Skip to content
  • TH
    • EN
    • CN
    • AR
  • TH
    • EN
    • CN
    • AR
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • Health Guru
    • บทความสุขภาพ
    • Doctor’s Health Insights
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา
Menu
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • Health Guru
    • บทความสุขภาพ
    • Doctor’s Health Insights
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา

ภัยเงียบที่ซ่อนอยู่ในกระเพาะอาหาร

นพ.ฐปนกุล เอมอยู่

บทความ

โรงพยาบาลพระรามเก้า

  • วันที่โพสต์ 13 พฤษภาคม 2020

เชื้อเฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร หรือ เอชไพโลไร (Helicobacter pylori / H.pylori) นับว่าเป็นเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ที่เกิด จากการติดต่อระหว่างคนสู่คน เชื้อนี้เมื่อเข้าสู่ร่างกายไปแล้ว จะอาศัยอยู่ในกระเพาะอาหาร และส่งผลทำให้เกิดการอักเสบของกระเพาะอาหาร หากไม่ได้รับการรักษาจะส่งผลให้มีความเสี่ยงเกิดโรคมะเร็งกระเพาะ ซึ่งผู้ป่วยมะเร็งเป็นหนึ่งกลุ่มเสี่ยง หากติดเชื้อ COVID-19 อาการจะรุนแรง การดูแลตัวเอง จึงเป็นสิ่งสำคัญ

โดยส่วนใหญ่ผู้ติดเชื้อจะไม่มีอาการแสดง แต่ในบางรายเชื้ออาจทำให้เกิดโรคแผลในกระเพาะอาหาร หรือในลำไส้เล็กส่วนต้นได้ รวมไปถึงการเป็นมะเร็งในกระเพาะอาหารในที่สุด โดยโรคนี้พบได้ทั่วโลก โดยประมาณการว่าประชากรทั่วโลกอย่างน้อยร้อยละ 50 มีการติดเชื้อชนิดนี้อยู่ โดยประชากรประเทศด้อยพัฒนา จะมีความชุกของการติดเชื้อมากกว่าประเทศที่พัฒนาแล้ว เนื่องจากการดูแลด้านสุขอนามัยที่แตกต่างกัน สำหรับในประเทศไทย ไม่มีการศึกษาทางด้านระบาดวิทยาของโรคนี้อย่างชัดเจน

ปัจจัยเสี่ยงของการติดเชื้อเอชไพโลไร อาจติดต่อโดยการกินอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนอุจจาระของผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อ โดยเชื้อจะเข้าไปในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้น ที่เรียกว่า ดูโอดีนัม (Duodenum) เป็นลำไส้เล็กส่วนแรกสุด ของทางเดินอาหารที่รับอาหารต่อจากกระเพาะ โดยเชื้อจะเข้าไปปล่อยเอนไซม์และสารพิษต่างๆ ซึ่งมีผลทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้น ทำให้กรดในกระเพาะอาหารรวมถึงน้ำย่อยต่างๆ ทำลายเนื้อเยื่อกระเพาะและลำไส้เล็กรุนแรงขึ้น จนก่อให้เกิดการอักเสบแบบเรื้อรังทั้งกระเพาะและลำไส้เล็กส่วนต้น 

โดยโรคนี้ยังมีการติดต่อค่อนข้างสูงในชุมชนที่มีความแออัด และคนในครอบครัว  หลังจากมีการติดเชื้อเอชไพโลไรจะทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังของกระเพาะอาหารและเป็นสาเหตุสำคัญสาเหตุหนึ่งที่ทำให้กระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้นเป็นแผลโดยมีความเสี่ยงสูงถึง 6-40 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับ  ผู้ที่ไม่มีการติดเชื้อ

นอกจากนี้ หากไม่ได้รับการรักษาจะส่งผลให้มีความเสี่ยงเกิดโรคมะเร็งกระเพาะอาหารได้มากกว่า 2-6 เท่า การวินิจฉัยการติดเชื้อเอชไพโลไร เริ่มต้นจากการทดสอบการติดเชื้อ โดยแนะนำให้ตรวจในผู้ป่วยที่มีอาการน่าสงสัยว่าอาจมีแผลในกระเพาะอาหาร ผู้ที่เคยมีประวัติติดเชื้อมาก่อน หรืออาจตรวจในผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารรวมถึงผู้ที่มีความกังวลว่าอาจเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร โดยเฉพาะคนเชื้อสายจีน เกาหลี ญี่ปุ่น ซึ่งพบว่ามีอุบัติการณ์ของมะเร็งกระเพาะอาหารค่อนข้างสูง อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะพบการติดเชื้อ เอชไพโลไร ได้บ่อยในผู้ป่วยที่เป็นแผลในกระเพาะอาหารแต่ผู้ที่มีแผลในกระเพาะอาหารก็ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อเอชไพโลไรทุกคน โดยสาเหตุสำคัญอีกประการที่ทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร คือ ยาละลายลิ่มเลือด เช่น aspirin , clopidogrel ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ เช่น ibuprofen, naproxen เป็นต้น 

วิธีการทำสอบการติดเชื้อเอชไพโลไรมีหลายวิธี โดยวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย คือ การส่องกล้องทางเดินอาการส่วนต้น และตัดชิ้นเนื้อ เพื่อส่งตรวจหาเชื้อเอชไพโลไร นอกจากนี้การนำลมหายใจมาพิสูจน์เชื้อโรค หรือเรียกว่า Urea Breath Test ก็เป็นอีกหนึ่งวิธี ที่นำลมหายใจมาทดสอบเพื่อพิสูจน์เชื้อแบคทีเรีย เฮริโคแบคเตอร์ ไพโลไร ได้เช่นกัน    ข้อดีของโรคนี้ หลังจากที่กำจัดเชื้อได้แล้ว โอกาสที่จะกลับมาเป็นแผลในกระเพาะอาหารซ้ำอีกนั้น มีลดลงและมีโอกาสที่จะหายขาด เพื่อลดความทุกข์ทรมานของผู้ป่วยจากอาการปวดท้องโรคกระเพาะอาหารและลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็งในกระเพาะอาหารได้อีกด้วย สำหรับผู้ที่สงสัยว่า มีความผิดปกติเกิดขึ้นกับระบบทางเดินอาหาร หรือคนในครอบครัวเคยมีประวัติเป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ควรตรวจหาความเสี่ยง หรือตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นการป้องกันโรคร้าย ภัยเงียบที่ซ่อนอยู่ในกระเพาะอาหารได้ดีที่สุด

บทความล่าสุด

ข้อเข่าเทียมมีกี่แบบ

ข้อเข่าเทียมมีกี่แบบ ต่างกันอย่างไร เลือกผ่าตัดแบบไหนให้เหมาะกับปัญหาข้อเข่าเสื่อม ของเรา?

อ่านเพิ่มเติม
เยื่อหุ้มสมองอักเสบ

เยื่อหุ้มสมองอักเสบเกิดจากอะไร รู้จักสังเกตอาการก่อนเป็นอันตรายถึงชีวิต

อ่านเพิ่มเติม
เลือดออกในสมอง

เข้าใจภาวะเลือดออกในสมอง วิกฤติสุขภาพที่อาจร้ายแรงถึงชีวิต

อ่านเพิ่มเติม
ดูบทความทั้งหมด

ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกับ Praram 9 V

ปรึกษาแพทย์ได้ทุกที่ผ่านทางวิดีโอคอล (Telemedicine)

  • Praram 9 Hospital
  • @praram9hospital

แพทย์ผู้เขียนบทความ

นพ.ฐปนกุล เอมอยู่

นพ.ฐปนกุล เอมอยู่

ศูนย์ทางเดินอาหารและตับ

นัดหมาย

ประวัติเพิ่มเติม

 

ศูนย์แพทย์

ศูนย์ทางเดินอาหารและตับ

ศูนย์ทางเดินอาหารและตับ

เยี่ยมชม

ดูทั้งหมด

บทความอื่นๆ

ข้อเข่าเทียมมีกี่แบบ

ข้อเข่าเทียมมีกี่แบบ ต่างกันอย่างไร เลือกผ่าตัดแบบไหนให้เหมาะกับปัญหาข้อเข่าเสื่อม ของเรา?

ข้อเข่าเทียมมีกี่แบบ? สามารถแบ่งการผ่าตัดข้อเข่าเทียมออกเป็น 2 แบบหลัก ๆ คือผ่าตัดใส่ผิวข้อเข่าเทียมบางส่วน และการผ่าตัดใส่ข้อเข่าเทียมทั้งหมด

อ่านเพิ่มเติม
เยื่อหุ้มสมองอักเสบ

เยื่อหุ้มสมองอักเสบเกิดจากอะไร รู้จักสังเกตอาการก่อนเป็นอันตรายถึงชีวิต

เยื่อหุ้มสมองอักเสบ (Meningitis) คือภาวะที่เยื่อหุ้มสมองและไขสันหลังเกิดการอักเสบบวมจนก่อให้เกิดอาการผิดปกติ ซึ่งสาเหตุมีทั้งจากการติดเชื้อและไม่ใช่จากการติดเชื้อ

อ่านเพิ่มเติม
เลือดออกในสมอง

เข้าใจภาวะเลือดออกในสมอง วิกฤติสุขภาพที่อาจร้ายแรงถึงชีวิต

เลือดออกในสมอง (Intracerebral Hemorrhage) คือภาวะเส้นเลือดในสมองแตก ทำให้เลือดไหลไปกดทับเนื้อเยื่อสมอง และเป็นสาเหตุของความพิการหรือเสียชีวิตในที่สุด

อ่านเพิ่มเติม
อ่านบทความทั้งหมด
Facebook-f Youtube Instagram Line
  • 1270
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • นัดหมาย
  • บทความสุขภาพ
  • แพ็กเกจ
  • ข่าว และกิจกรรม รพ.
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • นักลงทุนสัมพันธ์
  • การพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน
  • ร่วมงานกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • ข้อกำหนดและเงื่อนไข

Copyright © 2025 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital

  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • Health Guru
    • บทความสุขภาพ
    • Doctor’s Health Insights
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา