Skip to content
  • TH
    • EN
    • CN
    • AR
  • TH
    • EN
    • CN
    • AR
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • Health Guru
    • บทความสุขภาพ
    • Doctor’s Health Insights
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา
Menu
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • Health Guru
    • บทความสุขภาพ
    • Doctor’s Health Insights
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา

ปวดหลังช่วงเอว อาจเป็นอาการช่วยเตือนว่าควรรักษาไตได้แล้ว

บทความ

โรงพยาบาลพระรามเก้า

  • วันที่โพสต์ 19 มิถุนายน 2025
ปวดหลังช่วงเอว ไต

อาการปวดหลังช่วงเอวอาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับหลายๆ คน แต่แท้จริงแล้ว มันอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง โดยเฉพาะอาการปวดหลังช่วงเอวที่เกี่ยวข้องกับโรคไต ซึ่งหากละเลยและปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาจนำไปสู่ภาวะไตเสื่อมหรือไตวายในระยะยาว การสังเกตอาการและดูแลสุขภาพไตตั้งแต่เนิ่น ๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพที่อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตในระยะยาว

Key Takeaways

  • โรคไตมีหลายสาเหตุ เช่น นิ่วในไต การติดเชื้อ โรคเรื้อรังอย่างเบาหวานและความดันโลหิตสูง
  • การวินิจฉัยโรคไตต้องอาศัยหลายวิธี เช่น ตรวจปัสสาวะ ตรวจเลือด อัลตราซาวด์ หรือเอกซเรย์
  • การรักษาโรคไตขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของโรค ทำได้ตั้งแต่การปรับพฤติกรรม การใช้ยา ไปจนถึงการฟอกไตหรือปลูกถ่ายไตในกรณีที่รุนแรง
  • ป้องกันปัญหาไตเบื้องต้นได้ด้วยการดูแลสุขภาพให้ดี ดื่มน้ำให้เพียงพอ ลดอาหารเค็ม ออกกำลังกาย และตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอ

สารบัญบทความ

  • สัญญาณเตือนบ่งชี้อาการโรคไตมีอะไรบ้าง?
  • โรคไตมีสาเหตุมาจากอะไร?
  • วิธีวินิจฉัยการปวดหลังช่วงเอวว่าเป็นจากโรคไตหรือไม่
  • วิธีรักษาโรคไตมีอะไรบ้าง?
  • ป้องกันอาการปวดหลังช่วงเอวจากโรคไตได้อย่างไร?
  • ปวดหลังช่วงเอว สัญญาณเตือนภัยโรคไตที่ควรจับตามอง
  • คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับปวดหลังช่วงเอว ไต

สัญญาณเตือนบ่งชี้อาการโรคไตมีอะไรบ้าง?

โรคไตเป็นภาวะที่ไตทำงานผิดปกติ ส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถกรองของเสียและควบคุมสมดุลของเหลวได้อย่างมีประสิทธิภาพ การสังเกตสัญญาณเตือนของโรคไตจึงสามารถทำได้โดยการสังเกตจากอาการดังต่อไปนี้

ปัสสาวะมีเลือดปน

ปัสสาวะที่มีสีแดงหรือชมพูอาจเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาเกี่ยวกับไตและทางเดินปัสสาวะ โดยอาจจะเกิดจากการติดเชื้อ นิ่วในทางเดินปัสสาวะ ภาวะไตอักเสบจากสาเหตุต่าง ๆ หรือมะเร็งในทางเดินปัสสาวะ

ปัสสาวะเป็นฟอง

การที่ปัสสาวะเป็นฟองมากกว่าปกติและฟองไม่หายไปหลังจากเวลาผ่านไป อาจบ่งบอกถึงการมีโปรตีนรั่วในปัสสาวะ ซึ่งเป็นสัญญาณของความผิดปกติในไต

ปัสสาวะมากหรือน้อยผิดปกติ

หากปัสสาวะบ่อยเกินไป อาจเป็นสัญญาณว่าไตไม่สามารถควบคุมสมดุลของเหลวได้ดี แต่หากดื่มน้ำในปริมาณปกติแต่ปัสสาวะน้อยหรือไม่ปัสสาวะเลย ก็อาจเป็นสัญญาณของภาวะไตเสื่อมหรือการอุดกั้นในทางเดินปัสสาวะส่วนล่างได้เช่นกัน

ความดันโลหิตสูง

ไตมีบทบาทสำคัญซึ่งเกี่ยวข้องกับการควบคุมความดันของเลือด หากไตทำงานผิดปกติก็อาจทำให้ระดับความดันโลหิตสูงขึ้น หรือความดันโลหิตสูงเรื้อรังอาจส่งผลกระทบต่อไตในระยะยาว ทำให้ไตเสื่อมลงเร็วขึ้น หากคุณมีภาวะความดันโลหิตสูงโดยไม่ทราบสาเหตุ ควรตรวจสุขภาพไตเพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างอาการทั้งสอง

ปวดหลังช่วงเอว

อาการปวดหลังช่วงเอวด้านข้าง หรือปวดท้องปวดหลังพร้อมกันอาจเป็นสัญญาณของโรคไตโดยเฉพาะ นิ่วในไต หรือการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ โดยเฉพาะหากมีอาการปวดร้าวลงไปที่ขาหนีบหรือปวดเป็นระยะ ๆ ควรสังเกตว่าปวดมากขึ้นเมื่อขยับตัวหรือมีไข้ร่วมด้วยหรือไม่ หากอาการปวดยังคงอยู่เป็นเวลานาน ควรรีบพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุ

อาการบวม

ภาวะไตเสื่อมอาจทำให้ร่างกายไม่สามารถขับของเสียและน้ำส่วนเกินออกไปได้หรือมีการรั่วของโปรตีนลงในปัสสาวะ ส่งผลให้เกิดอาการบวมที่ใบหน้า มือ เท้า และขา หากสังเกตว่าร่างกายบวมผิดปกติและกดแล้วบุ๋ม อาจเป็นสัญญาณว่าไตทำงานผิดปกติและควรเข้ารับการตรวจ

อ่อนเพลียและเหนื่อยง่าย

เมื่อไตทำงานผิดปกติ ของเสียจะสะสมในร่างกายเเละอาจมีความไม่สมดุลย์ของเกลือเเร่ในร่างกาย ทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย และไม่มีแรง นอกจากนี้ ภาวะไตเสื่อมอาจส่งผลให้เกิดภาวะโลหิตจาง เนื่องจากไตมีหน้าที่ผลิตฮอร์โมนกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดง หากรู้สึกเหนื่อยล้าเรื้อรังโดยไม่ทราบสาเหตุ ควรตรวจสุขภาพเพื่อหาสาเหตุ

โรคไตมีสาเหตุมาจากอะไร?

ปวดหลัง ไต

โรคไตเกิดขึ้นจากหลายปัจจัย ทั้งปัจจัยภายในร่างกายและพฤติกรรมการใช้ชีวิต โดยทั่วไปมักเกิดจากการทำงานของไตที่ผิดปกติ จนไม่สามารถกรองของเสียหรือควบคุมสมดุลของเหลวและเกลือแร่ในร่างกายได้ ส่งผลให้เกิดอาการและภาวะต่าง ๆ ที่กระทบต่อสุขภาพ 

  • นิ่วในไตและการอุดตัน : เกิดจากแร่ธาตุในปัสสาวะตกผลึกเป็นก้อนนิ่ว ส่งผลให้ปัสสาวะติดขัดและไตทำงานหนักขึ้น ปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ การดื่มน้ำน้อย และการกินอาหารที่มีโซเดียมสูง
  • การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ : แบคทีเรียที่เข้าสู่ทางเดินปัสสาวะอาจลุกลามไปยังไต ทำให้เกิดกรวยไตอักเสบ อาการที่พบบ่อยคือปวดหลังช่วงเอว ปัสสาวะขุ่น มีไข้
  • ความดันโลหิตสูงและเบาหวาน : ทั้งสองภาวะนี้ทำให้ไตต้องทำงานหนักขึ้น เส้นเลือดในไตถูกทำลาย ส่งผลให้ประสิทธิภาพการกรองของเสียลดลงและเสี่ยงต่อภาวะไตวาย
  • การใช้ยาบางชนิด : ยาแก้อักเสบ ยาปฏิชีวนะ และสมุนไพรบางชนิด หากใช้เป็นเวลานานอาจส่งผลเสียต่อไต โดยเฉพาะในผู้ที่มีโรคไตอยู่แล้ว
  • โรคทางพันธุกรรมและความผิดปกติโดยกำเนิด : โรคถุงน้ำในไตและความผิดปกติของไตแต่กำเนิด อาจทำให้การทำงานของไตเสื่อมลงเรื่อย ๆ
  • พฤติกรรมเสี่ยง : การดื่มน้ำน้อย บริโภคอาหารเค็มจัด ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ และไม่ออกกำลังกาย ล้วนเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคไต

วิธีวินิจฉัยการปวดหลังช่วงเอวว่าเป็นจากโรคไตหรือไม่

อาการปวดหลังช่วงเอวจากไตอาจเกิดจากหลายสาเหตุ ทั้งจากกล้ามเนื้อ เส้นประสาท หรือไตเอง ซึ่งส่วนมากเเล้วจะเกี่ยวกับระบบกล้ามเนื้อ เเต่ หากต้องการแยกว่าปวดหลังนี้เกี่ยวข้องกับโรคไตหรือไม่ สามารถใช้วิธีวินิจฉัยดังต่อไปนี้

  1. ซักประวัติและประเมินอาการ : แพทย์จะสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับอาการ เช่น
    • ตำแหน่งที่ปวด : หากปวดช่วงกลางหลังค่อนไปทางด้านข้างบริเวณชายโครง อาจเกี่ยวข้องกับไต
    • ลักษณะของอาการ : ปวดตื้อ ๆ ต่อเนื่อง หรือปวดแบบรุนแรงเป็นพัก ๆ อาจบ่งชี้ปัญหาที่ระบบทางเดินปัสสาวะ
    • สิ่งกระตุ้นอาการปวด : หากปวดมากขึ้นสัมพันธ์กับการขยับตัวในท่าทางที่ชัดเจน หรือมีอาการเกิดหลังจากพฤติกรรมกระตุ้นที่ชัดเจน เช่น ยกของหนักก่อนมีอาการ อาจสัมพันธ์กับอาการทางกล้ามเนื้อ เช่น กล้ามเนื้อหลังอักเสบ
    • อาการร่วมอื่น ๆ : เช่น ปัสสาวะขุ่น ปัสสาวะบ่อยผิดปกติ หรือมีไข้
  2. การตรวจร่างกาย : แพทย์จะตรวจโดยการกดบริเวณหน้าท้อง คลำโอบบริเวณหน้าท้องหรือเคาะบริเวณบั้นเอว หากรู้สึกเจ็บ อาจเป็นสัญญาณของโรคไต เช่น กรวยไตอักเสบ 
  3. การตรวจเพิ่มเติม : หากสงสัยว่าเป็นโรคไต แพทย์อาจสั่งตรวจดังนี้
    • ตรวจปัสสาวะ : เพื่อตรวจหาค่าโปรตีน เม็ดเลือด
    • ตรวจเลือด : ดูค่าการทำงานของไตเเละระบบที่เกี่ยวข้อง เช่น เม็ดเลือด ครีเอตินิน (Creatinine) และยูเรียไนโตรเจน (BUN)
    • อัลตราซาวด์หรือเอกซเรย์ : ตรวจหาอาการบวม นิ่ว หรือความผิดปกติของไตอื่น ๆ
    • ส่องกล้องตรวจกระเพาะปัสสาวะ : ในกรณีที่ต้องการตรวจหาความผิดปกติของกระเพาะปัสสาวะ

วิธีรักษาโรคไตมีอะไรบ้าง?

ปวดเอวด้านขวา ไต

หลังจากที่ปวดหลังจนไปตรวจและพบโรคไตหรืออาการไตอักเสบ การรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของโรค การรักษาแบ่งออกเป็นการดูแลตนเอง การใช้ยา และการรักษาทางการแพทย์

1. ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต

การดูแลไตให้แข็งแรงและลดความเสี่ยงของโรคไตต้องอาศัยการปรับพฤติกรรมให้เหมาะสม เช่น

  • ควบคุมอาหาร : ลดปริมาณโซเดียม จำกัดโปรตีนจากสัตว์ และเลือกโปรตีนจากพืชบางมื้อ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมสูง เช่น กล้วย มันฝรั่ง และถั่วบางชนิด
  • รักษาสุขภาพและควบคุมโรคที่เกิดร่วม : เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคเก๊าต์ โดยควรตรวจสุขภาพสม่ำเสมอและทานยาตามแพทย์สั่ง
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ : อย่างน้อย 3-5 วันต่อสัปดาห์ ครั้งละ 30-45 นาที เพื่อช่วยควบคุมน้ำหนัก ความดันโลหิต และระดับน้ำตาลในเลือด
  • ระวังการใช้ยา : หลีกเลี่ยงยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs เช่น Ibuprofen และ Diclofenac เพราะอาจทำให้ไตเสื่อมเร็วขึ้น รวมถึงหลีกเลี่ยงยาลูกกลอนและยาสมุนไพรที่ไม่มีมาตรฐาน
  • งดบุหรี่และแอลกอฮอล์ : เพราะทำให้ไตทำงานหนักขึ้น เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคไตวายและมะเร็งไต

นอกจากนี้ การดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน และลดปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ จะช่วยให้ไตทำงานได้ดีขึ้นและเสื่อมช้าลง

2. รักษาด้วยยา

การรักษาด้วยยานั้นมีหลากหลายรูปเเบบ ขึ้นอยู่กับคำวินิจฉัยโรคเเละสาเหตุของการเกิดโรค เช่น ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการไตอักเสบหรือติดเชื้อ แพทย์ก็จะสั่งจ่ายยาปฏิชีวนะเพื่อควบคุมการติดเชื้อ หากมีโรคไตเสื่อมร่วมกับความดันโลหิตสูง การใช้ยาควบคุมความดัน ในกลุ่ม ACE inhibitors หรือ ARBs อาจช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของไต ร่วมกับการควบคุมความดันให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม

หากผู้ป่วยมีอาการปวดหลังช่วงเอวจากภาวะไตเสื่อม ก็ควรหลีกเลี่ยงยาแก้ปวดที่อาจส่งผลเสียต่อไต เช่น ยากลุ่ม NSAIDs อย่างไอบูโพรเฟน หรือไดโคลฟีแนค และเลือกใช้ยาแก้ปวดที่ปลอดภัยต่อไตตามคำแนะนำของแพทย์แทน

3. รักษาด้วยกระบวนการทางการแพทย์

หากโรคไตเข้าสู่ระยะรุนแรงจนไตไม่สามารถกรองของเสียได้ตามปกติ ผู้ป่วยอาจต้องได้รับการรักษาด้วยวิธีทางการแพทย์ที่ช่วยทดแทนการทำงานของไต ดังนี้

  • ฟอกไต (Hemodialysis) : ซึ่งเป็นการใช้เครื่องฟอกเลือดเพื่อกำจัดของเสียออกจากร่างกาย วิธีนี้ต้องทำเป็นประจำทุกสัปดาห์เพื่อให้ร่างกายสามารถทำงานได้ตามปกติ
  • ล้างไตทางช่องท้อง (Peritoneal Dialysis) : ซึ่งใช้เยื่อบุช่องท้องเป็นตัวกรองของเสีย โดยผู้ป่วยสามารถทำเองได้ที่บ้านภายใต้คำแนะนำของแพทย์
  • ปลูกถ่ายไต (Kidney Transplant) : อาจเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่มีภาวะไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายและต้องการวิธีรักษาที่ยั่งยืนกว่า โดยแพทย์จะทำการผ่าตัดเปลี่ยนไตจากผู้บริจาคที่มีเนื้อเยื่อเข้ากันได้ วิธีนี้ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติมากขึ้น แต่ต้องมีการติดตามผลและรับประทานยากดภูมิคุ้มกันอย่างต่อเนื่อง

ป้องกันอาการปวดหลังช่วงเอวจากโรคไตได้อย่างไร?

ป้องกันอาการปวดหลังช่วงเอวจากโรคไตได้อย่างไร?

อาการปวดหลังช่วงเอวจากโรคไตสามารถป้องกันได้ด้วยการดูแลสุขภาพให้ดีและลดปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้ไตทำงานหนักเกินไป การปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวันจะช่วยให้ไตทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ลดโอกาสเกิดภาวะไตเสื่อมและอาการปวดหลังที่เกี่ยวข้อง

  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ : การดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้วเป็นสิ่งสำคัญ เพราะน้ำช่วยให้ไตสามารถกรองของเสียและขับออกทางปัสสาวะได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยป้องกันการเกิดนิ่วในไตได้
  • คุมอาหาร
    • ลดการบริโภคโซเดียม : จำกัดเกลือไม่เกิน 1 ช้อนชาต่อวัน เพื่อลดความเสี่ยงของความดันโลหิตสูง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ไตเสื่อมเร็วขึ้น
    • ควบคุมปริมาณโปรตีน : อาจเลือกโปรตีนจากพืช เช่น เต้าหู้ ถั่วเหลือง และธัญพืช เพื่อลดภาระของไตในการกรองของเสีย หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ติดมันและอาหารแปรรูป
  • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ : แอลกอฮอล์ส่งผลเสียต่อไตโดยทำให้ร่างกายขาดน้ำและเพิ่มภาระการทำงานของไต นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ซึ่งอาจทำให้อาการปวดหลังรุนแรงขึ้น
  • รักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล : สุขอนามัยที่ดีช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ไตอักเสบและนำไปสู่อาการปวดหลังช่วงเอว ควรอาบน้ำให้สะอาด เปลี่ยนเสื้อผ้าที่สะอาดอยู่เสมอ และหากมีเพศสัมพันธ์ ควรใช้วิธีป้องกันที่ปลอดภัยเพื่อลดโอกาสการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ : การออกกำลังกายช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อหลังและกระดูกสันหลังให้แข็งแรง ลดความเสี่ยงของอาการปวดหลังที่อาจเกิดจากกล้ามเนื้อล้าหรืออักเสบ นอกจากนี้ยังช่วยควบคุมน้ำหนัก ป้องกันโรคอ้วนและความดันโลหิตสูง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคไต ควรออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง เช่น การเดิน โยคะ หรือว่ายน้ำ

ปวดหลังช่วงเอว สัญญาณเตือนภัยโรคไตที่ควรจับตามอง

อาการปวดหลังช่วงเอวอาจเป็นสัญญาณของปัญหาเกี่ยวกับไตที่มีปัญหา โดยเฉพาะหากมีอาการอื่นร่วม เช่น ปัสสาวะผิดปกติ อ่อนเพลีย บวมตามร่างกาย หรือความดันโลหิตสูง หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาจนำไปสู่ภาวะไตเสื่อมหรือไตวาย สัญญาณเตือนเหล่านี้จึงเป็นสิ่งที่ควรหมั่นสังเกตและพบแพทย์ทันทีหากมีอาการผิดปกติ

ซึ่งที่โรงพยาบาลพระรามเก้าก็เป็นสถานที่ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ป่วยมาอย่างยาวนาน ด้วยมาตรฐานการรักษาที่ทันสมัยและมีทีมแพทย์หลากหลายสาขาที่พร้อมจะดูแลอย่างทั่วถึง พร้อมด้วยเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีคุณภาพสูง ยิ่งตอกย้ำว่าโรงพยาบาลพระรามเก้ามุ่งมั่นในการดูแลรักษาผู้ป่วยอย่างเป็นส่วนตัวและมีความใส่ใจในทุกขั้นตอน เพื่อให้ทุกคนได้รับการรักษาที่ดีที่สุดในทุกๆ ด้าน พร้อมด้วยการบริการที่อบอุ่นและมืออาชีพ หากมีข้อสงสัยอะไรเพิ่มเติมก็สามารถติดต่อได้ตามช่องทางด้านล่างต่อไปนี้

  • Facebook : Praram 9 hospital  
  • Line : @Praram9Hospital
  • โทร. 1270

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับปวดหลังช่วงเอว ไต

หลังจากที่รู้แล้วว่าปวดหลังแบบไหนเป็นโรคไต และปวดไตจะปวดตรงไหน หลายคนก็อาจจะมีคำถามเกี่ยวกับโรคไตต่อเนื่องไปอีก โดยคำถามที่พบบ่อยพร้อมคำตอบก็จะมีอยู่ ดังนี้

1. อาการแบบไหนที่บ่งบอกว่าโรคไตอยู่ในภาวะวิกฤต?

หากมีอาการปวดหลังช่วงเอวอย่างรุนแรงร่วมกับอาการอื่น เช่น ปัสสาวะเป็นเลือด ปัสสาวะลดลง บวมตามร่างกาย อ่อนเพลีย หายใจลำบาก หรือความดันโลหิตสูงผิดปกติ อาจไม่ใช่แค่ปวดหลังช่วงเอวธรรมดาแต่เป็นสัญญาณของโรคไต ควรรีบพบแพทย์โดยด่วน

References

Kidney pain. (2022, May 31). Cleveland Clinic. https://my.clevelandclinic.org/health/symptoms/17688-kidney-pain 

Kidney pain. (2023, May). HealthDirect. https://www.healthdirect.gov.au/kidney-pain#:~:text=Kidney%20pain%20is%20usually%20felt,can%20help%20prevent%20kidney%20pain 

Klein, E. (2024, November 27). Kidney pain vs. back pain: How to tell the difference. Healthline. https://www.healthline.com/health/kidney-pain-vs-back-pain 

บทความล่าสุด

ปัสสาวะเป็นฟอง

ปัสสาวะเป็นฟอง อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพมากกว่าที่คิด รีบหาสาเหตุและรักษาโดยเร็ว

อ่านเพิ่มเติม
โปรตีนรั่ว

โปรตีนรั่วในปัสสาวะคืออะไร? ภาวะอันตรายเสี่ยงไตอักเสบมากกว่าที่คิด

อ่านเพิ่มเติม
ปวดหลังช่วงเอว ไต

ปวดหลังช่วงเอว อาจเป็นอาการช่วยเตือนว่าควรรักษาไตได้แล้ว

อ่านเพิ่มเติม
ดูบทความทั้งหมด

ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกับ Praram 9 V

ปรึกษาแพทย์ได้ทุกที่ผ่านทางวิดีโอคอล (Telemedicine)

  • Praram 9 Hospital
  • @praram9hospital

แพทย์ผู้เขียนบทความ

 

ศูนย์แพทย์

1677919536144

สถาบันโรคไตและเปลี่ยนไต

เยี่ยมชม

ดูทั้งหมด

บทความอื่นๆ

ปัสสาวะเป็นฟอง

ปัสสาวะเป็นฟอง อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพมากกว่าที่คิด รีบหาสาเหตุและรักษาโดยเร็ว

ปัสสาวะเป็นฟองเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ ตั้งแต่การปัสสาวะเร็วที่เป็นภาวะปกติ ไปจนถึงปัจจัยที่เกิดจากโปรตีนรั่ว ซึ่งเป็นปัญหาจากไตผิดปกติ ออกกำลังกายหนัก หรือขาดน้ำ

อ่านเพิ่มเติม
โปรตีนรั่ว

โปรตีนรั่วในปัสสาวะคืออะไร? ภาวะอันตรายเสี่ยงไตอักเสบมากกว่าที่คิด

รู้จักกับโปรตีนรั่ว ซึ่งเป็นภาวะที่มีโปรตีนรั่วในปัสสาวะมากเกินไป อาจเป็นอันตรายต่อไตจนเกิดการอักเสบได้ พร้อมรู้สัญญาณเตือน วิธีรักษา และการป้องกันจากภาวะนี้

อ่านเพิ่มเติม
ปวดหลังช่วงเอว ไต

ปวดหลังช่วงเอว อาจเป็นอาการช่วยเตือนว่าควรรักษาไตได้แล้ว

อาการปวดปวดหลังช่วงเอวอาจเป็นสัญญาณเตือนโรคไตที่กำลังเข้ามาทำให้สุขภาพมีปัญหา แต่โรคไตก็มีอยู่หลายโรค มีโรคอะไรบ้างที่ทำให้ปวดแบบนี้ บทความนี้มีคำตอบ!

อ่านเพิ่มเติม
อ่านบทความทั้งหมด
Facebook-f Youtube Instagram Line
  • 1270
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • นัดหมาย
  • บทความสุขภาพ
  • แพ็กเกจ
  • ข่าว และกิจกรรม รพ.
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • นักลงทุนสัมพันธ์
  • การพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน
  • ร่วมงานกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • ข้อกำหนดและเงื่อนไข

Copyright © 2025 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital

  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • Health Guru
    • บทความสุขภาพ
    • Doctor’s Health Insights
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา