อาการท้องผูก หรือท้องเสียหลายท่านอาจคิดว่าเป็นอาการที่พบได้ทั่วไป เเต่ทราบหรือไม่ว่าอาการท้องผูกหรือท้องเสียเรื้อรังนี้เป็นหนึ่งในอาการสำคัญของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ โดยในปัจจุบันพบว่า โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นมะเร็งที่พบได้บ่อย และเป็นสาเหตุอันดับต้น ๆ ของการตายจากโรคมะเร็ง ในระยะเเรกผู้ป่วยมักไม่มีอาการจึงทำให้ตรวจพบได้ยาก โดยจะเริ่มมีอาการรุนเเรงมากขึ้นเมื่อมะเร็งแพร่กระจายแล้ว ทำให้การรักษาซับซ้อน และอาจไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้หากมะเร็งอยู่ในระยะรุนแรง
มะเร็งลำไส้ใหญ่คืออะไร?
มะเร็งลำไส้ใหญ่ (colon cancer หรือ colorectal cancer) คือ การเจริญเติบโตที่ผิดปกติของเซลล์ผนังลำไส้ใหญ่ จนกลายเป็นเนื้องอกจากนั้นมีการพัฒนาเป็นเซลล์มะเร็ง ทำให้ลำไส้ใหญ่มีการทำงานที่ผิดปกติหรือสูญเสียการทำงานในการดูดซึมน้ำเเละเเร่ธาตุ ส่งผลต่อลักษณะของอุจจาระเเละการขับถ่าย จากนั้นเซลล์มะเร็งจะลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลืองบริเวณใกล้เคียง เเละเเพร่กระจายเข้าสู่กระเเสเลือดไปยังอวัยวะต่าง ๆ
อาการและสัญญาณเตือนมะเร็งลำไส้ใหญ่
อาการของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่มีอาการแสดงขึ้นกับตำแหน่งที่เกิดมะเร็ง โดยมักจะมีอาการดังนี้
- ท้องผูกเรื้อรัง หรือท้องเสียที่รักษาเเล้วไม่หายขาด หรือมีท้องผูกสลับท้องเสีย ซึ่งมีอาการคล้ายกับโรคลำไส้แปรปรวน
- ถ่ายอุจจาระเป็นเลือดหรือมีเลือดออกบริเวณทวารหนัก
- อุจจาระผิดปกติไปจากเดิม กล่าวคือ มีปริมาณเเละความถี่ที่เปลี่ยนไป
- มีอาการเเน่นท้อง ปวดท้อง หรือท้องอืดเป็นประจำ
- อ่อนเพลีย น้ำหนักลด เบื่ออาหาร
- คลำเจอก้อนบริเวณช่องท้องด้านขวา
สาเหตุมะเร็งลำไส้ใหญ่
โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่พบบ่อยในผู้ที่อายุ 50 ปีขึ้นไป ปัจจุบันยังไม่สามารถบอกได้เเน่ชัดว่า มะเร็งลำไส้ใหญ่เกิดจากอะไร โดยจากการศึกษาเบื้องต้นพบว่ามีความสัมพันธ์กับพันธุกรรมเเละประวัติคนในครอบครัวที่มีผู้เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ จะทำให้มีความเสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไป พร้อมทั้งพฤติกรรมการดูเเลสุขภาพ อาหาร เเละการออกกำลังกายเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่มีความสำคัญเช่นกัน
มะเร็งลำไส้ใหญ่อันตรายอย่างไร?
โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นโรคมะเร็งที่พบบ่อยและเป็นสาเหตุการตายจากโรคมะเร็งลำดับที่ 4 ของมะเร็งทั้งหมด มะเร็งลำไส้ใหญ่ในระยะเเรกมักไม่มีอาการ เเต่เมื่อเซลล์มะเร็งเริ่มลุกลามจะทำให้มีอาการชัดเจนขึ้น ซึ่งจะมีความอันตรายเพิ่มขึ้น เนื่องจากเซลล์มะเร็งอาจจะเริ่มลุกลามไปยังอวัยวะอื่น ๆ ดังนั้นการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่เเละตรวจพบมะเร็งลำไส้ใหญ่ในระยะเเรก ๆ จึงเป็นปัจจัยสำคัญต่อผลลัพธ์ในการรักษา เเละอัตราการรอดชีวิตของผู้ป่วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่อย่างมาก โดยหากพบมะเร็งลำไส้ใหญ่ในระยะสุดท้ายจะมีอัตราการรอดชีวิตภายใน 5 ปีเหลือเพียง 13%
มะเร็งลำไส้ใหญ่มีกี่ระยะ?
มะเร็งลำไส้ใหญ่เเบ่งออกเป็น 4 ระยะ ได้แก่
- ระยะที่ 1 จะพบเป็นก้อนหรือติ่งเนื้องอกบริเวณเยื่อบุลำไส้ใหญ่
- ระยะที่ 2 ก้อนเนื้องอกกลายเป็นเซลล์มะเร็งเเละเเพร่กระจายสู่ผนังลำไส้ใหญ่
- ระยะที่ 3 เซลล์มะเร็งลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลืองที่อยู่บริเวณใกล้เคียง
- ระยะที่ 4 เซลล์มะเร็งเเพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองเเละเข้าสู่กระเเสเลือด พร้อมทั้งลุกลามไปยังอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย
การวินิจฉัยมะเร็งสำไส้ใหญ่
การตรวจคัดกรองเเละวินิจฉัยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ แม้ไม่มีอาการใดๆ ปัจจุบันผู้ที่มีอายุ 45 ปีขึ้นไป ควรรับการส่องกล้องหรือปรึกษาจากแพทย์ เพื่อเช็กก่อนเป็นมะเร็งทุกราย มีดังนี้
- การตรวจร่างกายเเละการซักประวัติครอบครัว
- การใช้นิ้วคลำตรวจทางทวารหนัก
- การตรวจเลือดเเละตรวจหาสารบ่งชี้ของโรคมะเร็ง
- การตรวจอุจจาระทางห้องปฏิบัติการเพื่อหาเลือดที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า (fecal occult blood test)
- การตรวจลำไส้ด้วยการส่องกล้อง (colonoscopy) หรือหากพบเนื้องอกภายในบริเวณลำไส้ใหญ่ เเพทย์จะทำการส่องกล้องเพื่อตัดชิ้นเนื้อ (biopsy) เพื่อตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมเพื่อคัดกรองเซลล์มะเร็ง
- การตรวจเอกซ์เรย์คอมพิวเตอร์ (computer tomography colonoscopy)
มะเร็งลำไส้ใหญ่รักษาหายไหม?
มะเร็งลำไส้ใหญ่สามารถรักษาให้หายได้ หากตรวจพบในระยะเเรก ขณะเซลล์มะเร็งยังไม่ลุกลามไปยังอวัยวะสำคัญอื่น ๆ โดยการรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่มี 3 วิธีหลักคือ
- การรักษาโดยการการผ่าตัด เป็นการรักษาหลักของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ซึ่งแพทย์จะทำการผ่าตัดเพื่อกำจัดเนื้อเยื่อมะเร็งออกเพื่อยับยั้งการเเพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง
- การรักษาโดยการให้ยาเคมีบำบัด หรือคนทั่วไปเรียกว่า การให้คีโม คือการให้ยาเข้าไปหยุดหรือชะลอการเติบโตของเซลล์มะเร็งไม่ให้เเพร่กระจาย เเละอาจจะใช้วิธีนี้ร่วมกับการผ่าตัด หรือให้ยาเคมีบำบัดในกรณีที่มีข้อห้ามหรือมีความเสี่ยงในการผ่าตัดสูง
- รังสีรักษา หรือที่รู้จักกันในชื่อ การฉายแสง คือการรักษาโดยใช้รังสีเพื่อไปทำลายเซลล์มะเร็ง โดยฉายรังสีจากภายนอกร่างกายไปยังบริเวณที่มีเซลล์มะเร็ง
โดยเเพทย์อาจพิจารณาการรักษาทั้ง 3 วิธีร่วมกัน เพื่อทำการกำจัดเนื้อร้ายที่มีเซลล์มะเร็งเพื่อป้องกันไม่ให้มะเร็งลุกลาม เเละควบคุมหรือลดการเเพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง ทั้งนี้การตรวจพบมะเร็งลำไส้ใหญ่ตั้งเเต่ระยะเเรก ๆ จะทำให้ความสำเร็จในการรักษามีมากขึ้น ดังนั้นการตรวจคัดกรองและการรักษาตั้งแต่ระยะแรก ๆ จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อผลลัพธ์จากการรักษา
การป้องกันมะเร็งสำไส้ใหญ่
การป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ที่ดีที่สุดคือเข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อทำการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นประจำทุกปี พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ดังนี้
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารในกลุ่มเนื้อเเดงเเละเนื้อสัตว์แปรรูป
- หลีกเลี่ยงอาหารประเภทปิ้งย่าง อาหารที่มีไขมันสูง อาหารที่มีกากใยอาหารต่ำ
- รับประทานผัก ผลไม้ และอาหารที่มีเส้นใย
- งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่
- ผู้ที่ภาวะอ้วนเเละมีน้ำหนักเกิน ควรออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ
- ผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ควรปรึกษาเเพทย์เเละเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่แม้อายุยังน้อย
สรุป
มะเร็งลำไส้ใหญ่ในระยะเเรกผู้ป่วยมักไม่มีอาการ เเต่จะมีอาการมากขึ้นตามการเเพร่กระจายของเซลล์มะเร็งที่ลุกลาม การตรวจสุขภาพประจำปีเเละการคัดกรองโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เเละหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงเป็นวิธีการป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ที่ดีที่สุด และหากตรวจพบมะเร็งลำไส้ใหญ่ตั้งแต่ในระยะเเรก ๆ จะทำให้การรักษาประสบความสำเร็จเเละเพิ่มโอกาสการรอดชีวิตขึ้นอย่างมาก