บทความสุขภาพ

Knowledge

ภาวะตาแห้งรู้ก่อนป้องกันได้

พญ. ชญาตา เหลี่ยมศิริเจริญ

ตาแห้งเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้บ่อย ๆ พบได้ในทุกเพศทุกวัย เป็นภาวะที่มีปริมาณน้ำตาหล่อเลี้ยงผิวตาไม่เพียงพอ อาการตาแห้งหากปล่อยให้เป็นบ่อย ๆ ปล่อยทิ้งไว้ในระยะยาวโดยไม่ทำการรักษา จะทำให้เคืองตารุนแรงยิ่งขึ้น จนเกิดการอักเสบทำให้เป็นแผลที่กระจกตา กระจกตาไม่เรียบใส จนนำไปสู่การผ่าตัดแก้ไขในที่สุด


สาเหตุของภาวะตาแห้ง


  • ใช้สายตาเป็นเวลานาน ๆ เช่น อ่านหนังสือ ใช้คอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ตโฟน
  • มีการสร้างน้ำตาลดลงโดยเฉพาะในผู้สูงอายุ
  • ใส่คอนแทคเลนส์ เป็นเวลานาน หรือใช้คอนแทคเลนส์ที่ไม่มีคุณภาพ
  • เป็นภูมิแพ้ที่ตา หนังตา หรือเยื่อตาอักเสบเรื้อรัง
  • รับประทานยาบางชนิด เช่น ยาแก้แพ้ ยาคลายเครียด ยาลดความดันโลหิตบางชนิด
  • เคยทำเลสิค หรือผ่าตัดตา
  • ผู้ที่มีปัญหาหลับตาไม่สนิท
  • ดื่มน้ำน้อย
  • อยู่ในบริเวณที่มีอากาศแห้ง ลมแรง เป็นเวลานาน
  • ความเสื่อมของต่อมน้ำตาไมโบเมียน (meibomian gland dysfunction; MGD) ซึ่งเป็นต่อมที่อยู่บริเวณเปลือกตา ทำหน้าที่สร้างน้ำมันมาหล่อลื่นดวงตา

อาการของภาวะแห้ง จะมีอาการระคายเคืองตา แสบตาเหมือนมีเศษฝุ่นอยู่ในตาตลอดเวลา ตาพร่ามัวเป็น ๆ หาย ๆ น้ำตาไหล มีขี้ตาเป็นเมือกเหนียว และอาจรู้สึกปวดหัว


แนวทางการรักษา


  • การใช้น้ำตาเทียม เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้ดวงตา
  • การใช้ยาหยอดตากลุ่มสเตียรอยด์ เพื่อลดการอักเสบของผิวนัยน์ตาหรือผิวเยื่อบุตา และช่วยบรรเทาอาการคันระคายเคืองตาแต่การใช้ยากลุ่มนี้จะต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์และใช้เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้น
  • การทำความสะอาดเปลือกตาด้วยน้ำยาพิเศษ เพื่อกำจัดเชื้อโรคหรือสิ่งสกปรกที่อยู่บริเวณรอบเปลือกตา
  • การประคบน้ำอุ่นอุณหภูมิประมาณ 41-43 องศาเซลเซียสเป็นประจำเช้า-เย็น
  • การนวดและการทำความสะอาดเปลือกตา (การกดรีดไขมันตามแนวการวางตัวของต่อมไมโบเมียนที่ขอบเปลือกตา)

อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญที่สุดในการรักษาอาการตาแห้ง คือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเอง หรือการป้องกันตั้งแต่สาเหตุ ไม่ปล่อยเอาไว้จนเป็นปัญหาเรื้อรัง โดยการสังเกตตัวเองว่าสถานการณ์หรือสิ่งแวดล้อมใดที่ทำให้เกิดอาการและพยายามหลีกเลี่ยงสิ่งนั้น ตัวอย่างง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ในชีวิตประจำวัน เช่น


  • เมื่ออยู่ในที่ที่มีอากาศแห้งมาก ๆ เช่น ในห้องแอร์หรือบนเครื่องบิน พยายามหลับตาพักสายตาบ่อย ๆ เพื่อลดการระเหยของน้ำตา
  • การปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต ลดการเพ่งหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ตโฟนและพักสายตาเป็นระยะ ๆ
  • การสูบบุหรี่ เป็นอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอาการตาแห้งได้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่สูบเอง หรือผู้ที่ไม่ได้สูบ ก็ควรหลีกเลี่ยงควันบุหรี่

การนวดและทำความสะอาดเปลือกตา


การนวดและทำความสะอาดเปลือกตาเพื่อบรรเทาอาการตาแห้งเรื้อรังและต่อมไขมันอุดตันที่เปลือกตาเป็นบริการของศูนย์จักษุ โรงพยาบาลพระรามเก้า ในชื่อว่า Eyelid Treatment ให้บริการโดยพยาบาลวิชาชีพที่ได้รับการอบรมด้านการนวดเปลือกตามาโดยเฉพาะ ทั้งนี้ก่อนเข้ารับบริการนวดเปลือกตา ผู้ป่วยจะต้องเข้ารับการตรวจวินิจฉัยจากจักษุแพทย์ก่อน โดยการนวดเปลือกตาเป็นการกดและรีดตามแนวการวางตัวของต่อมไขมัน (meibomian gland) ที่ขอบเปลือกตา โดยใช้อุปกรณ์ในการนวดเปลือกตา เช่น แท่งแก้ว ไม้พันสำลี เพื่อให้ไขมันที่อุดตันอยู่ในต่อมระบายออกมา โดยขั้นตอนการนวดและทำความสะอาดเปลือกตาจะใช้เวลาประมาณ 30 นาที


  • ผู้ป่วยนอนในท่านอนหงาย จากนั้นพยาบาลจะนำแว่นตาประคบอุ่นมาใส่ประคบที่เปลือกตา โดยใช้ความร้อนที่ 40-42 องศาเซลเซียส นาน 10-15 นาที แว่นประคบอุ่น เหมาะสำหรับการละลายไขมันที่อุดตันบริเวณเปลือกตา โดยแว่นสามารถควบคุมอุณหภูมิให้คงที่ และด้วยระบบไอน้ำทำให้กระจกตาไม่แห้ง
  • หลังประคบอุ่นแล้ว พยาบาลจะหยอดยาชาให้ผู้ป่วย และเริ่มทำการนวดเปลือกตาโดยนำแท่งแก้วและไม้พันสำลีกดรีดไขมันที่อุดตันบริเวณเปลือกตา

และในขั้นตอนการนวดและทำความสะอาดเปลือกตานี้โรงพยาบาลพระรามเก้า มีการทำความสะอาดเปลือกตา 2 แบบ คือ โฟม และเครื่อง BlephEx


  • โฟมพยาบาลทำความสะอาดเปลือกตาผู้ป่วยด้วยโฟมตั้งแต่โคนขนตาจากหัวตาไปหางตาและเช็ดโฟมออกเมื่อทำความสะอาดเปลือกตาเรียบร้อยแล้ว
  • เครื่อง BlephEx เป็นเครื่องมือกำจัดเชื้อโรคไบโอฟิล์มและตัวไรจากเปลือกตาอย่างมีประสิทธิภาพ

ประโยชน์ของการนวดและทำความสะอาดเปลือกตา


  • ช่วยกำจัดสิ่งสกปรกและสิ่งอุดตันที่อยู่บริเวณเปลือกตา ทำให้เปลือกตาสะอาดขึ้น
  • ช่วยกำจัดตัวไรที่อยู่บริเวณโคนขนตา
  • ช่วยบรรเทาอาการอักเสบและระคายเคืองตา
  • ช่วยบรรเทาอาการตาแห้งและทำให้อาการตาแห้งดีขึ้นได้
  • ช่วยลดอาการเมื่อยล้าของตาทางอ้อม

ทั้งนี้การนวดและทำความสะอาดเปลือกตาไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดผู้ป่วยสามารถขับรถและทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติภายหลังการนวดเปลือกตา

เกี่ยวกับผู้เขียนบทความ

พญ. ชญาตา เหลี่ยมศิริเจริญ

พญ. ชญาตา เหลี่ยมศิริเจริญ

ศูนย์จักษุ

บทความที่เกี่ยวข้อง (10)

ดูทั้งหมด

คุณเป็นโรคภูมิแพ้…จริงหรือ…?

คนทั่วไปเมื่อมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหลเรื้อรัง หรือเป็นๆ หายๆ มักจะบอกว่า เป็นโรคภูมิแพ้ หรือไม่ก็เข้าใจว่าตนเป็นหวัด หวัด เกิดจากการติดเชื้อไวรัส คนทั่วไปมักเป็นได้ปีละ 4 – 5 ครั้งก็มากเกินปกติแล้ว อาการหวัดมักเป็นอยู่ 3 – 4 วัน

โรคไข้อีดำอีแดง โรคที่เกิดจากพิษของเชื้อแบคทีเรีย

ข้อมูลจาก สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย โรคไข้อีดำอีแดงหรือ scarlet fever เป็นโรคที่เกิดจากพิษของเชื้อแบคทีเรียชื่อ #สเตร็ปโตคอคคัสชนิดเอ ทำให้มีผื่นแดง ตามตัวร่วมกับคอหอยหรือทอนซิลอักเสบ พบบ่อยในช่วงอายุระหว่าง 5-15 ปี

วัคซีนปอดอักเสบนิวโมคอกคัสชนิดใหม่ 20 สายพันธุ์ (PCV 20)

โรคปอดอักเสบจากเชื้อนิวโมคอกคัสเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอคคัสนิวโมเนียอี (Streptococcus pneumoniae) ส่วนใหญ่เชื้อจะพบอยู่ในโพรงจมูกและลำคอ สามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งทางละอองฝอยทางการไอหรือจาม เป็นหนึ่งในเชื้อที่ทำให้เกิดปอดอักเสบที่พบบ่อย ทั้งในเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ

โรคแอนแทรกซ์ (Anthrax) โรคติดต่อจากสัตว์สู่คน

โรคแอนแทรกซ์ หรือชาวบ้านเรียกว่าโรคกาลี เป็นโรคที่รู้จักกันมาแต่โบราณกาล แอนแทรกซ์นับว่าเป็นโรคระบาดสำคัญโรคหนึ่งในพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2499 เป็นโรคติดต่ออันตรายร้ายแรงที่เกิดขึ้นได้ในสัตว์กินหญ้าแทบทุกชนิด ทั้งสัตว์ป่า เช่น ช้าง เก้ง กวาง และสัตว์เลี้ยง เช่น โค กระบือ แพะ แกะ แล้วติดต่อไปยังคนและสัตว์อื่น

บอลลูนหัวใจ: แก้ปัญหาหลอดเลือดหัวใจตีบ โดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่

การทำบอลลูนหัวใจหรือ PCI เป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพในการรักษาภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบ ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้สะดวก ลดอาการเจ็บหน้าอก และลดความเสี่ยงของหัวใจวาย เป็นการเปิดหลอดเลือดโดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ ทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยยังคงต้องดูแลสุขภาพ หมั่นออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และลดปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ เพื่อรักษาสุขภาพของหัวใจในระยะยาว

ลิ้นหัวใจเทียมคืออะไร? ทำไมต้องเปลี่ยน? และอะไรบ้างที่คุณควรรู้?

การผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจเทียมเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาสำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาลิ้นหัวใจผิดปกติ และการผ่าตัดเปลี่ยนลินหัวใจจะช่วยฟื้นฟูการทำงานของหัวใจให้กลับมาใกล้เคียงปกติ อย่างไรก็ตามผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาจะต้องได้รับการประเมินอย่างละเอียด เพื่อเลือกชนิดของลิ้นหัวใจที่เหมาะสม

หัวใจล้มเหลว อาการเป็นอย่างไร ป้องกันได้อย่างไรบ้าง

หัวใจล้มเหลวคือภาวะที่หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนและสารอาหารไม่เพียงพอ อาการสำคัญที่ควรสังเกต ได้แก่ เหนื่อยง่าย หายใจลำบาก ขาบวม และน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มักเกี่ยวข้องกับโรคหัวใจและหลอดเลือด การวินิจฉัยและรักษาอย่างรวดเร็วจะช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนรุนแรง

การตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจมะเร็ง (Biopsy) หมดความสงสัย วินิจฉัยได้อย่างแม่นยำ

การตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจมะเร็ง (Biopsy) คือวิธีที่นิยมในการวินิจฉัยมะเร็ง เนื่องจากความแม่นยำและละเอียดในการบ่งชี้ประเภทของมะเร็ง ทำได้อย่างไร? บทความนี้มีคำตอบ!

การใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ รักษาใจเต้นผิดจังหวะ ให้กลับสู่ภาวะปกติ

การใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ (Pacemaker Implantation) จะใช้รักษาผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ เครื่องจะช่วยให้หัวใจกลับมาทำงานได้ใกล้เคียงกับระดับปกติอีกครั้ง

รู้จัก ASD คืออะไร? ผนังหัวใจรั่วอาการเป็นแบบไหน รักษายังไงดี

ชวนรู้จัก ASD หรือ ภาวะผนังกั้นหัวใจรั่วคืออะไร ผนังหัวใจรั่ว อันตรายไหม? มาเช็กต้นตอสาเหตุ อาการของ ASD แนวทางการรักษา พร้อมวิธีดูแลให้หัวใจห้องบนแข็งแรง!

Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital