Skip to content
  • TH
    • EN
    • CN
    • AR
  • TH
    • EN
    • CN
    • AR
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • Health Guru
    • บทความสุขภาพ
    • Praram 9 Star Doctors
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา
Menu
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • Health Guru
    • บทความสุขภาพ
    • Praram 9 Star Doctors
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา

HPV vaccine ป้องกันมะเร็งปากมดลูก พร้อมถาม-ตอบ

พญ.สมฤดี อุปลวัณณา

บทความ

โรงพยาบาลพระรามเก้า

  • วันที่โพสต์ 21 กุมภาพันธ์ 2023
HPV vaccine ป้องกันมะเร็งปากมดลูก

จากสถิติมะเร็งในสตรีไทยของ Globocan ปี 2020 พบว่า มะเร็งปากมดลูกพบมากเป็นอันดับที่ 3 รองจากมะเร็งเต้านมและมะเร็งลำไส้ และเป็นมะเร็งที่มีอัตราการตายเป็นอันดับ 2 ของผู้หญิงทั่วโลก สาเหตุของมะเร็งปากมดลูกเกือบ 100% เกิดจากเชื้อไวรัส HPV ที่มีชื่อเต็มคือ Human papilloma virus โดยเชื้อ HPV จะเข้าไปเปลี่ยนเซลล์ปากมดลูกให้มีความผิดปกติและกลายเป็นเซลล์มะเร็งในที่สุด

ปัจจุบันแพทย์จะแนะนำให้ผู้หญิงเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก และฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส HPV หรือที่เรียกว่า HPV วัคซีน เพื่อลดโอกาสเสี่ยงและป้องกันการเกิดมะเร็งปากมดลูก (https://www.praram9.com/cervical-cancer/)

สารบัญ

  • วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV vaccine) คืออะไร?
  • วัคซีน HPV มีกี่ชนิด?
  • วัคซีน HPV ฉีดช่วงวัยไหนเหมาะสมที่สุด?
  • วัคซีน HPV ต้องฉีดกี่เข็ม?
  • มีเพศสัมพันธ์แล้ว ยังแนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกหรือไม่?
  • หญิงตั้งครรภ์ฉีด HPV vaccine ได้หรือไม่?
  • เคยติดเชื้อไวรัส HPV มาแล้ว การฉีดวัคซีนยังมีประโยชน์หรือไม่?
  • ผลข้างเคียงที่อาจพบได้หลังฉีดวัคซีน HPV vaccine
  • ฉีด HPV vaccine แล้วป้องกันได้นานแค่ไหน?
  • เคยฉีดวัคซีน HPV ชนิด 2 สายพันธุ์ และ 4 สายพันธุ์ มาก่อน จะยังฉีดชนิด 9 สายพันธุ์ได้หรือไม่?
  • คำแนะนำจากแพทย์

วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV vaccine) คืออะไร?

HPV vaccine เป็นวัคซีนที่ป้องกันการติดเชื้อไวรัสที่ชื่อว่า Human papilloma virus หรือ HPV ที่เป็นสาเหตุส่วนใหญ่ของการเกิดมะเร็งปากมดลูกซึ่งติดต่อได้ทางเพศสัมพันธ์ โดยไวรัส HPV แบ่งออกเป็น สายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูง (high risk HPV) ที่ก่อให้เกิดมะเร็ง เช่น สายพันธุ์ 16, 18, 31, 33, 35, 45, 52, 58 และสายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงต่ำ (low risk HPV) ที่ก่อให้เกิดโรคหูด เช่น สายพันธุ์ 6 ,11

สาเหตุของมะเร็งปากมดลูก

> กลับสู่สารบัญ

วัคซีน HPV มีกี่ชนิด?

วัคซีนมะเร็งปากมดลูกมี 3 ชนิด ได้แก่

  • ชนิด 2 สายพันธุ์ (สายพันธุ์ 16 และ 18): สามารถป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้ถึง 70% 
  • ชนิด 4 สายพันธุ์ (สายพันธุ์ 6, 11, 16 และ 18): สามารถป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้ถึง 70% และป้องโรคหูดหงอนไก่และมะเร็งทวารหนักในเด็กผู้ชายได้ด้วย
  • วัคซีนชนิด 9 สายพันธุ์ (สายพันธุ์ 6, 11, 16, 18, 31, 33, 45, 52 และ 58): เป็นวัคซีนตัวใหม่ล่าสุด สามารถป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้ถึง 90%

> กลับสู่สารบัญ

วัคซีน HPV ฉีดช่วงวัยไหนเหมาะสมที่สุด?

  • จะให้ผลดีที่สุดเมื่อฉีดในคนที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์
  • ฉีดได้ทั้งในเพศหญิงและเพศชาย โดยเพศหญิงสามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุ 9-45 ปี และเพศชายตั้งแต่อายุ 9-26 ปี

> กลับสู่สารบัญ

วัคซีน HPV ต้องฉีดกี่เข็ม?

  • ในช่วงอายุ 9-15 ปี ฉีด 2 เข็ม โดยเข็มที่สองฉีดห่างจากเข็มแรกอย่างน้อย 6 เดือนแต่ไม่เกิน 12 เดือน
  • อายุมากกว่า 15 ปี ฉีด 3 เข็ม โดยฉีดแต่ละเข็มในเดือนที่ 0, 2 และ 6 จากการฉีดเข็มแรก

> กลับสู่สารบัญ

มีเพศสัมพันธ์แล้ว ยังแนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกหรือไม่?

ผู้หญิงที่เคยมีเพศสัมพันธ์แล้ว หรือยังมีเพศสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอ อาจจะเคยมีการติดเชื้อ HPV บางสายพันธุ์มาแล้ว แต่แพทย์ก็ยังคงแนะนำให้ฉีด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ HPV สายพันธุ์ที่ยังไม่ได้มีการติดเชื้อมาก่อน และยังสามารถป้องกันการติดเชื้อไปสู่คู่นอนได้อีกด้วย

> กลับสู่สารบัญ

หญิงตั้งครรภ์ฉีด HPV vaccine ได้หรือไม่?

ถึงแม้ว่า HPV vaccine จะถือว่าค่อนข้างปลอดภัยสำหรับสตรีตั้งครรภ์ แต่ก็ไม่แนะนำให้ฉีดเมื่อทราบว่าตั้งครรภ์แล้ว ถ้าฉีดวัคซีน HPV 1-2 เข็มไปแล้วบังเอิญตั้งครรภ์ แนะนำให้ฉีดเข็มที่เหลือจนครบ 3 เข็มในช่วงหลังคลอด หรือช่วงให้นมบุตร อย่างไรก็ตามในงานวิจัยยังไม่พบว่าวัคซีนมะเร็งปากมดลูกมีผลเสียต่อการตั้งครรภ์และทารก เช่น แท้ง ทารกพิการ และการคลอดก่อนกำหนด จึงไม่มีข้อบ่งชี้ให้ยุติการตั้งครรภ์ ถ้าได้ตั้งครรภ์ในช่วงที่ฉีดวัคซีน

> กลับสู่สารบัญ

เคยติดเชื้อไวรัส HPV มาแล้ว การฉีดวัคซีนยังมีประโยชน์หรือไม่?

การฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกยังคงมีประโยชน์ ถึงแม้ว่าจะเคยติดเชื้อไวรัส HPV มาแล้ว เพราะสามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อ HPV ในสายพันธุ์อื่น ๆ ที่ยังไม่เคยติดเชื้อมาก่อนได้

> กลับสู่สารบัญ

ผลข้างเคียงที่อาจพบได้หลังฉีดวัคซีน HPV vaccine

หลังจากฉีดวัคซีนอาจมีอาการข้างเคียงที่พบได้ ได้แก่ อาจมีอาการปวด บวม แดง คัน มีจ้ำเลือด มีตุ่มนู่นบริเวณที่ฉีด และอาจมีอาการข้างเคียงอื่น ๆ ที่พบเล็กน้อย ซึ่งพบได้หลังฉีดวัคซีนไปแล้ว 1-15 วัน เช่น ปวดศีรษะ, มีไข้, คลื่นไส้, เวียนศีรษะ, อ่อนเพลีย, ถ่ายเหลว, เจ็บช่องปากและคอ และมีอาการปวดท้องบริเวณช่องท้องส่วนบน

> กลับสู่สารบัญ

ฉีด HPV vaccine แล้วป้องกันได้นานแค่ไหน?

หลังฉีด HPV vaccine แล้วสามารถป้องกันโรคได้นานกว่า 10 ปี และจากข้อมูลพบว่าหลังจาก 10 ปี วัคซีนยังคงมีประสิทธิภาพในการป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้ถึง 90% จึงยังไม่มีคำแนะนำให้ฉีดกระตุ้นซ้ำ

> กลับสู่สารบัญ

เคยฉีดวัคซีน HPV ชนิด 2 สายพันธุ์ และ 4 สายพันธุ์ มาก่อน จะยังฉีดชนิด 9 สายพันธุ์ได้หรือไม่?

ในกลุ่มที่ได้รับ HPV vaccine  ชนิด 2 และ 4 สายพันธุ์ ครบ 3 เข็มมาก่อนหน้านี้ และอยากฉีด HPV vaccine  ชนิด 9 สายพันธุ์สามารถทำได้ ในกรณีนี้จะเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันมะเร็งปากมดลูกจาก 70% เป็น 90% และควรเริ่มต้นฉีดวัคซีนชนิด 9 สายพันธุ์เข็มแรกห่างจากเข็มสุดท้ายของวัคซีนชนิด 2 และ 4 สายพันธุ์ อย่างน้อย 12 เดือน แต่หากมีข้อติดขัดเรื่องค่าใช้จ่ายแพทย์อาจจะไม่ได้แนะนำการฉีด HPV vaccine ชนิด 9 สายพันธุ์ซ้ำเพราะวัคซีนชนิด 2 และ 4 สายพันธุ์ก็มีประสิทธิภาพการป้องกันได้ถึง 70%

> กลับสู่สารบัญ

คำแนะนำจากแพทย์

พญ.สมฤดี อุปลวัณณา สูติแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งนรีเวชวิทยา ได้ฝากคำแนะนำเกี่ยวกับโรคมะเร็งปากมดลูก และวัคซีนมะเร็งปากมดลูกสำหรับผู้อ่านทุก ๆ ท่านว่า

พญ.สมฤดี อุปลวัณณา

“มะเร็งปากมดลูก เป็นมะเร็งไม่กี่ชนิดที่สามารถป้องกันได้ ไม่ว่าจะเป็นการฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูกที่เป็นการป้องกันขั้นเริ่มแรกโดยเป็นการป้องกันปากมดลูกไม่ให้ติดเชื้อ HPV และการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก เป็นการป้องกันระยะที่สอง ซึ่งคือการตรวจคัดกรองหารอยโรคเพื่อทำการรักษาอย่างทันท่วงที ทั้งนี้การฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก หรือวัคซีน HPV และการตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งปากมดลูกได้เป็นอย่างดีค่ะ”

ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกับ Praram 9 V ปรึกษาแพทย์ได้ทุกที่ผ่านทางวิดีโอคอล (Telemedicine)

สนใจนัดหมาย

> กลับสู่สารบัญ

บทความล่าสุด

ปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ

ปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ ปัญหายอดฮิตของคนใช้งานข้อมือหนัก

อ่านเพิ่มเติม
กล้ามเนื้ออ่อนแรง

กล้ามเนื้ออ่อนแรง ALS MH และ SMA อาการต่างกันอย่างไร รักษาหายไหม?

อ่านเพิ่มเติม
การตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจมะเร็ง

การตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจมะเร็ง (Biopsy) หมดความสงสัย วินิจฉัยได้อย่างแม่นยำ

อ่านเพิ่มเติม
ดูบทความทั้งหมด

ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกับ Praram 9 V

ปรึกษาแพทย์ได้ทุกที่ผ่านทางวิดีโอคอล (Telemedicine)

  • Praram 9 Hospital
  • @praram9hospital

แพทย์ผู้เขียนบทความ

พญ.สมฤดี อุปลวัณณา

พญ.สมฤดี อุปลวัณณา

ศูนย์สูตินรีเวช

นัดหมาย

ประวัติเพิ่มเติม

 

ศูนย์แพทย์

ศูนย์สูตินรีเวช_1-1

ศูนย์สูตินรีเวช

เยี่ยมชม

ดูทั้งหมด

บทความอื่นๆ

ปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ

ปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ ปัญหายอดฮิตของคนใช้งานข้อมือหนัก

ปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ คือโรคที่เกิดจากปลอกหุ้มเส้นเอ็นที่ใช้กางนิ้วหัวแม่มือที่อยู่บริเวณข้อมือเกิดการอักเสบ ทำให้มีอาการปวดข้อมือเมื่อใช้งาน มักเกิดจากการใช้งานข้อมือหนัก

อ่านเพิ่มเติม
กล้ามเนื้ออ่อนแรง

กล้ามเนื้ออ่อนแรง ALS MH และ SMA อาการต่างกันอย่างไร รักษาหายไหม?

โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงสามารถแบ่งได้หลายชนิด ซึ่งจะมีสาเหตุและอาการหลายแบบ วิธีรักษาเองก็หลากหลายตามไปด้วย รักษาแล้วหายขาดไหม? ติดตามได้ในบทความนี้!

อ่านเพิ่มเติม
การตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจมะเร็ง

การตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจมะเร็ง (Biopsy) หมดความสงสัย วินิจฉัยได้อย่างแม่นยำ

การตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจมะเร็ง (Biopsy) คือวิธีที่นิยมในการวินิจฉัยมะเร็ง เนื่องจากความแม่นยำและละเอียดในการบ่งชี้ประเภทของมะเร็ง ทำได้อย่างไร? บทความนี้มีคำตอบ!

อ่านเพิ่มเติม
อ่านบทความทั้งหมด
Facebook-f Youtube Instagram Line
  • 1270
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • นัดหมาย
  • บทความสุขภาพ
  • แพ็กเกจ
  • ข่าว และกิจกรรม รพ.
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • นักลงทุนสัมพันธ์
  • การพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน
  • ร่วมงานกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • ข้อกำหนดและเงื่อนไข

Copyright © 2025 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital

  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • Health Guru
    • บทความสุขภาพ
    • Praram 9 Star Doctors
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา