Skip to content
  • TH
    • EN
    • CN
    • AR
  • TH
    • EN
    • CN
    • AR
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • Health Guru
    • บทความสุขภาพ
    • Doctor’s Health Insights
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา
Menu
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • Health Guru
    • บทความสุขภาพ
    • Doctor’s Health Insights
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา

ตรวจเลือดมะเร็ง ตรวจอย่างไร บอกอะไรได้บ้าง?

บทความ

โรงพยาบาลพระรามเก้า

  • วันที่โพสต์ 21 สิงหาคม 2024
ตรวจเลือดมะเร็ง

ปัจจุบันพบว่าคนไทยป่วยเป็นมะเร็งเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะทราบว่าป่วยเป็นมะเร็งก็มักจะอยู่ในระยะที่รุนแรง และทำให้การรักษาซับซ้อนมากขึ้น ดังนั้นการตรวจพบมะเร็งตั้งแต่ในระยะแรก ๆ จะสามารถเพิ่มโอกาสในการรักษาหายและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ 

ปัจจุบันโปรแกรมการตรวจสุขภาพของโรงพยาบาลหลาย ๆ แห่งมีการตรวจเลือดเพื่อหาสารบ่งชี้มะเร็ง ที่สามารถบอกแนวโน้ม และความเสี่ยงของโรคมะเร็ง ซึ่งการตรวจเลือดมะเร็งนี้เรียกว่าการตรวจ Tumor Marker (สารบ่งชี้มะเร็ง) ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวกและเจ็บตัวน้อยในการตรวจหามะเร็งเบื้องต้น

การตรวจ Tumor Marker สามารถตรวจหาสารบ่งชี้มะเร็งได้หลายชนิด เช่น มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งรังไข่ มะเร็งลำไส้ แต่อย่างไรก็ตามการตรวจเลือดเพียงอย่างเดียวอาจไม่สามารถยืนยันผลการวินิจฉัยมะเร็งได้ หากพบผลผิดปกติ แพทย์มักจะแนะนำให้มีการตรวจเพิ่มเติม เช่น การตรวจทางรังสี การตรวจอัลตราซาวนด์ หรือการตรวจด้วยวิธีอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการวินิจฉัยให้แม่นยำขึ้น

สนใจนัดหมายแพทย์

สารบัญ

  • การตรวจเลือดมะเร็งคืออะไร?
  • การตรวจเลือดมะเร็งดีอย่างไร?
  • ตรวจเลือดมะเร็งทำอย่างไร?
  • ประโยชน์ของการตรวจเลือดมะเร็ง
  • ใครบ้างควรตรวจเลือดมะเร็ง
  • สารบ่งชี้มะเร็งมีอะไรบ้าง?
  • สรุป

การตรวจเลือดมะเร็งคืออะไร?

การตรวจเลือดมะเร็งคือการใช้ตัวอย่างเลือดของผู้ป่วย ที่ได้จากการเจาะเลือดเพื่อตรวจสอบหาสารหรือสิ่งบ่งชี้ที่เกี่ยวข้องกับการเกิดมะเร็ง เช่น โปรตีน สารพันธุกรรมของเซลล์มะเร็ง (DNA, RNA) หรือสารชีวเคมีอื่น ๆ ที่ปล่อยออกมาจากเซลล์มะเร็งหรือจากร่างกายที่ตอบสนองต่อการเกิดมะเร็ง

> กลับสู่สารบัญ

การตรวจเลือดมะเร็งดีอย่างไร?

การตรวจเลือดเพื่อหาสารบ่งชี้มะเร็งมีข้อดีคือ สามารถทำให้ตรวจพบมะเร็งได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่การรักษามีประสิทธิภาพสูงที่สุด นอกจากนี้การตรวจเลือดยังสามารถทำได้ง่าย รวดเร็ว ไม่ต้องมีการผ่าตัดหรือกระบวนการที่ซับซ้อน และยังสามารถใช้ในการติดตามผลการรักษา และตรวจหาการกลับมาเป็นซ้ำของโรคได้อีกด้วย

> กลับสู่สารบัญ

ตรวจเลือดมะเร็งทำอย่างไร?

  1. เจาะเลือดจากผู้ป่วย เพื่อการเก็บตัวอย่างเลือด: ผู้ป่วยจะได้รับการเจาะเลือดจากหลอดเลือดที่แขน ซึ่งเป็นวิธีการเจาะเลือดตรวจร่างกายปกติในปัจจุบัน
  2. การวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ: ตัวอย่างเลือดจะถูกนำไปวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการเพื่อค้นหาสารบ่งชี้มะเร็ง 
  3. การแปลผล: ผลการตรวจเลือดจะถูกแปลผลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะพิจารณาผลการตรวจเลือดร่วมกับข้อมูลอื่น ๆ เพื่อการตัดสินใจในการวินิจฉัยและการรักษา

> กลับสู่สารบัญ

ประโยชน์ของการตรวจเลือดมะเร็ง

  • สามารถตรวจคัดกรองมะเร็งในระยะเริ่มแรก: การตรวจเลือดมะเร็งสามารถคัดกรองมะเร็งในระยะเริ่มแรกได้ ซึ่งเป็นระยะที่มีผลการรักษาดีที่สุด
  • ติดตามผลการรักษา: การตรวจเลือดมะเร็งสามารถใช้ในการติดตามผลการรักษามะเร็งได้ โดยการติดตามสารบ่งชี้ชีวภาพที่ลดลงหรือเพิ่มขึ้นหลังการรักษา
  • ตรวจหาโรคมะเร็งที่กลับมาเป็นซ้ำ: การตรวจเลือดมะเร็งสามารถใช้ในการตรวจหาโรคมะเร็งที่กลับมาเป็นซ้ำได้ ซึ่งจะช่วยให้แพทย์โรคมะเร็งสามารถตรวจพบและวางแผนการรักษาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

> กลับสู่สารบัญ

ใครบ้างควรตรวจเลือดมะเร็ง

  • ผู้ที่มีครอบครัวมีประวัติป่วยเป็นมะเร็ง: หากมีสมาชิกในครอบครัวที่เป็นมะเร็ง การตรวจเลือดอาจช่วยในการตรวจพบการเกิดมะเร็งในระยะเริ่มต้นได้ ซึ่งเป็นระยะที่มีโอกาสรักษาหาย
  • ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงสูง: ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงสูง เช่น สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ เคยได้รับสารเคมีที่เป็นพิษ หรือทำอาชีพหรือมีกิจกรรมที่ได้รับแสงอาทิตย์มากเกินไป ควรพิจารณาการตรวจเลือดเพื่อค้นหาสรบ่งชี้มะเร็ง
  • ผู้ที่มีอาการที่สงสัยว่าเป็นอาการของโรคมะเร็ง: หากมีอาการที่อาจเป็นสัญญาณของมะเร็ง เช่น น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ  มีเลือดออกที่อวัยวะต่าง ๆ ผิดปกติ หรืออาการมะเร็งอื่น ๆ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อการตรวจวินิจฉัย
  • ผู้ที่มีประวัติเคยเป็นโรคมะเร็ง: การตรวจเลือดเพื่อหาสารบ่งชี้มะเร็งจะช่วยในการตรวจหาโรคมะเร็งที่อาจกลับมาเป็นซ้ำได้
  • ผู้ที่มีอายุอยู่ในวัยที่เสี่ยงต่อโรคมะเร็ง: เมื่ออายุมากขึ้นจะทำให้มีความเสี่ยงของมะเร็งเพิ่มขึ้นด้วย เช่น ในผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปีจะมีความเสี่ยงต่อมะเร็งลำไส้ใหญ่มากขึ้น

> กลับสู่สารบัญ

สารบ่งชี้มะเร็งมีอะไรบ้าง?

  • Prostatic Specific Antigen (PSA) เป็นสารบ่งชี้มะเร็งต่อมลูกหมาก แต่หากพบค่า PSA สูง อาจไม่สามารถวินิจฉัยได้ว่าเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากได้ 100% เนื่องจากในผู้ป่วยที่มะภาวะต่อมลูกหมากโตก็อาจมีค่า PSA สูงขึ้นได้
  • Prostatic Acid Phosphatase (PAP) มักพบว่ามีค่าสูงในผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งต่อมน้ำเหลือง 
  • CA125 สารบ่งชี้มะเร็งรังไข่ มะเร็งปากมดลูก มะเร็งตับอ่อน มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งเต้านม และมะเร็งปอด 
  • CA19-9 มักพบว่ามีค่าสูงในผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งตับอ่อน มะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งถุงน้ำดี 
  • CA-15-3 เป็นสารที่ใช้ติดตามมะเร็งเต้านม โดยเฉพาะมะเร็งเต้านมที่แพร่กระจาย เนื่องจากในมะเร็งระยะเริ่มแรกค่านี้อาจไม่สูง ควรตรวจร่วมกับแมมโมแกรมเพื่อการวินิจฉัยที่แม่นยำมากขึ้น
  • Carcinoembryonic Antigen (CEA) สารนี้มักมีค่าสูงในมะเร็งลำไส้ โดยเฉพาะในกรณีที่มะเร็งแพร่กระจาย 
  • Alpha-Fetoprotein (AFP) อาจเป็นสัญญาณของมะเร็งตับ มะเร็งลูกอัณฑะ หรือมะเร็งรังไข่
  • Human Chorionic Gonadotropin (HCG) ปกติสารนี้จะสร้างจากรกและพบสูงในหญิงตั้งครรภ์ แต่หากพบค่านี้สูงในคนทั่วไป อาจบ่งชี้ถึงมะเร็งปากมดลูก มะเร็งตับ มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งตับอ่อน หรือมะเร็งปอด
  • LDH (Lactate Dehydrogenase) สารนี้ไม่เจาะจงกับมะเร็งชนิดใดชนิดหนึ่ง ใช้ตรวจหาเซลล์ผิดปกติในร่างกายและติดตามรักษามะเร็งบางชนิด
  • Neuron Specific Enolase (NSE) มักพบในมะเร็งของเซลล์ระบบประสาทและต่อมไร้ท่อ เช่น มะเร็งปอด และมะเร็งของระบบประสาท
  • Human Growth Hormone (HGH) สัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งปอด
  • Ferritin ในมะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งตับ และหากพบค่า Ferritin สูงพร้อมกับ CEA อาจบ่งชี้ถึงมะเร็งเต้านม

แต่อย่างไรก็ตามการตรวจเลือดมะเร็งต้องได้รับการแปลผลและวินิจฉัยจากแพทย์เฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญ ทั้งนี้เพื่อการวินิจฉัยที่แม่นยำและถูกต้อง

> กลับสู่สารบัญ

สรุป

การตรวจหาสารบ่งชีมะเร็งเป็นวิธีที่มีประโยชน์และสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการตรวจหามะเร็งในระยะเริ่มแรกเริ่มได้ อย่างไรก็ตามการแปลผลการตรวจควรได้รับการแปลผลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ซึ่งแพทย์อาจพิจารณาการตรวจวินิจฉัยด้วยวิธีอื่น ๆ ด้วยเพื่อให้ได้ผลการวินิจฉัยที่ถูกต้อง 

การดูแลสุขภาพโดยรวมยังคงเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันโรคมะเร็งและการมีสุขภาพที่ดี การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ เช่น การสูบบุหรี่ และการดื่มแอลกอฮอล์ เป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง

สนใจนัดหมายแพทย์

แนะนำแพ็กเกจที่เกี่ยวข้อง

แพ็กเกจตรวจคัดกรองมะเร็งหญิง

รายละเอียด

แพ็กเกจตรวจคัดกรองมะเร็งชาย

รายละเอียด

แพ็กเกจตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมพร้อมตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก Liquid prep

รายละเอียด

แพ็กเกจตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ด้วยวิธี Liquid Prep+HPV DNA PCR

รายละเอียด

แพ็กเกจตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม (3D Digital Mammogram with Breast Ultrasound)

รายละเอียด

แพ็กเกจตรวจคัดกรองความผิดปกติของเต้านมด้วยเครื่องอัลตร้าซาวด์

รายละเอียด

แพ็กเกจตรวจคัดกรองมะเร็งปอด (Low-Dose CT Lung Screening)

รายละเอียด

> กลับสู่สารบัญ

บทความล่าสุด

ข้อเข่าเทียมมีกี่แบบ

ข้อเข่าเทียมมีกี่แบบ ต่างกันอย่างไร เลือกผ่าตัดแบบไหนให้เหมาะกับปัญหาข้อเข่าเสื่อม ของเรา?

อ่านเพิ่มเติม
เยื่อหุ้มสมองอักเสบ

เยื่อหุ้มสมองอักเสบเกิดจากอะไร รู้จักสังเกตอาการก่อนเป็นอันตรายถึงชีวิต

อ่านเพิ่มเติม
เลือดออกในสมอง

เข้าใจภาวะเลือดออกในสมอง วิกฤติสุขภาพที่อาจร้ายแรงถึงชีวิต

อ่านเพิ่มเติม
ดูบทความทั้งหมด

ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกับ Praram 9 V

ปรึกษาแพทย์ได้ทุกที่ผ่านทางวิดีโอคอล (Telemedicine)

  • Praram 9 Hospital
  • @praram9hospital

แพทย์ผู้เขียนบทความ

 

ศูนย์แพทย์

บทความอื่นๆ

ข้อเข่าเทียมมีกี่แบบ

ข้อเข่าเทียมมีกี่แบบ ต่างกันอย่างไร เลือกผ่าตัดแบบไหนให้เหมาะกับปัญหาข้อเข่าเสื่อม ของเรา?

ข้อเข่าเทียมมีกี่แบบ? สามารถแบ่งการผ่าตัดข้อเข่าเทียมออกเป็น 2 แบบหลัก ๆ คือผ่าตัดใส่ผิวข้อเข่าเทียมบางส่วน และการผ่าตัดใส่ข้อเข่าเทียมทั้งหมด

อ่านเพิ่มเติม
เยื่อหุ้มสมองอักเสบ

เยื่อหุ้มสมองอักเสบเกิดจากอะไร รู้จักสังเกตอาการก่อนเป็นอันตรายถึงชีวิต

เยื่อหุ้มสมองอักเสบ (Meningitis) คือภาวะที่เยื่อหุ้มสมองและไขสันหลังเกิดการอักเสบบวมจนก่อให้เกิดอาการผิดปกติ ซึ่งสาเหตุมีทั้งจากการติดเชื้อและไม่ใช่จากการติดเชื้อ

อ่านเพิ่มเติม
เลือดออกในสมอง

เข้าใจภาวะเลือดออกในสมอง วิกฤติสุขภาพที่อาจร้ายแรงถึงชีวิต

เลือดออกในสมอง (Intracerebral Hemorrhage) คือภาวะเส้นเลือดในสมองแตก ทำให้เลือดไหลไปกดทับเนื้อเยื่อสมอง และเป็นสาเหตุของความพิการหรือเสียชีวิตในที่สุด

อ่านเพิ่มเติม
อ่านบทความทั้งหมด
Facebook-f Youtube Instagram Line
  • 1270
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • นัดหมาย
  • บทความสุขภาพ
  • แพ็กเกจ
  • ข่าว และกิจกรรม รพ.
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • นักลงทุนสัมพันธ์
  • การพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน
  • ร่วมงานกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • ข้อกำหนดและเงื่อนไข

Copyright © 2025 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital

  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • Health Guru
    • บทความสุขภาพ
    • Doctor’s Health Insights
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา