Skip to content
  • TH
    • EN
    • CN
    • AR
  • TH
    • EN
    • CN
    • AR
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • Health Guru
    • บทความสุขภาพ
    • Doctor’s Health Insights
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา
Menu
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • Health Guru
    • บทความสุขภาพ
    • Doctor’s Health Insights
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา

โรคความดันสูงในคนอายุน้อย…โรคที่อาจซ่อนอยู่โดยไม่รู้ตัว!

นพ.เจษฎา ลักขณาวงศ์

บทความ

โรงพยาบาลพระรามเก้า

  • วันที่โพสต์ 14 มีนาคม 2024
โรคความดันสูงในคนอายุน้อย

หลายคนอาจคิดว่าโรคความดันสูงเป็นโรคที่พบในผู้สูงอายุที่อายุมากกว่า 60 ปี แต่โรคความดันสูงก็สามารถพบได้ในคนอายุที่น้อยกว่า 60 ปีเช่นกัน ซึ่งจะทำให้ความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ เพิ่มขึ้น  เช่น โรคหลอดเลือดสมอง (หรืออัมพฤกษ์ อัมพาต) ในคนอายุน้อย โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคไต เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม ค่าความดันอาจสูงขึ้นได้หลังการออกกำลังกาย อยู่ในภาวะตื่นเต้น กังวล หรือมีค่าสูงเมื่อมาโรงพยาบาล

การที่จะวินิจฉัยว่า “เป็นโรคความดันสูงในอายุน้อย” จำเป็นต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยอย่างระมัดระวังและถูกต้อง เพื่อการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสม

สารบัญ

  • ค่าความดันในคนปกติ
  • ความดันสูงในคนอายุน้อยหมายถึงอะไร?
  • ความดันสูงในคนอายุน้อยเกิดจากอะไร?
  • ปัจจัยเสี่ยงความดันสูงในคนอายุน้อย
  • อาการของความดันสูง
  • การวินิจฉัยความดันสูงในคนอายุน้อย
  • การรักษาโรคความดันสูงในคนอายุน้อย
  • การป้องกันโรคความดันสูงในคนอายุน้อย
  • สรุป

ค่าความดันในคนปกติ

ค่าความดันคือเเรงดันของเลือดที่สูบฉีดไปเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ทั่วร่างกาย โดยค่าความดันจะวัดออกมาได้เป็นตัวเลข 2 ตัว เช่น 120/80, 140/90 โดยเราสามารถวัดความดันได้จากเครื่องวัดความดัน ซึ่งค่าที่วัดได้คือ

  1. ค่าความดันเลือดตัวบน (systolic blood pressure) หรือ ค่าความดันเลือดที่วัดได้ขณะหัวใจบีบตัวเต็มที่เพื่อสูบฉีดเลือดไปยังส่วนต่าง ๆ โดยมีค่าปกติอยู่ในช่วงน้อยกว่าหรือเท่ากับ 120-129 มิลลิเมตรปรอท
  2. ค่าความดันเลือดตัวล่าง (diastolic blood pressure) หรือ ค่าความดันเลือดที่วัดได้ขณะหัวใจคลายตัว โดยมีค่าปกติอยู่ในช่วงน้อยกว่าหรือเท่ากับ 80 มิลลิเมตรปรอท

การวัดความดันเลือดที่ดีต้องวัดขณะนั่งพัก 5 นาทีขึ้นไปเเละวัดในที่มีความสงบไม่มีอะไรรบกวนจิตใจเช่น ที่บ้าน เพราะมักพบการวัดค่าความดันได้มากกว่าปกติ เมื่อวัดขณะมาพบเเพทย์ที่โรงพยาบาลเรียกว่ากลุ่มอาการ “white coat hypertension” 

หากวัดค่าความดันเลือดตัวบน (systole) มากกว่าหรือเท่ากับ 130 มิลลิเมตรปรอทหรือค่าความดันเลือดตัวล่าง (diastole) มากกว่าหรือเท่ากับ 80 มิลลิเมตรปรอท จัดว่าเป็นผู้มีภาวะความดันสูง (hypertension)

> กลับสู่สารบัญ

โรคความดันสูงในคนอายุน้อยหมายถึงอะไร?

โรคความดันสูงในคนอายุน้อย (hypertension in the young) คือภาวะที่มีความดันเลือดสูงกว่า 140/90 มิลลิเมตรปรอทในคนที่มีอายุน้อยกว่า 50 ปี  ซึ่งอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ส่งผลเสียต่อร่างกาย และนำไปสู่โรคเรื้อรังต่าง ๆ ตามมาได้ เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคไตวาย เป็นต้น

โดยอาจแบ่งประเภทของภาวะความดันสูงออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ 

  • ภาวะความดันสูงแบบปฐมภูมิ (primary or essential hypertension) เป็นภาวะความดันสูงโดยไม่ทราบสาเหตุ เป็นภาวะความดันสูงชนิดที่พบได้บ่อยที่สุด
  • ภาวะความดันสูงแบบทุติยภูมิ (secondary hypertension) เป็นภาวะความดันสูงที่เป็นผลมาจากโรคอื่น ๆ

> กลับสู่สารบัญ

ความดันสูงในคนอายุน้อยเกิดจากอะไร?

ผู้ป่วยโรคความดันสูงในคนอายุน้อยส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น

  • การรับประทานอาหารที่มีรสจัด หรือมีน้ำตาลและไขมันสูง
  • การดำเนินชีวิตที่มีการเคลื่อนไหวร่างกายลดลง
  • ภาวะอ้วน หรือน้ำหนักเกิน
  • ขาดการออกกำลังกาย
  • ความเครียด
  • การดื่มแอลกอฮอล์

และมีผู้ป่วยอีกจำนวนหนึ่ง มีสาเหตุจากการรับประทานยา และโรคอื่น ๆ เช่น 

  • ยาแก้ปวดกลุ่มที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAID) เช่น ยาไอบูโพรเฟน (ibuprofen)
  • ยากลุ่มสเตรียรอยด์ เช่น ยาแก้หวัด (psuedoephredine) หรือยาคุมกำเนิด

ความดันสูงในคนอายุน้อยที่เกิดจากจากโรคอื่น ๆ โดยมักพบในผู้ที่อายุน้อยกว่า 30 ปี ดังนั้นหากผู้ที่อายุน้อยกว่า 30 มีค่าความดันเลือดสูงกว่าค่าปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์ เพราะอาจมีโรคที่ซ่อนอยู่ที่เป็นสาเหตุของความดันสูง ซึ่งโรคเหล่านั้น ได้แก่

  • โรคไต หรือโรคหลอดเลือดแดงไตตีบ
  • โรคเบาหวาน
  • โรคหลอดเลือดแดงใหญ่ตีบแคบ (coarctation of aorta)
  • โรคหลอดเลือดแดงอักเสบ (Takayasu arteritis)
  • โรคไทรอยด์เป็นพิษ หรือไทรอยด์ต่ำ
  • โรคทางเดินหายใจอุดกั้นขณะหลับ (obstructive sleep apnea)
  • โรคกลุ่มฮอร์โมน เช่น โรคเนื้องอกในต่อมหมวกไต โรคเนื้องอกในต่อมใต้สมอง ที่ทำให้มีการสร้างฮอร์โมนผิดปกติ ภาวะฮอร์โมนสเตียรอยด์เกิน (Cushing’s syndrome)

> กลับสู่สารบัญ

ปัจจัยเสี่ยงโรคความดันสูงในคนอายุน้อย

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้พบความดันในคนอายุน้อย ได้แก่

  • การรับประทานอาหารที่มีรสเค็มเเละมีโซเดียมในปริมาณสูง
  • ภาวะน้ำหนักตัวมากผิดปกติหรือโรคอ้วน
  • การดื่มเหล้า สูบบุหรี่หรือการใช้สารเสพติด
  • การทานผักผลไม้น้อยเเละทานอาหารที่มีไขมันสูงเป็นประจำ
  • การไม่ออกกำลังกาย
  • มีภาวะเครียดเรื้อรัง
  • มีประวัติคนในครอบครัวเป็นความดันสูง

> กลับสู่สารบัญ

อาการของโรคความดันสูง

ผู้ป่วยโรคความดันสูงส่วนใหญ่ไม่มีอาการ ผู้ป่วยจำนวนมากไม่ทราบว่าตัวเองเป็นโรคความดัน ทำให้เข้ารับการรักษาช้าจนมีภาวะแทรกซ้อนตามมา แต่ในรายที่มีค่าความดันสูงมาก ๆ คือสูงกว่า 180/120 มิลลิเมตรปรอท อาจพบอาการต่าง ๆ ได้ เช่น

  • ปวดหัวรุนเเรง
  • เจ็บเเน่นหน้าอก
  • วิงเวียนศีรษะ
  • หายใจลำบาก
  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • ตาพร่าหรือมีอาการมองเห็นที่ผิดปกติไปจากเดิม
  • มีภาวะวิตกกังวลหรือสับสน
  • หูอื้อ
  • เลือดกำเดาไหล
  • หัวใจเต้นผิดจังหวะ

> กลับสู่สารบัญ

การวินิจฉัยโรคความดันสูงในคนอายุน้อย

การวินิจฉัยโรคความดันในคนอายุน้อยทำได้เบื้องต้น ได้แก่

  • การวินิจฉัยโรคความดันสูงจะต้องเป็นการวินิจฉัยจากการวัดความดันอย่างถูกต้องเพื่อเป็นการยืนยันว่าเป็นโรคความดันสูง แพทย์จะใช้ตัวเลขของความดันที่วัดที่บ้านเป็นหลักในการวินิจฉัย โดยควรมีวิธีการวัดดังนี้ 

    • ควรวัดความดันเลือดในท่านั่ง โดยวัดหลังจากนั่งพักอย่างน้อย 5 นาที เเละถ้าวัดซ้ำ ควรวัดห่างกันอย่างน้อย 1 นาที แล้วจดบันทึกค่าความดันและเวลาที่วัดทุกครั้ง 
    • ควรวัดความดันเลือดเพื่อติดตามระดับความดันอย่างน้อย 2 ครั้งต่อวัน โดยวัดในช่วงเช้าเเละเย็น ติดต่อกันอย่างน้อย 4-7 วัน หรือ 2 สัปดาห์ จากนั้นนำค่าความดันที่จดบันทึกไปให้เเพทย์วินิจฉัย เพื่อใช้ในการประกอบการรักษาเเละกำหนดเเนวทางการรักษา
  • การตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมเพื่อค้นหาโรคที่อาจเป็นสาเหตุของความดันสูง ได้แก่

    • การซักประวัติเเละการตรวจร่างกาย
    • การตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่น การตรวจเลือดเพื่อดูระดับการทำงานของไต เเร่ธาตุต่าง ๆ ในเลือด ระดับน้ำตาลในเลือด ระดับฮอร์โมนไทรอยด์และคอร์ติซอล ระดับไขมันในเลือด ค่ากรดยูริค การตรวจปัสสาวะเพื่อดูระดับโปรตีนอัลบูมินในปัสสาวะ
    • การตรวจอื่น ๆ เช่น ตรวจคลื่นหัวใจ (electrocardiography; ECG หรือ EKG) ตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูง (echocardiogram) การทดสอบสมรรถภาพการทำงานของหัวใจโดยการเดินสายพาน (exercise stress test; EST) ตรวจการนอนหลับ (sleep test) ตรวจสมองด้วยการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง (CT scan) หรือการตรวจสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI scan)
    • การตรวจอื่น ๆ ตามคำแนะนำของแพทย์

โดยสามารถจำเเนกระดับความรุนเเรงของโรคความดันสูงได้ดังนี้

ระดับความรุนเเรงของ
โรคความดัน
ความดันช่วงหัวใจบีบตัว
(systole)
ความดันช่วงหัวใจคลายตัว
(diastole)
โรคความดันสูงระดับที่ 1 (stage 1)
130 – 139
80 – 89
โรคความดันสูงระดับที่ 2 (stage 2)
140 – 180
90 – 120
โรคความดันระดับวิกฤต (Hypertensive Crisis)
ควรพบแพทย์ทันที
สูงกว่า 180
สูงกว่า 120

* หน่วยของค่าความดันเป็นมิลลิเมตรปรอท

> กลับสู่สารบัญ

การรักษาโรคความดันสูงในคนอายุน้อย

การรักษาจะเเยกตามระดับความรุนเเรงของโรค โดยเเพทย์อาจจะแนะนำการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น การลดน้ำหนัก การออกกำลังกาย เเละการรับประทานอาหาร ในรายที่ยังมีความดันสูงไม่มาก แต่หากค่าความดันสูงจนการปรับพฤติกรรมไม่ได้ผล แพทย์อาจพิจารณาการรักษาด้วยยา ซึ่งการพิจารณาแผนการรักษาแพทย์จะพิจาณาถึง

  1. รักษาโรคที่เป็นสาเหตุของความดันสูง โดยหากรักษาโรคดังกล่าวหรือควบคุมให้ไม่รุนเเรง จะสามารถรักษาระดับความดันจะสามารถลดลงได้
  2. รักษาโดยการปรับพฤติกรรม
  3. การรักษาด้วยยา โดยแพทย์จะวางแผนการรักษาโดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ได้แก่ 
  • ค่าความดันเลือดเฉลี่ยที่วัดได้
  • ระดับความเสี่ยงในการเกิดโรคเกี่ยวหัวใจเเละหลอดเลือด
  • โรคร่วมของผู้ป่วย เช่น โรคไต โรคเบาหวาน
  • ผลกระทบของภาวะความดันสูงที่เกิดกับอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย

ยารักษาโรคความดันสูง

เเบ่งเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่

  1. ยากลุ่ม angiotensin converting enzyme inhibitors (ACEIs) เช่น ยาอีนาลาพริล(enalapril) 
  2. ยากลุ่ม angiotensin receptor blockers (ARBs) เช่น ยาลอซาร์แทน (losartan) 
  3. ยากลุ่ม beta-blockers เช่น ยาเมโทโพรลอล (metoprolol) ยาโพรพราโนลอล(proprabolol) 
  4. ยากลุ่ม calcium-channel blockers (CCBs) เช่น ยาแอมโลดิปีน (amlodipine) 
  5. ยากลุ่มขับปัสสาวะ เช่น ยาไทอะไซด์ (thiazides) และยาขับปัสสาวะที่ใกล้เคียงกับ thiazides ได้แก่ ยาคลอธาลิโดน (chlorthalidone) และ ยาอินดาพาไมด์ (indapamide)

โดยเเพทย์จะพยายามควบคุมความดันให้อยู่ในระดับปกติมากที่สุด คือ ความดันที่วัดได้ขณะหัวใจบีบตัวให้อยู่ในช่วงน้อยกว่าหรือเท่ากับ 130 มิลลิเมตรปรอท เเละความดันที่วัดได้ขณะหัวใจคลายตัวให้อยู่ในช่วงน้อยกว่าหรือเท่ากับ 80 มิลลิเมตรปรอท

> กลับสู่สารบัญ

การป้องกันโรคความดันสูงในคนอายุน้อย

เราสามารถป้องกันโรคความดันสูงได้ โดยการปฏิบัติดังนี้

  • การควบคุมหรือการลดน้ำหนักผู้ที่มีน้ำหนักเกิน
  • ปรับรูปเเบบของการรับประทานอาหาร โดยรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ในปริมาณที่เหมาะสมโดยเน้นทานผักผลไม้ที่มีปริมาณไฟเบอร์ เกลือเเร่สูงเเละหวานน้อย ทานเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมันเเละเนื้อปลา
  • จำกัดปริมาณเกลือเเละโซเดียมในอาหาร โดยไม่บริโภคโซเดียมเกินวันละ 2 กรัมต่อวัน หรือเทียมเท่าเกลือแกง 1 ช้อนช้า น้ำปลาหรือซีอิ้วขาว 3-4 ช้อนชา เเละผงชูรส 1 ช้อนชา 
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ โดยอาจปรึกษาเเพทย์เกี่ยวกับออกกำลังกายที่ถูกต้องและเหมาะสม
  • งดสูบบุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดการใช้สารเสพติดทุกชนิด
  • ตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี

> กลับสู่สารบัญ

สรุป

โรคความดันสูงในคนอายุน้อยเป็นโรคที่พบได้มากขึ้น เนื่องมาจากวิถีชีวิตที่มีความเครียดเพิ่มขึ้น การทำงานที่มีการเคลื่อนไหวร่างกายลดลง นอกจากนี้ยังอาจมีสาเหตุมาจากโรคต่าง ๆ ที่ซ่อนอยู่ ซึ่งผู้ป่วยจำนวนมากไม่ทราบว่าตัวเองมีความดันเลือดสูง จึงทำให้ไม่ได้มีการดูแลรักษาอย่างถูกต้อง อาจจะนำไปสู่การเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้มีภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ตามมาได้ 

การหมั่นดูแลสุขภาพ วัดความดันเลือดหากมีโอกาส สังเกตอาการผิดปกติต่าง ๆ ของร่างกาย รักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ในปริมาณที่เหมาะสม ก็จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคความดันสูงได้

คลิกดูแพ็กเกจที่เกี่ยวข้องที่นี่

แพ็กเกจตรวจคัดกรองเบาหวาน (Diabetic Screening)

รายละเอียด

แพ็กเกจตรวจคัดกรองความดันโลหิตสูง

รายละเอียด

แพ็กเกจตรวจสุขภาพหัวใจและทดสอบสมรรถภาพหัวใจโดยการวิ่งสายพาน (9 Healthy Heart: EST)

รายละเอียด

ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกับ Praram 9 V ปรึกษาแพทย์ได้ทุกที่ผ่านทางวิดีโอคอล (Telemedicine)

สนใจนัดหมาย

> กลับสู่สารบัญ

บทความล่าสุด

ข้อเข่าเทียมมีกี่แบบ

ข้อเข่าเทียมมีกี่แบบ ต่างกันอย่างไร เลือกผ่าตัดแบบไหนให้เหมาะกับปัญหาข้อเข่าเสื่อม ของเรา?

อ่านเพิ่มเติม
เยื่อหุ้มสมองอักเสบ

เยื่อหุ้มสมองอักเสบเกิดจากอะไร รู้จักสังเกตอาการก่อนเป็นอันตรายถึงชีวิต

อ่านเพิ่มเติม
เลือดออกในสมอง

เข้าใจภาวะเลือดออกในสมอง วิกฤติสุขภาพที่อาจร้ายแรงถึงชีวิต

อ่านเพิ่มเติม
ดูบทความทั้งหมด

ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกับ Praram 9 V

ปรึกษาแพทย์ได้ทุกที่ผ่านทางวิดีโอคอล (Telemedicine)

  • Praram 9 Hospital
  • @praram9hospital

แพทย์ผู้เขียนบทความ

นพ.เจษฎา ลักขณาวงศ์

นพ.เจษฎา ลักขณาวงศ์

สถาบันหัวใจและหลอดเลือดพระรามเก้า

นัดหมาย

ประวัติเพิ่มเติม

 

ศูนย์แพทย์

doc-logo

สถาบันหัวใจและหลอดเลือด แผลเล็ก (MIS)

เยี่ยมชม

ดูทั้งหมด

บทความอื่นๆ

ข้อเข่าเทียมมีกี่แบบ

ข้อเข่าเทียมมีกี่แบบ ต่างกันอย่างไร เลือกผ่าตัดแบบไหนให้เหมาะกับปัญหาข้อเข่าเสื่อม ของเรา?

ข้อเข่าเทียมมีกี่แบบ? สามารถแบ่งการผ่าตัดข้อเข่าเทียมออกเป็น 2 แบบหลัก ๆ คือผ่าตัดใส่ผิวข้อเข่าเทียมบางส่วน และการผ่าตัดใส่ข้อเข่าเทียมทั้งหมด

อ่านเพิ่มเติม
เยื่อหุ้มสมองอักเสบ

เยื่อหุ้มสมองอักเสบเกิดจากอะไร รู้จักสังเกตอาการก่อนเป็นอันตรายถึงชีวิต

เยื่อหุ้มสมองอักเสบ (Meningitis) คือภาวะที่เยื่อหุ้มสมองและไขสันหลังเกิดการอักเสบบวมจนก่อให้เกิดอาการผิดปกติ ซึ่งสาเหตุมีทั้งจากการติดเชื้อและไม่ใช่จากการติดเชื้อ

อ่านเพิ่มเติม
เลือดออกในสมอง

เข้าใจภาวะเลือดออกในสมอง วิกฤติสุขภาพที่อาจร้ายแรงถึงชีวิต

เลือดออกในสมอง (Intracerebral Hemorrhage) คือภาวะเส้นเลือดในสมองแตก ทำให้เลือดไหลไปกดทับเนื้อเยื่อสมอง และเป็นสาเหตุของความพิการหรือเสียชีวิตในที่สุด

อ่านเพิ่มเติม
อ่านบทความทั้งหมด
Facebook-f Youtube Instagram Line
  • 1270
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • นัดหมาย
  • บทความสุขภาพ
  • แพ็กเกจ
  • ข่าว และกิจกรรม รพ.
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • นักลงทุนสัมพันธ์
  • การพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน
  • ร่วมงานกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • ข้อกำหนดและเงื่อนไข

Copyright © 2025 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital

  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • Health Guru
    • บทความสุขภาพ
    • Doctor’s Health Insights
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา