Skip to content
  • TH
    • EN
    • CN
    • AR
  • TH
    • EN
    • CN
    • AR
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • Health Guru
    • บทความสุขภาพ
    • Praram 9 Star Doctors
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา
Menu
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • Health Guru
    • บทความสุขภาพ
    • Praram 9 Star Doctors
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา

PCNL วิธีรักษานิ่วในไตแบบใหม่ด้วยการส่องกล้องผ่านทางผิวหนัง

บทความ

โรงพยาบาลพระรามเก้า

  • วันที่โพสต์ 9 เมษายน 2024
PCNL รักษานิ่วในไตแบบใหม่

หากพูดถึงนิ่วในร่างกายคนเรา นิ่วที่มักจะได้ยินบ่อย ๆ จะเกิดอยู่ที่ 2 บริเวณ คือ นิ่วในถุงน้ำดี และนิ่วในทางเดินปัสสาวะ ซึ่งนิ่วของสองอวัยวะนี้แตกต่างกันแม้จะเป็นนิ่วเหมือนกัน แต่กลไกการเกิดโรคต่างกัน จึงต้องรักษาโดยแพทย์เฉพาะทางคนละระบบ ในบทความนี้จะกล่าวถึงวิธีการรักษานิ่วในไตด้วยวิธีใหม่ที่ดีขึ้นกว่าเดิม นั่นคือ PCNL หรือ percutaneous nephrolithotomy หรือการผ่าตัดนิ่วในไตโดยการเจาะรูส่องกล้องผ่านผิวหนัง

โรคนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะเป็นโรคที่พบได้บ่อยโรคหนึ่ง โดยนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะที่พบได้มากที่สุดจะเป็นนิ่วในไต รองลงมาเป็นนิ่วในท่อไต นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ และนิ่วในท่อปัสสาวะ ตามลำดับ ในประเทศไทยจะพบบ่อยในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยอุบัติการณ์ของโรคนิ่วพบว่า เกิดในเพศชายมากกว่าเพศหญิงถึง 2 – 3 เท่า

สารบัญ

  • นิ่วในไต
  • อาการของโรคนิ่วในไต
  • การรักษานิ่วในไต
  • การรักษานิ่วในไตด้วยการเจาะรูส่องกล้องผ่านทางผิวหนัง (percutaneous nephrolithotomy; PCNL) คืออะไร?
  • ข้อดีของการรักษานิ่วในไตด้วยการเจาะรูส่องกล้องผ่านทางผิวหนัง
  • ภาวะแทรกซ้อนการรักษานิ่วในไตด้วยการเจาะรูส่องกล้องผ่านทางผิวหนัง
  • การป้องกันการเกิดนิ่วในไตซ้ำ
  • สรุป

นิ่วในไต

นิ่วในทางเดินปัสสาวะ คือ ก้อนแข็งที่เกิดจากการตกตะกอนหรือจับตัวเป็นผลึกของสารละลายในน้ำปัสสาวะ โดยนิ่วในไตก็คือนิ่วที่เกาะอยู่ภายในไต ก้อนนิ่วนี้จะขัดขวางการไหลของน้ำปัสสาวะ และยิ่งส่งเสริมให้เกิดการตกตะกอนได้มากขึ้น หากปล่อยไว้ก้อนนิ่วก็จะมีขนาดใหญ่ขึ้นไปเรื่อย ๆ จนอาจอุดกั้นการไหลของปัสสาวะ และทำให้เกิดภาวะไตวายตามมาได้ นอกจากนั้นก้อนนิ่วเหล่านี้ยังเป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรีย ทำให้เพิ่มโอกาสการติดเชื้อที่ไต และนำไปสู่การติดเชื้อในกระแสเลือดตามมาได้ โดยทั่วไปชนิดของนิ่วจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ

  1. นิ่วที่ทึบรังสี พบได้บ่อย โดยนิ่วในกลุ่มนี้มักจะมีแคลเซียมเป็นส่วนประกอบจึงทึบรังสี และทำให้การตรวจเอกซเรย์จะเห็นนิ่วได้
  2. นิ่วที่ไม่ทึบรังสี พบได้น้อยกว่าชนิดแรก มักเป็นนิ่วยูริก การตรวจโดยเอกซเรย์จะมองไม่เห็นนิ่วชนิดนี้ การวินิจฉัยจึงยากกว่านิ่วแบบแรก บางครั้งแยกยากจากเนื้องอกในทางเดินปัสสาวะ ทำให้อาจต้องตรวจเพิ่มเติมโดยการอัลตราซาวนด์ การฉีดสีเอกซเรย์ หรือทำเอกซเรย์คอมพิวเตอร์

> กลับสู่สารบัญ

อาการของโรคนิ่วในไต

อาการของนิ่วในไตนั้นหลากหลาย ขึ้นกับขนาดก้อนนิ่ว ตำแหน่งนิ่ว และระดับการอุดตันของทางเดินปัสสาวะ โดยสามารถพบอาการได้คือ

  • หากก้อนนิ่วมีขนาดเล็ก ก้อนนิ่วมักจะสามารถถูกขับออกทางท่อปัสสาวะ ทำให้ผู้ป่วยจะไม่มีอาการใด ๆ 
  • หากก้อนนิ่วมีขนาดใหญ่อาจไปอุดตันท่อทางเดินปัสสาวะจนทำให้มีอาการปวดบั้นเอวด้านหลังใต้ต่อซี่โครง หากอุดที่ท่อไตจะปวดท้องด้านล่าง และอาจร้าวไปขาหนีบ การอุดตันของนิ่วมักจะทำให้ผู้ป่วยปวดจี๊ดรุนแรงขึ้นมาทันทีทันใด แต่หากนิ่วหลุดจากจุดที่อุดอยู่อาการปวดก็จะหายไปผู้ป่วยจึงอาจมีอาการปวดท้อง/หลังเป็น ๆ หาย ๆ มากน้อยไม่เท่ากัน
  • ในรายที่อาการรุนแรงมากขึ้น ปัสสาวะมีเลือดปนเป็นสีน้ำล้างเนื้อได้ 
  • หากนิ่วทำให้เกิดการติดเชื้อ ผู้ป่วยอาจมีอาการปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะสีขุ่น รู้สึกปวดปัสสาวะอยู่ตลอดเวลา หากมีการติดเชื้อรุนแรงอาจทำให้มีไข้ หนาวสั่นได้
  • หากเป็นนิ่วอุดตันที่ไตทั้งสองข้าง ทำให้การทำงานของไตลดลงจนเกิดไตวาย ผู้ป่วยจะมีอาการของโรคไตวายเรื้อรัง เช่น ปริมาณปัสสาวะน้อยลง บวมน้ำ เลือดจาง
  • ผู้ป่วยไม่มีอาการใด ๆ แต่อาจตรวจพบว่ามีก้อนนิ่วจากการตรวจสุขภาพประจำปี หรือตรวจคัดกรองโรคไต

> กลับสู่สารบัญ

การรักษานิ่วในไต

ในอดีตการรักษานิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะจะทำด้วยการผ่าตัดเปิด แต่ปัจจุบันมีทางเลือกการรักษามากขึ้น ซึ่งเป็นเทคนิคการรักษาที่ดีขึ้น ระยะเวลาการพักฟื้นน้อยลง และผลการรักษาดีขึ้น

การรักษาด้วยการรับประทานยา

การทานยาละลายนิ่ว เหมาะสำหรับนิ่วชนิดยูริก สามารถละลายได้โดยให้ทานยาที่ทำให้ปัสสาวะเป็นด่าง แต่สำหรับนิ่วที่มีแคลเซียมเป็นส่วนประกอบ ยังไม่มียาละลายนิ่ว โดยถ้านิ่วมีขนาดเล็กกว่า 0.5 ซม. มีโอกาสหลุดเองได้ โดยการดื่มน้ำเพิ่มหรือให้ยาขับปัสสาวะช่วย

การใช้เครื่องสลายนิ่ว

การใช้เครื่องสลายนิ่ว (extracorporeal shock wave lithotripsy; ESWL) เป็นการใช้เครื่องมือที่มีต้นกำเนิดพลังงานจากภายนอกร่างกายส่งคลื่นพลังเข้าไปกระแทกนิ่วให้แตกเป็นชิ้นเล็ก ๆ และให้ร่างกายขับเศษนิ่วออกมาเอง การรักษานิ่วโดยใช้เครื่อง ESWL นี้ ผู้ป่วยควรจะเป็นนิ่วที่มีขนาดน้อยกว่า 2 ซม. รวมทั้งต้องมีการทำงานของไตข้างนั้นพอที่จะมีปัสสาวะขับเอาเศษนิ่วที่สลายแตกแล้วให้หลุดออกมานอกร่างกายได้ ยกเว้นนิ่วบางชนิดที่แข็งมากไม่สามารถยิงสลายให้แตกโดยวิธี ESWL ได้

การรักษาโดยการส่องกล้องท่อปัสสาวะหรือท่อไต

การรักษาโดยการส่องกล้องเป็นการรักษานิ่วในกระเพาะปัสสาวะโดยแพทย์จะส่องกล้องผ่านรูท่อปัสสาวะเข้าไปขบนิ่วและเข้าไปคล้องหรือกรอนิ่วในท่อไตออกมา

การรักษานิ่วในไตด้วยการเจาะรูส่องกล้องผ่านทางผิวหนัง

การรักษานิ่วในไตด้วยการเจาะรูส่องกล้องผ่านทางผิวหนัง หรือ PCNL (percutaneous nephrolithotomy) เป็นวิธีการรักษาที่เหมาะกับนิ่วในไตขนาดใหญ่ โดยเฉพาะนิ่วเขากวางซึ่งเป็นนิ่วที่มีรูปร่างแตกแขนงกิ่งก้านไปตามแยกของกรวยไตและท่อภายในไต นิ่วชนิดนี้จึงอาจมีขนาดใหญ่มากจนแทบจะเท่ากับขนาดของไตได้เลยทีเดียว

> กลับสู่สารบัญ

การรักษานิ่วในไตด้วยการเจาะรูส่องกล้องผ่านทางผิวหนัง (percutaneous nephrolithotomy; PCNL) คืออะไร?

เป็นวิธีการรักษานิ่วในไตที่พัฒนา โดยที่ผู้ป่วยไม่ต้องผ่าตัด โดยแพทย์ใช้วิธีเจาะรูเล็ก ๆ ที่หลังในตำแหน่งที่ตรงกับไต ขนาดประมาณรูนิ้วชี้ ทะลุจากผิวหนังเข้าไปในกรวยไต และใช้กล้องส่องตามเข้าไปจนพบก้อนนิ่ว จากนั้นจะใช้เครื่องมือเข้าไปกรอนิ่วให้แตกออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วดูดหรือคีบนิ่วออกมา หลังการรักษาผู้ป่วยจะมีท่อระบายเพื่อลดการบวมของไต และใส่สายปัสสาวะ โดยในผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถถอดสายเหล่านี้ออกได้ใน 1-2 วัน

> กลับสู่สารบัญ

ข้อดีของการรักษานิ่วในไตด้วยการเจาะรูส่องกล้องผ่านทางผิวหนัง

  • เป็นวิธีการรักษาแบบไม่ต้องผ่าตัดเปิด
  • แผลมีขนาดเล็กประมาณ 1-2 ซม. ซึ่งเล็กกว่าแผลผ่าตัดแบบเปิดที่มักจะมีขนาด 15 – 20 ซม. 
  • เนื่องจากแผลผ่าตัดมีขนาดเล็ก จึงไม่ทำให้เกิดแผลเป็นหรือพังผืดขนาดใหญ่
  • เจ็บแผลน้อยกว่า 
  • ระยะเวลาการพักฟื้นน้อย สามารถกลับบ้านได้เร็วภายใน 3 – 5 วันหลังผ่าตัด 
  • การฟื้นตัวหลังผ่าตัดเร็ว
  • ส่วนใหญ่สามารถเอานิ่วในไตทั้งหมดออกได้
  • ให้ผลการรักษาดีและสูญเสียเนื้อไตน้อยกว่าการผ่าตัดแบบเดิม
  • หากผู้ป่วยเป็นนิ่วในไตขึ้นมาใหม่ ก็สามารถรักษาโดยวิธี PCNL อีกได้

แต่อย่างไรก็ตามแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย เพื่อผลการรักษาที่ดีที่สุด รวมไปถึงความปลอดภัยและผลข้างเคียงที่น้อยที่สุด

> กลับสู่สารบัญ

ภาวะแทรกซ้อนการรักษานิ่วในไตด้วยการเจาะรูส่องกล้องผ่านทางผิวหนัง

แม้ว่าการรักษานิ่วในไตด้วยวิธี PCNL จะมีความปลอดภัยสูง แต่อาจมีภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นได้ เช่น

  • มีเลือดออกเล็กน้อยปนออกมากับปัสสาวะ ซึ่งจะหยุดได้เองในเวลาไม่นาน
  • มีไข้ต่ำ
  • ติดเชื้อ
  • ภาวะแทรกซ้อนอาจทำให้ศัลยแพทย์ต้องทำการผ่าตัดเปิด ซึ่งเกิดขึ้นน้อยไม่มากนัก

ทั้งนี้การรักษาด้วยวิธีนี้ต้องทำโดยแพทย์เฉพาะทางที่มีความชำนาญเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนรุนแรง

> กลับสู่สารบัญ

การป้องกันการเกิดนิ่วในไตซ้ำ

นิ่วในไตอาจเป็นซ้ำได้ภายหลังการรักษา โดยพบว่าหากไม่ระมัดระวังป้องกัน โอกาสกลับเป็นนิ่วซ้ำสูงถึง 35 – 50% ภายใน 5 – 10 ปี ดังนั้นการป้องกันไม่ให้เกิดนิ่วซ้ำขึ้นอีกจึงมีความสำคัญมาก หากพบปัจจัยใด ๆ ที่ส่งเสริมการเกิดนิ่วควรปรึกษาแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษา นอกจากนี้การปรับพฤติกรรมจะช่วยป้องกันและลดการเกิดนิ่วซ้ำ ดังนี้

  • ดื่มน้ำให้มากเพียงพออย่างน้อย 2 – 3 ลิตรต่อวัน เพื่อให้ปัสสาวะเจือจาง มีปริมาณน้ำปัสสาวะมากพอ และอย่าให้ร่างกายขาดน้ำเพราะจะทำให้ปัสสาวะเข้มข้นมาก และอาจตกตะกอนเป็นนิ่วได้
  • ลดอาหารเค็มจัด เนื่องจากปริมาณเกลือที่รับประทานเข้าไปจะขับออกทางปัสสาวะ และมีส่วนชักนำให้เพิ่มการขับแคลเซียมตามไปด้วย ปริมาณแคลเซียมที่สูงในปัสสาวะก็จะเพิ่มโอกาสการเกิดนิ่ว 
  • ถ้ามีระดับกรดยูริคในเลือดสูง ควรควบคุมให้อยู่ในระดับปกติ โดยควบคุมอาหารที่มีกรดยูริกสูง และปรึกษาแพทย์หากจำเป็นต้องรับประทานยา
  • ออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อให้มีการเคลื่อนไหวของร่างกาย ส่งเสริมการขับนิ่ว ให้นิ่วก้อนเล็กหลุดออกมากับปัสสาวะ และไม่จับตัวจนกลายเป็นนิ่วขนาดใหญ่ แต่หากออกกำลังแล้วเสียเหงื่อมาก ต้องชดเชยด้วยการดื่มน้ำทดแทนอย่างเพียงพอ
  • มาพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ แม้จะได้รับการรักษานิ่วไปแล้ว 

> กลับสู่สารบัญ

สรุป

PCNL เป็นการผ่าตัดนิ่วแบบใหม่ที่ให้ผลการรักษาดีในการกำจัดนิ่วในไตขนาดใหญ่ เทียบเท่ากับการผ่าตัดเปิด เป็นการรักษานิ่วที่มีขนาดแผลเล็กกว่า เจ็บตัวน้อยกว่า ฟื้นตัวได้เร็ว สูญเสียเนื้อไตน้อยกว่า วิธีการรักษานี้จึงนับเป็นทางเลือกการรักษานิ่วขนาดใหญ่ในไตที่ดี

ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกับ Praram 9 V ปรึกษาแพทย์ได้ทุกที่ผ่านทางวิดีโอคอล (Telemedicine)

สนใจนัดหมาย

> กลับสู่สารบัญ

บทความล่าสุด

ปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ

ปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ ปัญหายอดฮิตของคนใช้งานข้อมือหนัก

อ่านเพิ่มเติม
กล้ามเนื้ออ่อนแรง

กล้ามเนื้ออ่อนแรง ALS MH และ SMA อาการต่างกันอย่างไร รักษาหายไหม?

อ่านเพิ่มเติม
การตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจมะเร็ง

การตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจมะเร็ง (Biopsy) หมดความสงสัย วินิจฉัยได้อย่างแม่นยำ

อ่านเพิ่มเติม
ดูบทความทั้งหมด

ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกับ Praram 9 V

ปรึกษาแพทย์ได้ทุกที่ผ่านทางวิดีโอคอล (Telemedicine)

  • Praram 9 Hospital
  • @praram9hospital

แพทย์ผู้เขียนบทความ

 

ศูนย์แพทย์

ศูนย์ศัลยกรรม_1-1

ศูนย์ศัลยกรรม

เยี่ยมชม

ดูทั้งหมด

บทความอื่นๆ

ปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ

ปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ ปัญหายอดฮิตของคนใช้งานข้อมือหนัก

ปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ คือโรคที่เกิดจากปลอกหุ้มเส้นเอ็นที่ใช้กางนิ้วหัวแม่มือที่อยู่บริเวณข้อมือเกิดการอักเสบ ทำให้มีอาการปวดข้อมือเมื่อใช้งาน มักเกิดจากการใช้งานข้อมือหนัก

อ่านเพิ่มเติม
กล้ามเนื้ออ่อนแรง

กล้ามเนื้ออ่อนแรง ALS MH และ SMA อาการต่างกันอย่างไร รักษาหายไหม?

โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงสามารถแบ่งได้หลายชนิด ซึ่งจะมีสาเหตุและอาการหลายแบบ วิธีรักษาเองก็หลากหลายตามไปด้วย รักษาแล้วหายขาดไหม? ติดตามได้ในบทความนี้!

อ่านเพิ่มเติม
การตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจมะเร็ง

การตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจมะเร็ง (Biopsy) หมดความสงสัย วินิจฉัยได้อย่างแม่นยำ

การตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจมะเร็ง (Biopsy) คือวิธีที่นิยมในการวินิจฉัยมะเร็ง เนื่องจากความแม่นยำและละเอียดในการบ่งชี้ประเภทของมะเร็ง ทำได้อย่างไร? บทความนี้มีคำตอบ!

อ่านเพิ่มเติม
อ่านบทความทั้งหมด
Facebook-f Youtube Instagram Line
  • 1270
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • นัดหมาย
  • บทความสุขภาพ
  • แพ็กเกจ
  • ข่าว และกิจกรรม รพ.
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • นักลงทุนสัมพันธ์
  • การพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน
  • ร่วมงานกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • ข้อกำหนดและเงื่อนไข

Copyright © 2025 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital

  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • Health Guru
    • บทความสุขภาพ
    • Praram 9 Star Doctors
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา