บทความสุขภาพ

Knowledge

Q&A เลสิค ไขทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับการทำเลสิค พร้อมคำตอบโดยจักษุแพทย์มาไว้ที่นี่

พญ. รุ่งรวี สัจจานุกูล

การกลับมามองโลกที่ชัดเจนโดยไม่ต้องใช้แว่น เป็นความปรารถนาของหลายๆ คนที่ใช้แว่นเป็นกิจวัตร ซึ่งอาจประสบความลำบากในการใช้แว่นสายตาหรือคอนเทคเลนส์ก็ตาม


ดังนั้นเลสิค LASIK จึงเป็นที่นิยมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน สำหรับผู้ที่อยากมีอิสระจากแว่นตา หรือคอนเทคเลนส์ และเทคโนโลยียังคงพัฒนาไปเรื่อยๆ เช่น PRK, LASIK, FemtoLASIK, ReLEx SMILE เป็นต้น ทำให้สามารถเลือกวิธีการรักษาสายตาจากเลสิคได้อย่างหลากหลาย แต่วิธีไหนจะเหมาะกับเรา หรือมีเกณฑ์การเลือกอย่างไร? ขึ้นอยู่สภาพสายตาและความพร้อมของเราเอง


เราจึงได้รวบรวมคำถาม และคำตอบที่เชื่อว่าหลาย ๆ คนสงสัยและอยากรู้ รวมทั้งคำถามจากทุก ๆ ช่องทางมาไว้ที่นี่ เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่อยากทำเลสิคกันค่ะ

เลสิค มีกี่แบบ อะไรบ้าง


ตอบ: การทำเลสิคที่นิยมในปัจจุบัน มีอยู่ 4 แบบ แตกต่างกันที่เทคนิคในการเปิดชั้นกระจกตาบน ก่อนปรับแต่งความโค้งของกระจกตา ได้แก่


  1. เลสิคแบบแผลเล็ก (ReLEx SMILE)
  2. เฟมโตเลสิค หรือเลสิคไร้ใบมีด (FemtoLASIK)
  3. เลสิคใบมีด (Blade LASIK or SBK)
  4. เลสิคแบบลอกผิว (PRK)

เลสิคแบบไหนเหมาะเรา สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่


Lasik-fig5.jpg

สายตาสั้นแค่ไหน ทำเลสิคไม่ได้


ตอบ: การทำเลสิค ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีค่าสายตาสั้นมากกว่า 1,400 อย่างไรก็ตาม แนะนำให้เข้ามาตรวจอย่างละเอียดก่อน หากค่าสายตาอยู่ในเกณฑ์ที่ทำได้ จักษุแพทย์จะแนะนำเทคนิคการทำเลสิคที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่มีระดับค่าสายตาสั้นแตกต่างกันไป


สายตาเอียง ทำเลสิคได้ไหม


ตอบ: สามารถทำได้ แต่ถ้าเอียงมาก จะเหมาะกับการรักษาโดยการใส่เลนส์เสริมแบบแก้ไขสายตาเอียง


คนไข้ที่สามารถเข้ารับการรักษาด้วยการทำเลสิคได้ ได้แก่ ผู้ที่มีปัญหาสายตาสั้น (Myopia), สายตายาว (Hyperopia), สายตาเอียง (Astigmatism) และอาจร่วมกับสายตายาวตามวัย (Presbyopia)


สายตายาว ทำเลสิคได้ไหม


ตอบ: ถ้ามีภาวะสายตายาว (Hyperopia) เล็กน้อย-ปานกลาง สามารถรักษาด้วยเลสิคได้ แต่ถ้าสายตายาวมาก แนะนำให้แก้ไขด้วยการใส่เลนส์เสริม


สายตาทั้งยาวและสั้น รักษาได้ไหม


ตอบ: สำหรับผู้ที่สายตาสั้น ร่วมกับภาวะสายตายาวตามอายุ ซึ่งมักพบในผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป การรักษาด้วยเลสิคจะมี 2 วิธี ได้แก่


  1. ทำเลสิคแก้ค่าสายตาให้มองเห็นไกลชัดทั้ง 2 ข้าง และต้องใส่แว่นทุกครั้งที่ต้องการมองใกล้
  2. ใช้เทคนิคที่ทำให้ค่าสายตาข้างใดข้างหนึ่งกลายเป็นสายตาสั้นเล็กน้อยเพื่อให้มองเห็นใกล้ ๆ ได้ชัด ในขณะที่ตาอีกข้างหนึ่ง จะทำให้มองเห็นในระยะไกลได้ชัดเจน เมื่อใช้สายตาทั้งสองข้างพร้อมกัน จะทำให้มองเห็นได้ชัดเจนทั้งใกล้และไกล

ข้อดีของการทำเลสิค มีอะไรบ้าง


ตอบ: การทำเลสิค เป็นเทคนิคในการเจียระไนเนื้อกระจกตาให้ได้ความโค้งที่พอดีกับค่าสายตา เพื่อปรับให้ภาพคมชัด สามารถแก้ไขสายตาผิดปกติได้อย่างถาวร และไม่ต้องพึ่งพาแว่นสายตา หรือคอนแทคเลนส์อีกต่อไป นอกจากนี้ด้วยเทคโนโลยีการรักษาในปัจจุบัน ทำให้ผู้ทำเลสิค สามารถเลือกใช้เทคนิคที่ใช้เวลาในการผ่าตัดและการพักฟื้นสั้น แผลหายเร็ว สามารถกลับบ้านได้ทันทีหลังการผ่าตัด


ในระยะยาว การทำเลสิค ช่วยให้เรามีอิสระในการใช้ชีวิตที่สะดวกสบายขึ้น สามารถเล่นกีฬาหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ (จากเดิมที่การใส่แว่นหรือคอนแทคเลนส์เคยเป็นอุปสรรค) แล้วยังเป็นการเสริมบุคลิกภาพให้ดูดีขึ้นได้อีกด้วย


Lasik-fig6.jpg

ทำเลสิค ข้อเสียมีอะไรบ้าง


ตอบ: การรักษาค่าสายตาด้วยวิธีการเลสิค ก็จะมีเงื่อนไขหลายอย่าง เช่น ข้อจำกัดเรื่องโรคดวงตาบางชนิด รวมถึงเทคนิคการรักษาที่เหมาะสมสำหรับแต่ละคน และผลข้างเคียงต่าง ๆ ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นข้อเสียที่ผู้สนใจควรทำความเข้าใจให้ดีก่อน เพื่อให้มีความคาดหวังที่ถูกต้องเหมาะสมกับเทคนิคการรักษา


ทำเลสิค ต้องมีอายุเท่าไหร่


ตอบ: จักษุแพทย์แนะนำให้มีอายุอย่างน้อย 18 ปีขึ้นไป แต่อายุก็เป็นเพียงเกณฑ์หนึ่งของการทำเลสิค จริง ๆ แล้ว จักษุแพทย์จะให้ความสำคัญกับความนิ่งของค่าสายตามากกว่า ซึ่งผู้ที่จะทำเลสิคได้ ค่าสายตาต้องคงที่ เปลี่ยนแปลงได้ไม่เกิน 50 (0.5D) เป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปี


ส่วนใหญ่แล้ว ผู้ที่มีค่าสายตาไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงนัก มักจะเป็นผู้ที่มีช่วงอายุระหว่าง 25-40 ปี


ผู้สูงอายุ ทำเลสิคได้หรือไม่


ตอบ: ผู้สูงอายุ มีเกณฑ์ที่เสี่ยงต่อภาวะต้อกระจก และโรคเกี่ยวกับตาบางชนิด เช่น โรคตาแห้ง โรคเบาหวานที่จอประสาทตา โรคต้อหิน ที่อาจกระทบต่อประสิทธิภาพการรักษาด้วยเลสิค จักษุแพทย์จึงต้องมีการประเมินเรื่องนี้ให้ก่อน หากไม่มีภาวะต่าง ๆ ดังที่กล่าวมา ก็สามารถเข้ารับการทำเลสิคได้


ทำเลสิคแล้ว สายตากลับมาสั้นได้อีกไหม


ตอบ: การทำเลสิคจะช่วยแก้ไขปัญหาสายตาได้อย่างถาวร (เป็นการ set zero ค่าสายตา) แต่ไม่ได้หมายความว่าสายตาจะกลับมาสั้นอีกไม่ได้ ซึ่งเหตุผลของการกลับมาสายตาสั้น ไม่ได้เกิดจากการทำเลสิค แต่ขึ้นอยู่กับปัจจัยทางด้านร่างกาย และกรรมพันธุ์


นอกจากนี้ ยังขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้ทำเลสิคหลังจากนั้น เช่น ถ้าหากมีการใช้สายตาอย่างต่อเนื่องทุกวัน ครั้งละนาน ๆ โดยไม่พัก ก็อาจเพิ่มโอกาสที่สายตาจะกลับมาสั้นอีกได้ ดังนั้น ทางที่ดีคือ พยายามใช้สายตาให้น้อย พักสายตาบ่อย ๆ ด้วยการหลับตาหรือมองไกล ๆ


หากสายตากลับมาสั้นอีก จะทำเลสิคซ้ำอีกครั้งได้หรือไม่


ตอบ: ทำได้ ถ้าหากจักษุแพทย์ประเมินแล้วว่ากระจกตามีความหนามากเพียงพอ เพราะการจะทำเลสิคได้หรือไม่นั้น จะพิจารณาจากความหนาของกระจกตาเป็นหลัก รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ


ทำเลสิกแล้วตาแห้ง จริงหรือไม่


ตอบ: ภาวะตาแห้งหลังทำเลสิค สามารถเกิดขึ้นได้ โดยจะค่อย ๆ ดีขึ้นหลังจากทำเลสิคแล้วประมาณ 6 เดือน ทั้งนี้ จะตาแห้งมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับประเภทของการทำเลสิค รวมถึงสภาพตาก่อนทำเลสิคด้วย


จักษุแพทย์จะมีการประเมินภาวะตาแห้งของผู้ป่วยก่อนทำเลสิคอยู่แล้ว หากผู้ป่วยมีอาการตาแห้งมาก่อน ก็จะเพิ่มโอกาสให้มีอาการตาแห้งมากยิ่งขึ้นหลังจากทำเลสิคได้ ต้องเลือกประเภทการเลสิคที่มีผลข้างเคียงที่ทำให้ตาแห้งน้อย หรือบางราย จักษุแพทย์อาจพิจารณาไม่ให้ทำเลสิคเลย


Lasik-fig7.jpg

ผลข้างเคียงหลังจากทำเลสิค มีอะไรบ้าง


ตอบ: ผลข้างเคียงหลังการทำเลสิค ที่จักษุแพทย์พยายามหลีกเลี่ยงที่สุด คือ กระจกตาโก่งย้วย เกิดจากผู้ป่วยที่กระจกตาหนาไม่เพียงพอ แต่โดยทั่วไปจะมีการตรวจประเมินให้ก่อนอยู่แล้ว


นอกจากนี้ยังมีภาวะฝากระจกตาเคลื่อน แต่พบได้น้อย ขึ้นอยู่กับประเภทของการทำเลสิค และมักเกิดจากการได้รับการกระทบกระเทือนภายหลังการทำเลสิค ป้องกันได้ด้วยการทำเลสิคแบบ ReLEX Smile


ผลข้างเคียงทั่วไป มักสามารถหายได้เอง


  • ภาวะตาแห้ง โดยจะเป็นมากในช่วง 6 เดือนแรกหลังทำ แนะนำให้ใช้น้ำตาเทียมบ่อย ๆ
  • มองเห็นแสงฟุ้งกระจาย โดยเฉพาะในเวลาที่มองแสงไฟตอนกลางคืน ใช้เวลาประมาณ 3 – 6 เดือนจึงจะเริ่มดีขึ้น

ทำเลสิค พักฟื้นกี่วัน


ตอบ: ขึ้นอยู่กับเทคนิคการเลสิค เนื่องจากแต่ละเทคนิค จะก่อให้เกิดบาดแผลไม่เหมือนกัน ส่งผลต่อระยะเวลาพักฟื้น อย่างเร็วสุดคือ 2 วัน อย่างช้าสุดคือ 2 สัปดาห์ ผู้สนใจควรประเมินความเหมาะสมกับภาระ หน้าที่ และอาชีพดูว่า สามารถหยุดพักฟื้นได้นานหรือไม่ และตรวจสอบว่าตนเองเหมาะสำหรับทำเลสิคด้วยเทคนิคใด


สามารถเปรียบเทียบประเภทการเลสิคแต่ละชนิดได้ที่นี่


ใส่แว่นตาป้องกัน UV ป้องกันสายตากลับมาสั้นอีกได้หรือไม่


ตอบ: ไม่เกี่ยวข้องกัน สาเหตุหลักของภาวะสายตาสั้นมักมาจากปัจจัยทางสุขภาพ ร่างกาย กรรมพันธุ์ และพฤติกรรม การใส่แว่นตาป้องกัน UV จะช่วยในเรื่องการป้องกัน UV เพื่อความสบายตาเท่านั้น


ทำไมคนที่จะสอบนักบิน แอร์โฮสเตส สอบเตรียมทหาร ตำรวจ ต้องทำเลสิคด้วยวิธี PRK เท่านั้น


ตอบ: PRK (Photorefractive Keratectomy) จะไม่แยกชั้นกระจกตา แต่จะลอกผิวกระจกตาชั้นนอกสุดออกก่อน แล้วใช้เลเซอร์ปรับความโค้งของกระจกตาอีกที นับเป็นวิธีที่คงความแข็งแรงสมบูรณ์ของกระจกตาไว้เหมือนเดิม จึงเหมาะสำหรับผู้ที่อาจต้องปฏิบัติหน้าที่หรือมีอาชีพที่เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุต่อชั้นกระจกตาได้


ใครไม่ควรทำเลสิคบ้าง


ตอบ: ผู้ที่ไม่ควรทำเลสิค มีดังนี้


  1. ผู้ป่วยที่มีความบกพร่องทางภูมิคุ้มกัน โรค SLE โรคเบาหวาน รูมาตอยด์ (ไขข้ออักเสบ) ต้อหิน ต้อกระจก จอประสาทตาเสื่อม หรือโรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระจกตาหรือดวงตา
  2. ผู้ที่มีกระจกตาบาง โก่ง หรือผิดรูป
  3. ผู้ที่ค่าสายตาที่ยังไม่นิ่ง
  4. ผู้หญิงตั้งครรภ์ หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร

Lasik-fig8.jpg

ทำไมผู้ที่ตั้งครรภ์อยู่ หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร จึงไม่ควรทำเลสิค


ตอบ: เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าวของคุณผู้หญิง มักจะเกิดภาวะฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง อาจทำให้ค่าสายตาเปลี่ยนแปลงไปได้ ทำให้การตรวจวัดค่าสายตาเพื่อวางแผนทำเลสิค อาจไม่แม่นยำเท่าที่ควร จึงแนะนำให้ผ่านช่วงเวลานี้ไปก่อน


หลังทำเลสิค ใส่คอนแทคเลนส์ได้หรือไม่


ตอบ: ใส่ได้ แต่จะต้องเป็นคอนแทคเลนส์ที่มีความโค้งเหมาะสมสอดคล้องกับความโค้งกระจกตา เพราะถ้าคอนแทคเลนส์ไปกดแน่นหรือหลวมเกินไป อาจทำให้เกิดแผลที่กระจกตาได้ ทั้งนี้ ควรปรึกษาจักษุแพทย์ก่อนตัดสินใจใช้คอนแทคเลนส์


Lasik-fig9.jpg

แนวทางการเตรียมตัวก่อนทำเลสิค มีอะไรบ้าง ?


ตอบ: อย่างแรกควรนัดแพทย์ เพื่อเข้าไปทำการตรวจเช็คสายตาโดยละเอียดก่อน เพื่อความมั่นใจว่าตัวเองสามารถทำเลสิคได้ หลังจากนั้นจะเป็นข้อปฏิบัติเพื่อเตรียมตัวก่อนทำเลสิค ดังนี้


  1. หากอายุไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์ ต้องมีผู้ปกครองมาด้วย
  2. หากใช้คอนแทคเลนส์ชนิดนิ่ม ให้ถอดคอนแทคเลนส์ออกก่อน อย่างน้อย 3 วัน หากเป็นคอนแทคเลนส์ชนิดแข็ง ให้ถอดอย่างน้อย 7 วัน เพราะจะช่วยให้แพทย์ตรวจวัดค่าสายตาได้อย่างแม่นยำขึ้น และทำให้ผลการรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น
  3. งดใช้ยารักษาสิว อย่างน้อย 1 เดือน (ทั้งก่อนตรวจสภาพตา และก่อนผ่าตัด) เพราะเป็นยาที่ส่งผลต่อเยื่อบุและผิวกระจกตา อาจทำให้การวัดประเมินดวงตามีความคลาดเคลื่อน
  4. ถ้าใช้ยาประจำอยู่ ต้องแจ้งให้จักษุแพทย์ทราบ
  5. วันที่มาตรวจประเมินสายตา ควรเตรียมแว่นกันแดดไว้ และพาเพื่อนหรือญาติมาด้วยเพื่อคอยดูแล เนื่องจากต้องมีการหยอดยาขยายม่านตา

Lasik-fig10.jpg

พึ่งทำเลสิคมา มีข้อห้ามอะไรบ้าง


ตอบ: โดยส่วนใหญ่แล้ว จะเป็นข้อห้ามเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการติดเชื้อ หรือกระทบกระเทือนกระจกตา ได้แก่


  1. สวมฝาครอบตา ห้ามแกะฝาครอบเด็กขาด
  2. หากน้ำตาไหล ให้ซับน้ำตารอบ ๆ ฝาครอบตา ห้ามแยงนิ้วเข้าไปซับน้ำตาในที่ครอบตา
  3. งดการใช้สายตาให้มากที่สุด พักผ่อนมาก ๆ ทำกิจกรรมต่าง ๆ เท่าที่จำเป็น
  4. ระวังอย่าให้น้ำ หรือฝุ่นผงต่าง ๆ เข้าตา

ข้อปฏิบัติทั่วไปหลังทำเลสิค มีอะไรบ้าง


ตอบ: เพื่อประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ผู้ทำเลสิค ควรปฏิบัติดังนี้


  1. เข้าพบจักษุแพทย์ตามนัดทุกครั้ง เพื่อติดตามผลการรักษาอย่างต่อเนื่อง
  2. หยอดยาปฏิชีวนะที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
  3. สามารถหยอดน้ำตาเทียมได้บ่อยตามต้องการ (ภายหลังจากที่แพทย์อนุญาต)
  4. ห้ามให้น้ำหรือฝุ่นเข้าตาโดยเด็ดขาด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
  5. ห้ามขยี้ตา การขยี้ยาเป็นเรื่องที่พลั้งเผลอกันง่ายมาก จึงไม่ควรเปิดฝาครอบตาออกหากไม่จำเป็น และต้องใส่ไว้ตลอดแม้แต่ตอนนอน เพราะจะช่วยป้องกันการเผลอขยี้ตาได้
  6. งดการแต่งหน้าบริเวณรอบดวงตา อย่างน้อย 1 สัปดาห์ ลดโอกาสระคายเคืองต่อดวงตา
  7. สวมแว่นตากันแดด ลดความไม่สบายตา หรืออาการตาแห้งได้
  8. ใช้สายตาได้บ้าง แต่ควรหยุดพักสายตาบ่อย ๆ เพราะอาจทำให้เกิดอาการตาล้าได้
  9. งดกิจกรรมทุกชนิดที่ทำให้เหงื่อออก เป็นเวลา 1 สัปดาห์
  10. งดกิจกรรมทางน้ำ ได้แก่ งดว่ายน้ำ 1 เดือน และงดกิจกรรมดำน้ำ 3 เดือน นับจากวันผ่าตัด

ทำเลสิค ราคาเท่าไหร่


ตอบ: ค่าใช้จ่ายในการทำเลสิค ขึ้นอยู่กับประเภทของการเลสิค (ซึ่งควรพิจารณาเลือกจากความเหมาะสมกับสถานการณ์ของเราเป็นหลักก่อน) สำหรับศูนย์เลสิคพระรามเก้า มีค่าบริการทำเลสิคอยู่ในช่วงระหว่าง 35,900 – 90,000 บาท สนใจสอบถามค่าบริการได้ที่นี่


อย่าให้ความสงสัย ปิดกั้นโอกาสของคุณ


ศูนย์เลสิคพระรามเก้า ให้ความสำคัญกับทุกข้อปัญหาที่คุณสงสัย เพราะเราเข้าใจดีว่า การทำเลสิค เป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องมีการศึกษา วางแผน และตัดสินใจ และมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง เราจึงได้จัดทำบทความนี้ขึ้น เพื่อคลายความสงสัยและข้อกังวลของคุณโดยเฉพาะ


หากท่านมีข้อสงสัยอื่นใดนอกเหนือจากในบทความนี้ สามารถติดต่อเข้ามาสอบถามกับเราได้ที่ศูนย์เลสิคพระรามเก้า อ่านรายละเอียดได้ที่นี่ https://www.praram9.com/medical_centers/ศูนย์เลสิค/


ศูนย์เลสิคพระรามเก้า เปิดบริการทุกวัน 08.00-16.00 น.

อาคาร B ชั้น 9 โรงพยาบาลพระรามเก้า

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ โทร. 1270

หรือแอดไลน์ Praram9Lasik


ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกับ Praram 9 V ปรึกษาแพทย์ได้ทุกที่ผ่านทางวิดีโอคอล (Telemedicine)


เกี่ยวกับผู้เขียนบทความ

พญ. รุ่งรวี สัจจานุกูล

พญ. รุ่งรวี สัจจานุกูล

ศูนย์จักษุ

บทความที่เกี่ยวข้อง (10)

ดูทั้งหมด

คุณเป็นโรคภูมิแพ้…จริงหรือ…?

คนทั่วไปเมื่อมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหลเรื้อรัง หรือเป็นๆ หายๆ มักจะบอกว่า เป็นโรคภูมิแพ้ หรือไม่ก็เข้าใจว่าตนเป็นหวัด หวัด เกิดจากการติดเชื้อไวรัส คนทั่วไปมักเป็นได้ปีละ 4 – 5 ครั้งก็มากเกินปกติแล้ว อาการหวัดมักเป็นอยู่ 3 – 4 วัน

โรคไข้อีดำอีแดง โรคที่เกิดจากพิษของเชื้อแบคทีเรีย

ข้อมูลจาก สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย โรคไข้อีดำอีแดงหรือ scarlet fever เป็นโรคที่เกิดจากพิษของเชื้อแบคทีเรียชื่อ #สเตร็ปโตคอคคัสชนิดเอ ทำให้มีผื่นแดง ตามตัวร่วมกับคอหอยหรือทอนซิลอักเสบ พบบ่อยในช่วงอายุระหว่าง 5-15 ปี

วัคซีนปอดอักเสบนิวโมคอกคัสชนิดใหม่ 20 สายพันธุ์ (PCV 20)

โรคปอดอักเสบจากเชื้อนิวโมคอกคัสเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอคคัสนิวโมเนียอี (Streptococcus pneumoniae) ส่วนใหญ่เชื้อจะพบอยู่ในโพรงจมูกและลำคอ สามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งทางละอองฝอยทางการไอหรือจาม เป็นหนึ่งในเชื้อที่ทำให้เกิดปอดอักเสบที่พบบ่อย ทั้งในเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ

โรคแอนแทรกซ์ (Anthrax) โรคติดต่อจากสัตว์สู่คน

โรคแอนแทรกซ์ หรือชาวบ้านเรียกว่าโรคกาลี เป็นโรคที่รู้จักกันมาแต่โบราณกาล แอนแทรกซ์นับว่าเป็นโรคระบาดสำคัญโรคหนึ่งในพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2499 เป็นโรคติดต่ออันตรายร้ายแรงที่เกิดขึ้นได้ในสัตว์กินหญ้าแทบทุกชนิด ทั้งสัตว์ป่า เช่น ช้าง เก้ง กวาง และสัตว์เลี้ยง เช่น โค กระบือ แพะ แกะ แล้วติดต่อไปยังคนและสัตว์อื่น

บอลลูนหัวใจ: แก้ปัญหาหลอดเลือดหัวใจตีบ โดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่

การทำบอลลูนหัวใจหรือ PCI เป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพในการรักษาภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบ ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้สะดวก ลดอาการเจ็บหน้าอก และลดความเสี่ยงของหัวใจวาย เป็นการเปิดหลอดเลือดโดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ ทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยยังคงต้องดูแลสุขภาพ หมั่นออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และลดปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ เพื่อรักษาสุขภาพของหัวใจในระยะยาว

ลิ้นหัวใจเทียมคืออะไร? ทำไมต้องเปลี่ยน? และอะไรบ้างที่คุณควรรู้?

การผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจเทียมเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาสำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาลิ้นหัวใจผิดปกติ และการผ่าตัดเปลี่ยนลินหัวใจจะช่วยฟื้นฟูการทำงานของหัวใจให้กลับมาใกล้เคียงปกติ อย่างไรก็ตามผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาจะต้องได้รับการประเมินอย่างละเอียด เพื่อเลือกชนิดของลิ้นหัวใจที่เหมาะสม

หัวใจล้มเหลว อาการเป็นอย่างไร ป้องกันได้อย่างไรบ้าง

หัวใจล้มเหลวคือภาวะที่หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนและสารอาหารไม่เพียงพอ อาการสำคัญที่ควรสังเกต ได้แก่ เหนื่อยง่าย หายใจลำบาก ขาบวม และน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มักเกี่ยวข้องกับโรคหัวใจและหลอดเลือด การวินิจฉัยและรักษาอย่างรวดเร็วจะช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนรุนแรง

การตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจมะเร็ง (Biopsy) หมดความสงสัย วินิจฉัยได้อย่างแม่นยำ

การตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจมะเร็ง (Biopsy) คือวิธีที่นิยมในการวินิจฉัยมะเร็ง เนื่องจากความแม่นยำและละเอียดในการบ่งชี้ประเภทของมะเร็ง ทำได้อย่างไร? บทความนี้มีคำตอบ!

การใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ รักษาใจเต้นผิดจังหวะ ให้กลับสู่ภาวะปกติ

การใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ (Pacemaker Implantation) จะใช้รักษาผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ เครื่องจะช่วยให้หัวใจกลับมาทำงานได้ใกล้เคียงกับระดับปกติอีกครั้ง

รู้จัก ASD คืออะไร? ผนังหัวใจรั่วอาการเป็นแบบไหน รักษายังไงดี

ชวนรู้จัก ASD หรือ ภาวะผนังกั้นหัวใจรั่วคืออะไร ผนังหัวใจรั่ว อันตรายไหม? มาเช็กต้นตอสาเหตุ อาการของ ASD แนวทางการรักษา พร้อมวิธีดูแลให้หัวใจห้องบนแข็งแรง!

Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital