Skip to content
  • TH
    • EN
    • CN
    • AR
  • TH
    • EN
    • CN
    • AR
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • Health Guru
    • บทความสุขภาพ
    • Praram 9 Star Doctors
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา
Menu
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • Health Guru
    • บทความสุขภาพ
    • Praram 9 Star Doctors
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา

โรคต้อกระจก…อาการ การรักษา และการป้องกัน

พญ.ชญาตา เหลี่ยมศิริเจริญ

บทความ

โรงพยาบาลพระรามเก้า

  • วันที่โพสต์ 15 มีนาคม 2024
โรคต้อกระจก

เรามักเคยได้ยินว่า ผู้สูงอายุมักมีอาการตาฝ้าฟางหรือตาพล่ามัว ซึ่งอาการดังกล่าวไม่ใช่อาการปกติทั่วไป เเต่เป็นความเสื่อมของเลนส์กระจกตาตามอายุที่มากขึ้นเเละเป็นหนึ่งในอาการสำคัญของ “ต้อกระจก” 

ต้อกระจกพบได้ทั่วไปในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป โดยมักเป็นต้อกระจกระยะเริ่มต้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการมองเห็น แต่เมื่อเวลาผ่านไป เลนส์จึงขุ่นมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างช้า ๆ จนเริ่มบดบังการมองเห็นในที่สุด

สารบัญ

  • ต้อกระจกคืออะไร?
  • ต้อกระจกมีอาการอย่างไร?
  • ต้อกระจกอันตรายไหม?
  • สาเหตุของต้อกระจก
  • ต้อกระจกรักษาอย่างไร?
  • ต้อกระจกผ่าตัดเมื่อไหร่ดี?
  • การป้องกันต้อกระจก
  • สรุป

ต้อกระจกคืออะไร?

ต้อกระจก (cataract) เป็นภาวะที่เกิดจากการเสื่อมตามวัยหรือตามอายุที่มากขึ้น เกิดจากความเสื่อมของเลนส์ตาทำให้เลนส์ตาขุ่นมัวจนทำให้จอประสาทตารับเเสงได้ลดลง 

เนื่องจากการขุ่นของเลนส์ตาจะเป็นไปอย่างช้า ๆ นานเป็นปี ทำให้ตาค่อย ๆ มัวลงอย่างช้า ๆ โดยไม่มีอาการตาแดงหรือเจ็บปวด การมองเห็นจะลดลงเมื่ออยู่ในที่มีแสงไม่เพียงพอ เหมือนมองผ่านหมอกหรือกระจกที่ขุ่น ต้อกระจกบางชนิดจะทำให้ตามัวลงเมื่ออยู่กลางแจ้งหรือเมื่อขับรถกลางคืนแล้วเห็นไฟหน้ารถที่ขับสวนมาแตกกระจาย ผู้ป่วยบางรายเห็นภาพซ้อนเมื่อดูด้วยตาข้างเดียว หากทิ้งไว้นานจนต้อสุก จะเห็นตาเป็นฝ้าขาวตรงกลางได้ ซึ่งในปัจจุบันพบได้น้อยลงเนื่องจากผู้ป่วยเข้าถึงการตรวจตาได้ง่ายขึ้น

> กลับสู่สารบัญ

ต้อกระจกมีอาการอย่างไร?

อาการของต้อกระจกที่พบบ่อย ได้แก่

  • เห็นไม่ชัด หรือมัวเหมือนมองภาพผ่านกระจกฝ้าหรือผ่านหมอก
  • มีอาการตาพล่ามัวหรือมองภาพได้ไม่ชัดในที่มีเเสงแดดมากหรือที่กลางเเจ้ง
  • เห็นภาพซ้อนเมื่อมองด้วยตาข้างเดียว
  • เมื่อขับรถกลางคืน จะเห็นไฟหน้ารถที่ขับสวนมาแตกกระจายผิดปกติ
  • สายตาสั้นมากขึ้นผิดปกติ เเละเปลี่ยนเเว่นสายตาบ่อย ๆ
  • ตาไวต่อเเสงเเละเเสงจ้า หรือตาสู้เเสงสว่างมาก ๆ ไม่ได้
  • มองเห็นสีผิดเพี้ยนไป
  • มีฝ้าขาวบริเวณตรงกลางตา

> กลับสู่สารบัญ

ต้อกระจกอันตรายไหม?

ต้อกระจกในระยะเเรกอาจไม่มีอันตราย เเต่หากปล่อยทิ้งไว้เป็นระยะเวลานาน ๆ จนต้อกระจกเเข็งเเละมีอาการรุนเเรงอาจเกิดภาวะเเทรกซ้อนได้ เช่น โรคต้อหิน หรือเกิดการอักเสบภายในตาทำให้เกิดอาการปวดตา ตาเเดง 

การตรวจสุขภาพตาเป็นประจำจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อช่วยในการคัดกรองต้อกระจกเเละโรคต่าง ๆ ของดวงตา ทำให้ได้รับการรักษาเเละการดูเเลอย่างถูกต้อง

> กลับสู่สารบัญ

สาเหตุของต้อกระจก

ตากระจกมีสาเหตุหลักจากความเสื่อมตามวัย หรืออายุที่มากขึ้น โดยมักพบในผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป เเต่ก็สามารถพบในคนอายุน้อยได้เช่นกัน โดยมีสาเหตุดังนี้

  1. ผลจากการใช้ยากลุ่มสเตียรอยด์เป็นเวลานาน ๆ ทั้งแบบรับประทานและแบบหยอดตา
  2. มีโรคประจำตัวที่เพิ่มความเสี่ยงการเป็นต้อกระจก ได้แก่ โรคเบาหวาน เเละโรคความดันสูง
  3. ภาวะน้ำหนักเกิน หรือโรคอ้วน
  4. เคยได้รับอุบัติเหตุ หรือบาดเจ็บบริเวณดวงตา
  5. มีการอักเสบ หรือติดเชื้อบริเวณดวงตา
  6. พันธุกรรม หรือมีประวัติคนในครอบครัวเป็นต้อกระจก
  7. การทำงานกลางเเจ้ง หรือได้รับแสงแดดเเรง ๆ เป็นเวลานาน ๆ
  8. ภาวะเเทรกซ้อนจากโรคทางตา
  9. การสูบบุหรี่ เเละการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นประจำ
  10. เคยโดนฉายรังสีบริเวณศีรษะหรือดวงตา

> กลับสู่สารบัญ

ต้อกระจกรักษาอย่างไร?

ต้อกระจกเป็นโรคที่ยังไม่มียารักษา เเละไม่มียาช่วยลดอาการเเละความรุนเเรงของโรค การรักษามีเพียงวิธีเดียวคือการผ่าตัด ซึ่งเป็นการรักษาที่มีความปลอดภัยสูงเเละมีโอกาสมองเห็นได้ดีขึ้นภายหลังการผ่าตัดมากถึง 95% ก่อนการผ่าตัดต้อกระจกทุกครั้งจักษุเเพทย์จะตรวจประเมินสายตาเเละสภาพดวงตาอย่างละเอียดเพื่อพิจารณความเหมาะสมในการรักษาเเละเลือกชนิดเลนส์เเก้วตาเทียมให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย

วิธีการรักษาต้อกระจก

เเบ่งการรักษาด้วยการผ่าตัดเป็น 3 วิธี ได้แก่

  1. การผ่าตัดแผลเล็กร่วมกับการสลายต้อกระจกด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง  (phacoemulsification)  ในปัจจุบันถือว่าเป็นวิธีมาตฐานในการรักษาต้อกระจก แผลจากการผ่าตัดมีขนาดเล็กประมาณ 2.2-3 มิลลิเมตร โดยการผ่าตัดด้วยวิธีนี้จักษุเเพทย์ จะใช้เครื่องอัลตราซาวนด์ความถี่สูงสลายต้อกระจกจนหมด เเล้วจึงใส่เลนส์เเก้วตาเทียมเข้าไปเเทนที่ ข้อดีของการรักษาวิธีนี้คือแผลมีขนาดเล็กมากเเละไม่ต้องเย็บปิดเเผล ใช้เวลาในการผ่าตัดน้อย กลับมามองเห็นได้เร็วกว่าวิธีอื่น ๆ ไม่ต้องฉีดยาชาเเละวางยาสลบ เพราะใช้เพียงการหยอดยาชาเฉพาะที่
  2. การผ่าตัดเพื่อนำเลนส์แก้วตาออกเเบบเหลือถุงหุ้มเลนส์ไว้หรือการผ่าตัดแบบแผลเปิดกว้าง (extracapsular cataract extraction; ECCE) เป็นการผ่าตัดโดยการเปิดแผลผ่าตัดบริเวณขอบตาดำขนาดยาวประมาณ 10 มิลลิเมตร เพื่อนำเลนส์ตาเก่าที่มีภาวะต้อกระจกออก จากนั้นใส่เลนส์เเก้วตาเทียมเข้าไปเเทน เเล้วจึงทำการเย็บปิดแผล วิธีการนี้จะใช้ในกรณีที่มีภาวะต้อกระจกระดับรุนเเรงจนต้อกระจกเเข็งเเละขุ่นมาก ๆ ไม่สามารถสลายได้ด้วยเครื่องสลายต้อ
  3. การผ่าตัดต้อกระจกด้วยเลเซอร์ (femtosecond laser surgery) เป็นการผ่าตัดโดยการนำเลเซอร์มาช่วยในการผ่าตัดต้อกระจกในบางขั้นตอนที่สำคัญเท่านั้น โดยใช้คอมพิวเตอร์ควบคุมการทำงานของเลเซอร์ควบคู่กับการใช้เครื่องสแกนจอตา (optical coherence tomography; OCT) ทำให้มีความเเม่นยำสูงเเละมีความปลอดภัยสูงขึ้นกว่าวิธีการผ่าตัดปกติ โดยวิธีการนี้จะใช้เลเซอร์ผ่าตัดเปิดแผลเเละถุงหุ้มเลนส์ตา จากนั้นจะตัดเลนส์ตาเก่าที่มีต้อกระจกออก เเล้วใส่เลนส์แก้วตาเทียมเข้าไปแทน

ชนิดของเลนส์แก้วตาเทียม

การรักษาต้อกระจกด้วยการผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์เเก้วตาเทียม สามารถเลือกเลนส์เเก้วตาเทียม (intraocular lens; IOL) ให้มีความเหมาะสมกับเเต่ละบุคคล โดยเลนส์แก้วตาเทียมมี 3 ชนิด ได้แก่

  1. เลนส์เเก้วตาเทียมชนิดโฟกัสระยะเดียว (standard IOL) เป็นเลนส์แก้วตาเทียมมาตรฐานที่ช่วยในการมองภาพระยะไกลได้ดี มีกำลังการรวมแสงเดียว ช่วยโฟกัสภาพในระยะไกล ส่วนการมองใกล้อาจต้องอาศัยแว่นอ่านหนังสือช่วย
  2. เลนส์แก้วตาเทียมชนิดหลายระยะ (multifocal IOL) เป็นเลนส์เเก้วตาเทียมที่มีการมองเห็นในหลายระดับทั้งมองในระยะใกล้เเละไกล เป็นเลนส์แก้วตาที่มีหลายวง แต่ละวงมีกำลังการรวมแสงที่แตกต่างกันเพื่อโฟกัสทั้งระยะไกลและใกล้ แต่ผู้รับการรักษาต้องอาศัยระยะเวลาในการปรับตัวพอสมควร เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องการมองไกลและใกล้โดยไม่สวมแว่นอ่านหนังสือ
  3. เลนส์แก้วตาเทียมชนิดสายตาเอียง (toric IOL) เป็นเลนส์แก้วตาเทียมที่มีความสามารถในการแก้ไขปัญหาเรื่องสายตาเอียง สำหรับผู้ที่มีปัญหาสายตาเอียงร่วมกับภาวะต้อกระจกก่อนการผ่าตัด

> กลับสู่สารบัญ

ต้อกระจกผ่าตัดเมื่อไหร่ดี?

ต้อกระจกในระยะเเรกยังไม่จำเป็นต้องทำการผ่าตัด หากไม่รบกวนการมองเห็นเเละการใช้ชีวิตประจำวัน โดยในระยะเเรก หากมีปัญหาการมองเห็นภาพไม่ชัดเจน อาจเเก้ปัญหาด้วยการใส่เเว่นสายตาช่วยเรื่องการมองเห็นเเละตัดเเสงรบกวน เเต่ควรติดตามอาการกับจักษุเเพทย์อย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากหากปล่อยทิ้งไว้เป็นระยะเวลานานจนต้อกระจกเเข็งเเละมีอาการรุนเเรงจะทำให้การผ่าตัดยากขึ้น หรือเกิดเป็นต้อหินได้ ซึ่งหากมีต้อหินรุนแรงและปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้สูญเสียการมองเห็น

> กลับสู่สารบัญ

การป้องกันต้อกระจก

ต้อกระจกสามารถป้องกันได้โดยการปฏิบัติตัวดังนี้

  • ผู้ที่มีอายุตั้งเเต่ 50 ปีขึ้นไป ควรได้รับการตรวจสุขภาพร่างกายเเละสุขภาพตาเป็นประจำทุกปี
  • ควรสวมเเว่นกันแดดเวลาทำกิจกรรมกลางเเจ้งหรือที่มีแดดเเรง
  • รักษาเเละรับประทานยารักษาโรคประจำตัวอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะโรคเบาหวานเเละโรคความดันสูง
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานยาเเละหยอดยากลุ่มสเตียรอยด์จนเกินความจำเป็นหรือยังไม่ได้รับคำเเนะนำจากเเพทย์ให้ใช้ยาในกลุ่มดังกล่าว
  • งดสูบบุหรี่ เเละงดการดื่มเครื่องแอลกอฮอล์
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเเละพักผ่อนอย่างเพียงพอ
  • รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ในปริมาณที่เหมาะสม เพิ่มการรับประทานผักเเละผลไม้ เนื่องจากมีวิตามินเเละเเร่ธาตุเเละช่วยในการบำรุงสายตา

> กลับสู่สารบัญ

สรุป

“ต้อกระจก” เป็นภาวะที่เกิดจากความเสื่อมตามอายุ โดยพบในผู้สูงอายุตั้ง 60 ปีขึ้นไป เเต่ก็สามารถพบในผู้มีอายุน้อยได้เช่นกัน ในระยะเเรกจะมีอาการไม่รุนเเรง มีตาพร่ามัว มองเห็นไม่ชัดเจน เเต่หากปล่อยทิ้งไว้นานจนรุนเเรงจะทำให้เกิดโรคต้อหินที่อาจทำให้สูญเสียการมองเห็นอย่างถาวรได้ การรักษามาตรฐานในปัจจุบันคือการผ่าตัด 

การตรวจสุขภาพตาเป็นประจำทุกปีจึงช่วยคัดกรองต้อกระจกเเละโรคทางตาอื่น ๆ และหากพบความผิดปกติตั้งแต่ระยะแรกของโรคก็จะสามารถป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงและทำให้ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม

คลิกดูแพ็กเกจที่เกี่ยวข้องที่นี่

โปรแกรมผ่าตัดต้อกระจก

รายละเอียด

โปรแกรมผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตา

รายละเอียด

โปรแกรมผ่าตัดต้อหิน

รายละเอียด

โปรแกรมผ่าตัดแก้ไขสายตา

รายละเอียด

โปรแกรมผ่าตัดต้อเนื้อ

รายละเอียด

ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกับ Praram 9 V ปรึกษาแพทย์ได้ทุกที่ผ่านทางวิดีโอคอล (Telemedicine)

สนใจนัดหมาย

> กลับสู่สารบัญ

บทความล่าสุด

บอลลูนหัวใจ

บอลลูนหัวใจ: แก้ปัญหาหลอดเลือดหัวใจตีบ โดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่

อ่านเพิ่มเติม
ปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ

ปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ ปัญหายอดฮิตของคนใช้งานข้อมือหนัก

อ่านเพิ่มเติม
กล้ามเนื้ออ่อนแรง

กล้ามเนื้ออ่อนแรง ALS MH และ SMA อาการต่างกันอย่างไร รักษาหายไหม?

อ่านเพิ่มเติม
ดูบทความทั้งหมด

ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกับ Praram 9 V

ปรึกษาแพทย์ได้ทุกที่ผ่านทางวิดีโอคอล (Telemedicine)

  • Praram 9 Hospital
  • @praram9hospital

แพทย์ผู้เขียนบทความ

พญ.ชญาตา เหลี่ยมศิริเจริญ

พญ.ชญาตา เหลี่ยมศิริเจริญ

ศูนย์จักษุ

นัดหมาย

ประวัติเพิ่มเติม

 

ศูนย์แพทย์

ศูนย์จักษุ_1-1

ศูนย์จักษุ

เยี่ยมชม

ดูทั้งหมด

บทความอื่นๆ

บอลลูนหัวใจ

บอลลูนหัวใจ: แก้ปัญหาหลอดเลือดหัวใจตีบ โดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่

การทำบอลลูนหัวใจหรือ PCI เป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพในการรักษาภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบ ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้สะดวก ลดอาการเจ็บหน้าอก และลดความเสี่ยงของหัวใจวาย เป็นการเปิดหลอดเลือดโดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ ทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยยังคงต้องดูแลสุขภาพ หมั่นออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และลดปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ เพื่อรักษาสุขภาพของหัวใจในระยะยาว

อ่านเพิ่มเติม
ปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ

ปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ ปัญหายอดฮิตของคนใช้งานข้อมือหนัก

ปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ คือโรคที่เกิดจากปลอกหุ้มเส้นเอ็นที่ใช้กางนิ้วหัวแม่มือที่อยู่บริเวณข้อมือเกิดการอักเสบ ทำให้มีอาการปวดข้อมือเมื่อใช้งาน มักเกิดจากการใช้งานข้อมือหนัก

อ่านเพิ่มเติม
กล้ามเนื้ออ่อนแรง

กล้ามเนื้ออ่อนแรง ALS MH และ SMA อาการต่างกันอย่างไร รักษาหายไหม?

โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงสามารถแบ่งได้หลายชนิด ซึ่งจะมีสาเหตุและอาการหลายแบบ วิธีรักษาเองก็หลากหลายตามไปด้วย รักษาแล้วหายขาดไหม? ติดตามได้ในบทความนี้!

อ่านเพิ่มเติม
อ่านบทความทั้งหมด
Facebook-f Youtube Instagram Line
  • 1270
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • นัดหมาย
  • บทความสุขภาพ
  • แพ็กเกจ
  • ข่าว และกิจกรรม รพ.
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • นักลงทุนสัมพันธ์
  • การพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน
  • ร่วมงานกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • ข้อกำหนดและเงื่อนไข

Copyright © 2025 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital

  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • Health Guru
    • บทความสุขภาพ
    • Praram 9 Star Doctors
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา