บทความสุขภาพ

Knowledge

เนื้องอกในสมอง (Brain Tumor) รู้ทันอาการปวดหัว แบบไหนเสี่ยงเป็นเนื้องอก

นพ. สิทธิ เพชรรัชตะชาติ

สมอง อวัยวะสำคัญที่ควบคุมทุกการทำงานของระบบภายในร่างกาย การเกิดเนื้องอกในสมอง แม้จะเป็นเรื่องที่ฟังดูน่ากลัว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นอันตรายถึงชีวิตเสมอไป เนื้องอกในสมองมีหลายชนิด ทั้งที่เป็นเนื้อร้ายและไม่ใช่เนื้อร้าย หากสังเกตว่าตัวเองหรือคนในครอบครัวมีอาการที่อาจเป็นความเสี่ยงที่จะมีเนื้องอกในสมอง ควรเข้าปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยและให้ได้รับการรักษาที่เหมาะสม


Key Takeaways


  • เนื้องอกในสมอง (Brain Tumor) คือภาวะที่ก้อนเนื้อในสมองเจริญเติบโตผิดปกติ ส่งผลต่อการทำงานของระบบประสาทและสมอง
  • เนื้องอกที่พบในสมองไม่ได้เป็นมะเร็งเสมอไป
  • อาการเสี่ยงของโรคเนื้องอกในสมอง ได้แก่ ปวดหัวเรื้อรัง อาเจียน ตาพร่ามัว หรือแขนขาอ่อนแรง เป็นต้น
  • การรักษาโรคเนื้องอกสมองมีได้หลายวิธี ทั้งการผ่าตัด การฉายแสง และการรับยาเคมีบำบัด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตำแหน่งและชนิดของเนื้องอก
  • เนื้องอกในสมองหลายชนิดสามารถรักษาให้หายขาดได้ หากได้รับการวินิจฉัยตั้งแต่เนิ่นๆ

เนื้องอกในสมองคืออะไร?


เนื้องอกในสมอง-1024x1024.webp

เนื้องอกในสมอง (Brain Tumor) คือ ภาวะที่ก้อนเนื้อในสมองเจริญเติบโตผิดปกติ จนทำให้เนื้อเยื่อที่โตไปเบียดเนื้อสมองและเส้นประสาท ส่งผลให้ระบบการทำงานต่าง ๆ ของร่างกายผิดปกติ เช่น ปวดหัวแบบไม่มีสาเหตุ ตาพร่ามัว กล้ามเนื้ออ่อนแรง แขนขาอ่อนแรง เป็นต้น


โดยส่วนใหญ่เนื้องอกในสมองมักจะถูกเหมารวมว่าเป็นมะเร็งสมอง แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่เสมอไป เพราะเนื้องอกในสมองสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่


เนื้องอกในสมองที่เกิดจากเซลล์ที่ไม่ใช่เนื้อร้าย


เนื้องอกภายในสมองที่เกิดจากเซลล์ในระบบประสาทแบ่งตัวผิดปกติที่ไม่ใช่เนื้อร้าย(Benign tumor) เป็นเนื้องอกที่เติบโตช้า ไม่ลุกลามไปยังเนื้อเยื่อส่วนอื่น และมักจะไม่กลับมาเป็นซ้ำหลังการรักษา แต่การเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อส่วนนี้หากปล่อยไว้อาจกดทับเนื้อสมองโดยรอบและก่อให้เกิดความผิดปกติทางร่างกายได้ ซึ่งเนื้องอกประเภทนี้สามารถเกิดได้หลายตำแหน่งในสมอง ได้แก่ เยื่อหุ้มสมอง เส้นประสาทสมอง หรือต่อมใต้สมอง เป็นต้น


เนื้องอกในสมองที่เกิดจากเซลล์มะเร็ง


เนื้องอกภายในสมองที่เกิดจากเซลล์มะเร็งหรือเนื้องอกชนิดร้ายแรง (Malignant tumor) เป็นเนื้องอกที่เติบโตเร็ว ลุกลามไปยังเนื้อเยื่อสมองส่วนอื่น และมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้อีกหลังการรักษา โดยมะเร็งสมองอาจเริ่มต้นในสมองเอง (Primary brain tumor) หรือแพร่กระจายมาจากมะเร็งที่อวัยวะอื่น (Metastatic brain tumor) ได้เช่นกัน


ซึ่งเนื้องอกภายในสมองที่เกิดจากเซลล์มะเร็งหากตรวจพบช้าจะรักษาหายได้ยาก และมีความเสี่ยงที่จะเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้


ระดับความรุนแรงของเนื้องอกในสมอง


นอกจากประเภทของเนื้องอกในสมองแล้ว ยังสามารถแบ่งระดับความรุนแรงได้อีกด้วย โดยพิจารณาจากลักษณะการเจริญเติบโตของเซลล์เนื้องอก และโอกาสที่จะกลับมาเป็นซ้ำหลังการรักษา (WHO Classification of CNS Tumors) ซึ่งแต่ละระดับมีความแตกต่างกันดังนี้


  • ระดับที่ 1 : เป็นเนื้องอกชนิดที่ไม่ร้ายแรง โดยเซลล์เนื้องอกมีการเจริญเติบโตช้า ไม่แพร่กระจายไปยังเนื้อเยื่อสมองส่วนอื่น สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยการผ่าตัด และมีโอกาสน้อยที่จะกลับมาเป็นซ้ำ
  • ระดับที่ 2 : เป็นเนื้องอกชนิดก้ำกึ่งระหว่างไม่ร้ายแรงและร้ายแรง มีการเจริญเติบโตช้ากว่าระดับ 3 และ 4 แต่ก็มีโอกาสแพร่กระจายไปยังเนื้อเยื่อสมองส่วนอื่นได้ การรักษาสามารถทำได้แต่ไม่หายขาด และมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้
  • ระดับที่ 3 : เป็นเนื้องอกชนิดร้ายแรง เซลล์เนื้องอกมีการเจริญเติบโตเร็วและแพร่กระจายไปยังเนื้อเยื่อสมองส่วนอื่นได้ การรักษามุ่งเน้นไปที่การควบคุมการเจริญเติบโตของเนื้องอกและบรรเทาอาการ ช่วยยืดอายุของผู้ที่เป็นโรคเนื้องอกในสมองได้อีกหลายปี
  • ระดับที่ 4 : เป็นเนื้องอกชนิดร้ายแรงมาก เซลล์เนื้องอกมีการเจริญเติบโตและแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ทำให้การรักษายากและมีพยากรณ์โรคที่ไม่ดี

เนื้องอกในสมองเกิดจากอะไร?


causes-of-brain-tumor.webp

ในตอนนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่าเนื้องอกในสมองเกิดจากอะไร แต่ในทางการแพทย์พบว่ามีหลายปัจจัยที่อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดเนื้องอกได้ ดังนี้


  • อายุ : มะเร็งสมองพบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ แต่พบในผู้สูงวัยมากกว่า โดยเฉพาะอายุ 50 ปีขึ้นไป
  • พันธุกรรม : ความผิดปกติทางพันธุกรรมส่งผลต่อการเกิดเนื้องอก
  • การได้รับรังสี : การได้รับรังสีบริเวณศีรษะโดยตรง อาจเพิ่มความเสี่ยงในอนาคต
  • ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง : ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ผู้ป่วย HIV/AIDS หรือผู้ที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน อาจมีความเสี่ยงสูงขึ้น
  • การสัมผัสสารเคมี : การสัมผัสสารเคมีบางชนิด เช่น สารเคมีที่ใช้ในอุตสาหกรรม อาจเพิ่มความเสี่ยง (ยังไม่ยืนยันและต้องการการศึกษาเพิ่มเติม)
  • ประวัติครอบครัว : หากมีบุคคลในครอบครัวมีประวัติเป็นมะเร็งสมอง อาจเพิ่มความเสี่ยงเล็กน้อย

อาการที่มักพบในกลุ่มผู้เสี่ยงเป็นโรคเนื้องอกในสมอง


กลุ่มผู้เสี่ยงเป็นโรคเนื้องอกในสมอง ความผิดปกติที่พบได้บ่อย มีดังนี้


  • มีอาการปวดหัวเรื้อรังรักษาไม่หาย ไม่ทราบสาเหตุ และปวดหัวติดตามกันยาวนานหลายเดือน โดยไม่มีช่วงที่หายปวดสนิท
  • ตาพร่ามัว เห็นภาพซ้อน คลื่นไส้อาเจียน เวียนหัว
  • แขนขาอ่อนแรง ทรงตัวได้ไม่ดี เดินลำบาก พูดไม่ชัด หรือกลืนลำบาก
  • บุคลิกเปลี่ยน อารมณ์ฉุนเฉียวง่าย พูดไม่เป็นคำหรือพูดฟังเข้าใจยาก
  • มีอาการซึม ไม่สดใสโดยไม่ทราบสาเหตุ
  • มีอาการชักเกร็ง หรือเป็นเหน็บชาครึ่งซีกร่างกายหรือใบหน้าเป็นๆหายๆ

กลุ่มอาการดังกล่าวข้างต้นเป็นเพียงอาการที่พบได้บ่อยในผู้ที่เป็นโรคเนื้องอก ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจและได้รับการรักษาได้อย่างทันท่วงที ควรเข้ารับการวินิจฉัยโรคโดยประสาทแพทย์ เพื่อทำการซักประวัติ ตรวจร่างกายโดยละเอียด และพิจารณาตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองหรือตรวจสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กเพื่อหาสาเหตุของอาการอย่างละเอียด ในกรณีที่พบว่ามีก้อนเนื้อในสมอง อาจจำเป็นต้องมีการผ่าตัดเพื่อนำชิ้นเนื้อไปวิเคราะห์เพื่อการวินิจฉัยโรคที่แม่นยำมากยิ่งขึ้น


แนวทางการรักษาของโรคเนื้องอกในสมอง


brain-tumor-treatment.webp

แนวทางการรักษาของโรคเนื้องอกในสมองมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับลักษณะอาการ ประเภทของเนื้องอก และระดับความรุนแรงของโรคในขณะนั้น โดยส่วนใหญ่แล้วแนวทางการรักษาของโรคเนื้องอก มี 3 วิธีหลัก ๆ ดังนี้


1. ผ่าตัด


การผ่าตัดเหมาะสำหรับการรักษาเนื้องอกสมองที่อยู่ในจุดที่สามารถผ่าตัดได้ง่าย และไม่เสี่ยงจะเกิดอันตรายกับเนื้อสมองส่วนสำคัญและเส้นประสาท โดยการผ่าตัดเนื้องอกในสมองจะมีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้


  • การผ่าตัดเพื่อนำเนื้องอกออกทั้งหมด
  • การผ่าตัดเพื่อกำจัดเนื้องอกให้ได้มากที่สุด (แต่อาจจะไม่ทั้งหมด)
  • การผ่าตัดเพื่อนำเนื้องอกบางส่วนมาตรวจสอบ

2. ฉายแสง


การฉายแสงเป็นวิธีการรักษาเนื้องอกที่ใช้เทคโนโลยีเครื่องฉายรังสีเข้ามาช่วยกำจัดเซลล์เนื้องอกที่เจริญเติบโตผิดปกติ โดยวิธีการนี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดความเสียหายของเซลล์สมองในบริเวณรอบเนื้องอกจากการกดเบียด รวมไปถึงยังสามารถกำหนดความเข้มข้นของพลังงานเพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพและแม่นยำมากยิ่งขึ้น


3. ใช้ยาต้านเนื้องอก


ยาต้านหรือเคมีบำบัด เป็นอีกหนึ่งวิธีการรักษาเนื้องอกในกรณีที่หลังผ่าตัดหรือฉายแสงแล้วไม่สามารถกำจัดเนื้องอกภายในสมองได้หมด โดยแพทย์มักจะพิจารณาให้ใช้ยาต้านเนื้องอกร่วมกับการผ่าตัดหรือฉายแสงเพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด


ภาวะแทรกซ้อนที่พบได้จากโรคเนื้องอกในสมอง


โรคเนื้องอกในสมอง-1024x1024.webp

นอกจากอาการทั่วไปที่พบได้ในผู้มีเนื้องอกสมองแล้ว ยังมีอาการแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนี้


  • ประสาทการรับรู้เสื่อมถอย พูดไม่ชัด ได้รับกลิ่นน้อยลง หูไม่ค่อยได้ยิน และตามองไม่ค่อยเห็น
  • แขนขาอ่อนแรงจนเกิดอาการอัมพาตครึ่งซีก
  • สูญเสียความทรงจำ เริ่มจำเหตุการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันไม่ได้
  • การปัญหาเกี่ยวกับการขับถ่ายและการเคลื่อนไหวร่างกาย ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น กระเพาะปัสสาวะหรือปอดอักเสบร่วมด้วย

เนื้องอกในสมอง รู้ตัวเร็วรักษาหายได้ที่โรงพยาบาลพระรามเก้า


เนื้องอกในสมองเป็นโรคที่มีความอันตราย แม้ว่าจะไม่ใช่มะเร็งเสมอไป แต่ก็อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพและชีวิตในระยะยาวได้ การมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรค การหมั่นสังเกตอาการผิดปกติ และการรีบปรึกษาแพทย์เมื่อมีอาการที่ต้องสงสัย เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ได้รับการรักษาโรคนี้ตั้งแต่เนิ่นๆ สามารถช่วยลดความพิการและภาวะแทรกซ้อนในระยะยาวได้


หากพบว่าตัวเองหรือคนในครอบครัวมีอาการอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะเป็นโรคเนื้องอกในสมอง แนะนำเข้ารับการวินิจฉัยโรคได้ที่ ศูนย์สมองและระบบประสาทโรงพยาบาลพระรามเก้า ซึ่งมีทีมประสาทแพทย์และประสาทศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการรักษาโรคเนื้องอกในสมอง อีกทั้งมีความพร้อมของเครื่องมือในการตรวจวินิจฉัย ทั้งการตรวจสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) และตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง (CT scan) รวมไปถึงเครื่องมือในการผ่าตัดที่ทันสมัย ทำให้การรักษาโรคเนื้องอกในสมองเป็นเรื่องที่ไม่ยุ่งยากและปลอดภัย


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม



คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเนื้องอกในสมอง


1. อาการใดบ้างที่ต้องพบแพทย์โดยด่วน?


หากพบว่ามีอาการปวดศีรษะรุนแรงจนทนไม่ไหวหรือปวดเรื้องรังเป็นระยะเวลานานไม่หาย แขนขาอ่อนแรง ชักเกร็ง พูดไม่ชัดปากเริ่มเบี้ยว แนะนำให้เข้าพบแพทย์โดยด่วนเพื่อได้รับวินิจฉัยที่แม่นยำ และได้รับการรักษาโรคที่ถูกต้องต่อไป


2. เนื้องอกในสมองรักษาหายไหม?


การรักษาเนื้องอกในสมองจะหายขาดหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ประเภทของเนื้องอก ความรุนแรงของอาการในขณะนั้น ตำแหน่ง ขนาด และสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย โดยทั่วไปนั้นหากเป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรงและอยู่ในตำแหน่งที่สามารถผ่าตัดออกได้หมดนั้นมีโอกาสหายขาดสูง และมักจะไม่กลับมาเป็นซ้ำ แต่หากเป็นเนื้องอกชนิดรุนแรงหรือมะเร็ง แม้ว่าจะผ่าตัดนำเนื้องอกออกแล้วก็ตามอาจไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถช่วยยืดอายุผู้ป่วยให้มีอายุยืนยาวต่อไปได้


References


Brain tumours. (2023, June 12). NHS. https://www.nhs.uk/conditions/brain-tumours/


Brain Tumors and Brain Cancer. (n.d.). Johns Hopkins Medicine. https://www.hopkinsmedicine.org/health/conditions-and-diseases/brain-tumor


Brain tumour symptoms. (2023, January 19). Cancer Research UK. https://www.cancerresearchuk.org/about-cancer/brain-tumours/symptoms

เกี่ยวกับผู้เขียนบทความ

นพ. สิทธิ เพชรรัชตะชาติ

นพ. สิทธิ เพชรรัชตะชาติ

ศูนย์สมองและระบบประสาท

บทความที่เกี่ยวข้อง (10)

ดูทั้งหมด

คุณเป็นโรคภูมิแพ้…จริงหรือ…?

คนทั่วไปเมื่อมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหลเรื้อรัง หรือเป็นๆ หายๆ มักจะบอกว่า เป็นโรคภูมิแพ้ หรือไม่ก็เข้าใจว่าตนเป็นหวัด หวัด เกิดจากการติดเชื้อไวรัส คนทั่วไปมักเป็นได้ปีละ 4 – 5 ครั้งก็มากเกินปกติแล้ว อาการหวัดมักเป็นอยู่ 3 – 4 วัน

โรคไข้อีดำอีแดง โรคที่เกิดจากพิษของเชื้อแบคทีเรีย

ข้อมูลจาก สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย โรคไข้อีดำอีแดงหรือ scarlet fever เป็นโรคที่เกิดจากพิษของเชื้อแบคทีเรียชื่อ #สเตร็ปโตคอคคัสชนิดเอ ทำให้มีผื่นแดง ตามตัวร่วมกับคอหอยหรือทอนซิลอักเสบ พบบ่อยในช่วงอายุระหว่าง 5-15 ปี

วัคซีนปอดอักเสบนิวโมคอกคัสชนิดใหม่ 20 สายพันธุ์ (PCV 20)

โรคปอดอักเสบจากเชื้อนิวโมคอกคัสเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอคคัสนิวโมเนียอี (Streptococcus pneumoniae) ส่วนใหญ่เชื้อจะพบอยู่ในโพรงจมูกและลำคอ สามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งทางละอองฝอยทางการไอหรือจาม เป็นหนึ่งในเชื้อที่ทำให้เกิดปอดอักเสบที่พบบ่อย ทั้งในเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ

โรคแอนแทรกซ์ (Anthrax) โรคติดต่อจากสัตว์สู่คน

โรคแอนแทรกซ์ หรือชาวบ้านเรียกว่าโรคกาลี เป็นโรคที่รู้จักกันมาแต่โบราณกาล แอนแทรกซ์นับว่าเป็นโรคระบาดสำคัญโรคหนึ่งในพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2499 เป็นโรคติดต่ออันตรายร้ายแรงที่เกิดขึ้นได้ในสัตว์กินหญ้าแทบทุกชนิด ทั้งสัตว์ป่า เช่น ช้าง เก้ง กวาง และสัตว์เลี้ยง เช่น โค กระบือ แพะ แกะ แล้วติดต่อไปยังคนและสัตว์อื่น

บอลลูนหัวใจ: แก้ปัญหาหลอดเลือดหัวใจตีบ โดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่

การทำบอลลูนหัวใจหรือ PCI เป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพในการรักษาภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบ ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้สะดวก ลดอาการเจ็บหน้าอก และลดความเสี่ยงของหัวใจวาย เป็นการเปิดหลอดเลือดโดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ ทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยยังคงต้องดูแลสุขภาพ หมั่นออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และลดปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ เพื่อรักษาสุขภาพของหัวใจในระยะยาว

ลิ้นหัวใจเทียมคืออะไร? ทำไมต้องเปลี่ยน? และอะไรบ้างที่คุณควรรู้?

การผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจเทียมเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาสำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาลิ้นหัวใจผิดปกติ และการผ่าตัดเปลี่ยนลินหัวใจจะช่วยฟื้นฟูการทำงานของหัวใจให้กลับมาใกล้เคียงปกติ อย่างไรก็ตามผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาจะต้องได้รับการประเมินอย่างละเอียด เพื่อเลือกชนิดของลิ้นหัวใจที่เหมาะสม

หัวใจล้มเหลว อาการเป็นอย่างไร ป้องกันได้อย่างไรบ้าง

หัวใจล้มเหลวคือภาวะที่หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนและสารอาหารไม่เพียงพอ อาการสำคัญที่ควรสังเกต ได้แก่ เหนื่อยง่าย หายใจลำบาก ขาบวม และน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มักเกี่ยวข้องกับโรคหัวใจและหลอดเลือด การวินิจฉัยและรักษาอย่างรวดเร็วจะช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนรุนแรง

การตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจมะเร็ง (Biopsy) หมดความสงสัย วินิจฉัยได้อย่างแม่นยำ

การตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจมะเร็ง (Biopsy) คือวิธีที่นิยมในการวินิจฉัยมะเร็ง เนื่องจากความแม่นยำและละเอียดในการบ่งชี้ประเภทของมะเร็ง ทำได้อย่างไร? บทความนี้มีคำตอบ!

การใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ รักษาใจเต้นผิดจังหวะ ให้กลับสู่ภาวะปกติ

การใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ (Pacemaker Implantation) จะใช้รักษาผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ เครื่องจะช่วยให้หัวใจกลับมาทำงานได้ใกล้เคียงกับระดับปกติอีกครั้ง

รู้จัก ASD คืออะไร? ผนังหัวใจรั่วอาการเป็นแบบไหน รักษายังไงดี

ชวนรู้จัก ASD หรือ ภาวะผนังกั้นหัวใจรั่วคืออะไร ผนังหัวใจรั่ว อันตรายไหม? มาเช็กต้นตอสาเหตุ อาการของ ASD แนวทางการรักษา พร้อมวิธีดูแลให้หัวใจห้องบนแข็งแรง!

Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital