Skip to content
  • TH
    • EN
    • CN
    • AR
  • TH
    • EN
    • CN
    • AR
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • Health Guru
    • บทความสุขภาพ
    • Doctor’s Health Insights
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา
Menu
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • Health Guru
    • บทความสุขภาพ
    • Doctor’s Health Insights
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา

มะเร็ง…รู้เร็ว รักษาได้ ผลลัพธ์ดี

บทความ

โรงพยาบาลพระรามเก้า

  • วันที่โพสต์ 10 พฤษภาคม 2024
โรคมะเร็ง

โรคมะเร็ง (cancer) เป็นโรคที่น่ากลัวและร้ายแรง และเป็นสาเหตุการตายอันดับต้น ๆ ของโลก โดยองค์การอนามัยโลกรายงานว่าในปี 2022 มีผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็งเกือบ 10 ล้านคนทั่วโลก ในประเทศไทย โรคมะเร็งถือว่าเป็นสาเหตุการตายอันดับต้น ๆ จากรายงานขององค์การอนามัยโลกในปี 2022 มีคนไทยเสียชีวิตจากโรคมะเร็งเกือบ 120,000 คนต่อปี 

เนื่องจากโรคมะเร็งมักไม่แสดงอาการในระยะแรก ๆ จึงทำให้ผู้ป่วยจำนวนหนึ่งไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีจนเกิดการลุกลามของมะเร็ง และทำให้รักษายาก และเสี่ยงเสียชีวิตมากขึ้น

สารบัญ

  • โรคมะเร็งคืออะไร?
  • โรคมะเร็งที่พบได้บ่อย
  • อาการ สัญญาณเตือนของโรคมะเร็ง 
  • ปัจจัยเสี่ยงโรคมะเร็ง
  • การวินิจฉัยโรคมะเร็ง
  • การตรวจคัดกรองมะเร็ง
  • การรักษาโรคมะเร็ง
  • การป้องกันโรคมะเร็ง
  • สรุป

โรคมะเร็งคืออะไร?

มะเร็ง (cancer) เกิดจากความผิดปกติของเซลล์ในร่างกาย เซลล์เหล่านี้มีการเจริญเติบโตและแบ่งตัวอย่างรวดเร็วกว่าปกติ ทำให้ร่างกายไม่สามารถกำจัดได้ทัน ส่งผลให้เซลล์มะเร็งรวมตัวกันเป็นก้อนเนื้องอกขนาดใหญ่ ไปกดเบียดเนื้อเยื่ออวัยวะข้างเคียง และหากไม่ได้รับการรักษา เซลล์มะเร็งสามารถแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกายผ่านระบบเลือดและน้ำเหลือง ทำให้เกิดความเสียหายต่ออวัยวะ ส่งผลต่อการทำงานของร่างกาย และอาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้

เนื้องอกอาจไม่ใช่มะเร็งเสมอไป เนื้องอกบางชนิดเป็นเพียงเนื้องอกธรรมดา ไม่ได้ลุกลามหรือทำลายเนื้อเยื่อข้างเคียง การวินิจฉัยว่าเนื้องอกนั้นเป็นมะเร็งหรือไม่ ต้องอาศัยการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

> กลับสู่สารบัญ

โรคมะเร็งที่พบได้บ่อย

มะเร็งเป็นโรคที่พบได้บ่อยในทุกเพศทุกวัย แต่พบมากในผู้ใหญ่ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป จากสถิติจากองค์การอนามัยโลก รายงานจำนวนผู้ป่วยมะเร็งในประเทศไทยปี 2022 แบ่งตามเพศดังนี้

โรคมะเร็งที่พบบ่อยในผู้หญิงไทย 5 อันดับแรก

  1. มะเร็งเต้านม
  2. มะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง
  3. มะเร็งตับและท่อน้ำดี
  4. มะเร็งปากมดลูก
  5. มะเร็งปอด

โรคมะเร็งที่พบบ่อยในผู้ชายไทย 5 อันดับแรก

  1. มะเร็งตับและท่อน้ำดี
  2. มะเร็งปอด
  3. มะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง
  4. มะเร็งต่อมลูกหมาก
  5. มะเร็งต่อมน้ำเหลือง

> กลับสู่สารบัญ

อาการ สัญญาณเตือนของโรคมะเร็ง

มะเร็งระยะแรกมักไม่มีสัญญาณเตือนที่ชัดเจน หลายครั้งที่พบโดยบังเอิญจากการตรวจสุขภาพทั่วไปอย่างไรก็ตาม มะเร็งบางชนิดอาจแสดงอาการบางอย่างในระยะเริ่มต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดและตำแหน่งของก้อนมะเร็ง โดยอาจมีอาการต่าง ๆ ดังนี้

  • มีไข้
  • มีเลือดออกผิดปกติที่อวัยวะต่าง เช่น ปัสสาวะเป็นเลือด อาเจียนเป็นเลือด อุจจาระเป็นเลือด มูก หรือมูกเลือด มีเลือดออกทางช่องคลอดผิดปกติ ประจำเดือนผิดปกติ มีเลือดออกทางช่องคลอดในวัยหมดประจำเดือน หรือมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์  มีรอยจ้ำ เป็นห้อเลือดง่าย หรือมีจุดแดงตามผิวหนัง 
  • มีอาการปวดของอวัยวะต่าง ๆ เช่น  ปวดหลัง หรือปวดศีรษะรุนแรงเรื้อรัง
  • ท้องอืด ปวดเสียด ท้องเฟ้อแน่น อึดอัดท้อง เรื้อรัง หรือ ท้องผูกสลับท้องเสีย
  • น้ำหนักลดลงมาก โดยไม่ทราบสาเหตุ
  • ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะขัด ปัสสาวะเล็ด โดยไม่ทราบสาเหตุ
  • แขนและ/หรือขาอ่อนแรง  มีอาการชัก โดยที่ไม่มีประวัติของโรคอื่น ๆ ที่ทำให้มีอาการชัก
  • กลืนลำบาก เสียงแหบ ไอเรื้อรัง
  • แผลหายยาก รักษาไม่หาย
  • มีการเปลี่ยนแปลงของหูดและไฝตามร่างกาย มีก้อนหรือตุ่มต่าง ๆ ตามร่างกาย

> กลับสู่สารบัญ

ปัจจัยเสี่ยงโรคมะเร็ง

โรคมะเร็ง เกิดจากปัจจัยหลายประการ ทั้งจากสิ่งแวดล้อมภายนอกร่างกายและภายในร่างกาย 

ปัจจัยภายนอกร่างกาย เป็นปัจจัยที่เราสามารถหลีกเลี่ยงหรือลดความเสี่ยงได้ ดังนี้

  1. สารเคมีต่าง ๆ 
  • สารเคมีในอาหาร: เช่น สารอะฟลาทอกซินจากเชื้อราในอาหารแห้ง สีผสมอาหาร สารกันบูด
  • ควันบุหรี่และเขม่ารถยนต์
  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • สารเคมีจากเนื้อสัตว์แปรรูป: เช่น ไส้กรอก แฮม เบคอน
  • สารเคมีในอุตสาหกรรม:
  1. รังสีต่าง ๆ 
  • รังสีจากแสงแดด
  • รังสีเอกซเรย์
  • รังสีจากวัสดุอุปกรณ์กัมมันตภาพรังสี
  1. การติดเชื้อเรื้อรัง
  • ไวรัสตับอักเสบบีและซี
  • เชื้อแบคทีเรีย Helicobacter pylori ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคแผลในกระเพาะอาหาร
  • ไวรัส Epstein-Barr
  • ไวรัส Human papillomavirus (HPV) ที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูก
  • พยาธิใบไม้ตับ ทำให้เกิดมะเร็งตับและท่อน้ำดี

ปัจจัยภายในร่างกาย เป็นปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ แต่สามารถดูแลสุขภาพเพื่อลดความเสี่ยงได้ ดังนี้

  1. อายุ
  2. พันธุกรรม
  3. ความไม่สมดุลของฮอร์โมน
  4. ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง
  5. การระคายเคืองเรื้อรัง
  6. ภาวะทุพโภชนาการ

อย่างไรก็ตามหากพบอาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่ถูกต้อง

> กลับสู่สารบัญ

การวินิจฉัยโรคมะเร็ง

การวินิจฉัยโรคมะเร็งมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อจะช่วยยืนยันว่าผู้ป่วยเป็นมะเร็งชนิดใด ระยะใด และเพื่อการวางแผนการรักษาที่เหมาะสม แพทย์จะใช้วิธีการวินิจฉัยหลายวิธีประกอบกัน ดังนี้

  • การตรวจร่างกายโดยแพทย์: แพทย์จะซักประวัติ ตรวจร่างกายโดยละเอียด คลำหาต่อมน้ำเหลืองที่โต ก้อนเนื้อผิดปกติ หรือรอยโรคอื่น ๆ ในบางชนิดของมะเร็งผู้ป่วยสามารถตรวจด้วยตัวเองเบื้องต้นได้ เช่น การตรวจเต้านม
  • การตรวจทางห้องปฏิบัติการ: ตรวจเลือด ปัสสาวะ อุจจาระ หรือเสมหะ เพื่อหาสารบ่งชี้มะเร็ง หรือเซลล์มะเร็ง ตรวจหาการกลายพันธุ์ของยีนที่เกี่ยวข้องกับมะเร็ง
  • การตรวจทางพยาธิวิทยา: โดยจะเป็นการเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อหรือเซลล์จากบริเวณที่สงสัยว่าเป็นมะเร็ง แล้วส่งตรวจเพื่อวิเคราะห์ลักษณะของเซลล์ ตรวจสอบว่าเซลล์เหล่านั้นเป็นเซลล์มะเร็งหรือไม่ และเพื่อระบุชนิดของมะเร็ง
  • การตรวจทางรังสี: เช่น การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT) การตรวจเอกซเรย์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเฉพาะอวัยวะ (MRI) การตรวจทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์ โดยเทคนิคเหล่านี้ช่วยให้แพทย์มองเห็นก้อนเนื้อ มะเร็ง การแพร่กระจายของมะเร็ง และช่วยระบุระยะของโรค
  • การตรวจโดยใช้เครื่องมือพิเศษ: เช่น การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ ทวารหนัก กระเพาะอาหาร หลอดอาหาร การตรวจอัลตราซาวด์อวัยวะต่าง ๆ

โดยแพทย์จะเลือกวิธีการตรวจที่เหมาะสม ซึ่งจะขึ้นอยู่กับชนิดของมะเร็ง ระยะของโรค อาการ และประวัติของผู้ป่วย

> กลับสู่สารบัญ

การตรวจคัดกรองมะเร็ง

การตรวจคัดกรองมะเร็งเป็นวิธีการที่สำคัญ ช่วยให้พบมะเร็งได้ตั้งแต่ระยะแรก ๆ ส่งผลต่อแนวทางการรักษาและโอกาสหายจากโรค เพราะการตรวจพบตั้งแต่ระยะแรก ๆ ทำให้มีโอกาสรักษาหายสูง การรักษามีความซับซ้อนน้อยลง รวมทั้งผลข้างเคียงจากการรักษาน้อยลง

ปัจจุบัน โปรแกรมการตรวจคัดกรองมะเร็งมักรวมอยู่ในโปรแกรมตรวจสุขภาพทั่วไปหรืออาจมีโปรแกรมเฉพาะโรคเพื่อการตรวจที่ละเอียดและแม่นยำยิ่งขึ้น ซึ่งการตรวจคัดกรองความเสี่ยงของโรคมะเร็งทำได้โดย

  • การตรวจหาสารบ่งชี้มะเร็ง

    • AFP: ตรวจคัดกรองมะเร็งตับ
    • CEA: ตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้
    • PSA: ตรวจคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมาก
    • CA153: ตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม
  • การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก

    • ThinPrep Pap Test: ตรวจหาเซลล์มะเร็งปากมดลูก

> กลับสู่สารบัญ

การรักษาโรคมะเร็ง

ในการรักษาโรคมะเร็ง แพทย์จะวางแผนการรักษาโดยพิจารณาตามปัจจัยต่าง ๆ  เช่น ตำแหน่ง ระยะของโรคและความรุนแรงของโรค ในผู้ป่วยบางรายอาจต้องได้รับการรักษาหลายวิธีประกอบกันเพื่อผลลัพธ์การรักษาที่ดีที่สุด การรักษาได้ตั้งแต่ระยะแรก ๆ จะให้ผลการรักษาที่ดีกว่าการตรวจพบและรักษาที่ระยะรุนแรงแล้ว วิธีการรักษาโรคมะเร็งโดยทั่วไป มีดังนี้

  • การผ่าตัด: เป็นการผ่าตัดเพื่อนำก้อนเนื้อมะเร็งออก เหมาะสำหรับมะเร็งระยะแรก ๆ หรือมะเร็งที่ยังไม่ลามไปยังอวัยวะอื่น
  • การให้ยาเคมีบำบัด: เป็นการใช้ยาเพื่อฆ่าเซลล์มะเร็งทั่วร่างกาย อาจใช้ยาเพียงชนิดเดียว หรือหลายชนิดร่วมกัน มักใช้ควบคู่กับการรักษาด้วยวิธีอื่น เช่น การผ่าตัด หรือการฉายรังสี
  • การฉายรังสี: เป็นการใช้รังสีพลังงานสูงเพื่อฆ่าเซลล์มะเร็ง อาจฉายรังสีจากภายนอกร่างกาย หรือสอดเครื่องมือฉายรังสีเข้าไปในร่างกาย มักใช้ควบคู่กับการรักษาด้วยวิธีอื่น เช่น การผ่าตัด หรือยาเคมีบำบัด
  • การรักษาด้วยฮอร์โมน: เป็นการใช้ยาฮอร์โมนเพื่อหยุดการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง เหมาะสำหรับมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก
  • การรักษาแบบผสมผสาน: เป็นการรักษาร่วมกันหลายวิธี ขึ้นอยู่กับระยะและความรุนแรงของโรค

> กลับสู่สารบัญ

การป้องกันโรคมะเร็ง

ปัจจุบัน ยังไม่มีวิธีการป้องกันโรคมะเร็งที่จำเพาะเจาะจง แต่บุคคลทั่วไปสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งได้ โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและดูแลสุขภาพ ดังนี้

  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
  • รับประทานอาหารครบ 5 หมู่
  • หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง เช่น บุหรี่ แอลกอฮอล์ สารเคมี แสงแดด
  • จัดการความเครียด
  • ตรวจสุขภาพและคัดกรองมะเร็งเป็นประจำ

> กลับสู่สารบัญ

สรุป

โรคมะเร็งคือการเกิดเซลล์ผิดปกติที่เติบโตอย่างไม่ปกติและแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นของร่างกาย สาเหตุส่วนใหญ่มาจากพันธุกรรมหรือปัจจัยเสี่ยง เช่น สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ การได้รับหรือสัมผัสสารเคมี การควบคุมปัจจัยเสี่ยงและการตรวจคัดกรองเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันโรคมะเร็ง

คลิกดูแพ็กเกจที่เกี่ยวข้องที่นี่

แพ็กเกจตรวจคัดกรองมะเร็งหญิง

รายละเอียด

แพ็กเกจตรวจคัดกรองมะเร็งชาย

รายละเอียด

โปรแกรมตรวจหาเชื้อ Helicobacter Pylori ในกระเพาะอาหารผ่านทางลมหายใจ

รายละเอียด

โปรแกรมผ่าตัดมะเร็งเต้านม

รายละเอียด

แพ็กเกจตรวจหาเชื้อเอชพีวี (HPV DNA Test)

รายละเอียด

แพ็กเกจตรวจคัดกรองมะเร็งปอด (Low-Dose CT Lung Screening)

รายละเอียด

แพ็กเกจวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก 9 สายพันธุ์ และ 4 สายพันธุ์

รายละเอียด

แพ็กเกจตรวจคัดกรองความผิดปกติของเต้านมด้วยเครื่องอัลตร้าซาวด์

รายละเอียด

แพ็กเกจตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม (3D Digital Mammogram with Breast Ultrasound)

รายละเอียด

แพ็กเกจตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ด้วยวิธี Liquid Prep+HPV DNA PCR

รายละเอียด

แพ็กเกจตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมพร้อมตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก Liquid prep

รายละเอียด

ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกับ Praram 9 V ปรึกษาแพทย์ได้ทุกที่ผ่านทางวิดีโอคอล (Telemedicine)

สนใจนัดหมาย

> กลับสู่สารบัญ

บทความล่าสุด

ข้อเข่าเทียมมีกี่แบบ

ข้อเข่าเทียมมีกี่แบบ ต่างกันอย่างไร เลือกผ่าตัดแบบไหนให้เหมาะกับปัญหาข้อเข่าเสื่อม ของเรา?

อ่านเพิ่มเติม
เยื่อหุ้มสมองอักเสบ

เยื่อหุ้มสมองอักเสบเกิดจากอะไร รู้จักสังเกตอาการก่อนเป็นอันตรายถึงชีวิต

อ่านเพิ่มเติม
เลือดออกในสมอง

เข้าใจภาวะเลือดออกในสมอง วิกฤติสุขภาพที่อาจร้ายแรงถึงชีวิต

อ่านเพิ่มเติม
ดูบทความทั้งหมด

ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกับ Praram 9 V

ปรึกษาแพทย์ได้ทุกที่ผ่านทางวิดีโอคอล (Telemedicine)

  • Praram 9 Hospital
  • @praram9hospital

แพทย์ผู้เขียนบทความ

 

ศูนย์แพทย์

บทความอื่นๆ

ข้อเข่าเทียมมีกี่แบบ

ข้อเข่าเทียมมีกี่แบบ ต่างกันอย่างไร เลือกผ่าตัดแบบไหนให้เหมาะกับปัญหาข้อเข่าเสื่อม ของเรา?

ข้อเข่าเทียมมีกี่แบบ? สามารถแบ่งการผ่าตัดข้อเข่าเทียมออกเป็น 2 แบบหลัก ๆ คือผ่าตัดใส่ผิวข้อเข่าเทียมบางส่วน และการผ่าตัดใส่ข้อเข่าเทียมทั้งหมด

อ่านเพิ่มเติม
เยื่อหุ้มสมองอักเสบ

เยื่อหุ้มสมองอักเสบเกิดจากอะไร รู้จักสังเกตอาการก่อนเป็นอันตรายถึงชีวิต

เยื่อหุ้มสมองอักเสบ (Meningitis) คือภาวะที่เยื่อหุ้มสมองและไขสันหลังเกิดการอักเสบบวมจนก่อให้เกิดอาการผิดปกติ ซึ่งสาเหตุมีทั้งจากการติดเชื้อและไม่ใช่จากการติดเชื้อ

อ่านเพิ่มเติม
เลือดออกในสมอง

เข้าใจภาวะเลือดออกในสมอง วิกฤติสุขภาพที่อาจร้ายแรงถึงชีวิต

เลือดออกในสมอง (Intracerebral Hemorrhage) คือภาวะเส้นเลือดในสมองแตก ทำให้เลือดไหลไปกดทับเนื้อเยื่อสมอง และเป็นสาเหตุของความพิการหรือเสียชีวิตในที่สุด

อ่านเพิ่มเติม
อ่านบทความทั้งหมด
Facebook-f Youtube Instagram Line
  • 1270
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • นัดหมาย
  • บทความสุขภาพ
  • แพ็กเกจ
  • ข่าว และกิจกรรม รพ.
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • นักลงทุนสัมพันธ์
  • การพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน
  • ร่วมงานกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • ข้อกำหนดและเงื่อนไข

Copyright © 2025 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital

  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • Health Guru
    • บทความสุขภาพ
    • Doctor’s Health Insights
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา