Line
  • 1270
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • นัดหมาย
  • บทความสุขภาพ
  • แพ็กเกจ
  • ข่าว และกิจกรรม รพ.
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • นักลงทุนสัมพันธ์
  • การพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน
  • ร่วมงานกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • ข้อกำหนดและเงื่อนไข

Copyright © 2025 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital

  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • Health Guru
    • บทความสุขภาพ
    • Doctor’s Health Insights
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา