หลายคนอาจคิดว่าโรคความดันสูงเป็นโรคที่พบในผู้สูงอายุที่อายุมากกว่า 60 ปี แต่โรคความดันสูงก็สามารถพบได้ในคนอายุที่น้อยกว่า 60 ปีเช่นกัน ซึ่งจะทำให้ความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ เพิ่มขึ้น เช่น โรคหลอดเลือดสมอง (หรืออัมพฤกษ์ อัมพาต) ในคนอายุน้อย โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคไต เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม ค่าความดันอาจสูงขึ้นได้หลังการออกกำลังกาย อยู่ในภาวะตื่นเต้น กังวล หรือมีค่าสูงเมื่อมาโรงพยาบาล
การที่จะวินิจฉัยว่า “เป็นโรคความดันสูงในอายุน้อย” จำเป็นต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยอย่างระมัดระวังและถูกต้อง เพื่อการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสม
ค่าความดันในคนปกติ
ค่าความดันคือเเรงดันของเลือดที่สูบฉีดไปเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ทั่วร่างกาย โดยค่าความดันจะวัดออกมาได้เป็นตัวเลข 2 ตัว เช่น 120/80, 140/90 โดยเราสามารถวัดความดันได้จากเครื่องวัดความดัน ซึ่งค่าที่วัดได้คือ
- ค่าความดันเลือดตัวบน (systolic blood pressure) หรือ ค่าความดันเลือดที่วัดได้ขณะหัวใจบีบตัวเต็มที่เพื่อสูบฉีดเลือดไปยังส่วนต่าง ๆ โดยมีค่าปกติอยู่ในช่วงน้อยกว่าหรือเท่ากับ 120-129 มิลลิเมตรปรอท
- ค่าความดันเลือดตัวล่าง (diastolic blood pressure) หรือ ค่าความดันเลือดที่วัดได้ขณะหัวใจคลายตัว โดยมีค่าปกติอยู่ในช่วงน้อยกว่าหรือเท่ากับ 80 มิลลิเมตรปรอท
การวัดความดันเลือดที่ดีต้องวัดขณะนั่งพัก 5 นาทีขึ้นไปเเละวัดในที่มีความสงบไม่มีอะไรรบกวนจิตใจเช่น ที่บ้าน เพราะมักพบการวัดค่าความดันได้มากกว่าปกติ เมื่อวัดขณะมาพบเเพทย์ที่โรงพยาบาลเรียกว่ากลุ่มอาการ “white coat hypertension”
หากวัดค่าความดันเลือดตัวบน (systole) มากกว่าหรือเท่ากับ 130 มิลลิเมตรปรอทหรือค่าความดันเลือดตัวล่าง (diastole) มากกว่าหรือเท่ากับ 80 มิลลิเมตรปรอท จัดว่าเป็นผู้มีภาวะความดันสูง (hypertension)
โรคความดันสูงในคนอายุน้อยหมายถึงอะไร?
โรคความดันสูงในคนอายุน้อย (hypertension in the young) คือภาวะที่มีความดันเลือดสูงกว่า 140/90 มิลลิเมตรปรอทในคนที่มีอายุน้อยกว่า 50 ปี ซึ่งอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ส่งผลเสียต่อร่างกาย และนำไปสู่โรคเรื้อรังต่าง ๆ ตามมาได้ เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคไตวาย เป็นต้น
โดยอาจแบ่งประเภทของภาวะความดันสูงออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
- ภาวะความดันสูงแบบปฐมภูมิ (primary or essential hypertension) เป็นภาวะความดันสูงโดยไม่ทราบสาเหตุ เป็นภาวะความดันสูงชนิดที่พบได้บ่อยที่สุด
- ภาวะความดันสูงแบบทุติยภูมิ (secondary hypertension) เป็นภาวะความดันสูงที่เป็นผลมาจากโรคอื่น ๆ
ความดันสูงในคนอายุน้อยเกิดจากอะไร?
ผู้ป่วยโรคความดันสูงในคนอายุน้อยส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น
- การรับประทานอาหารที่มีรสจัด หรือมีน้ำตาลและไขมันสูง
- การดำเนินชีวิตที่มีการเคลื่อนไหวร่างกายลดลง
- ภาวะอ้วน หรือน้ำหนักเกิน
- ขาดการออกกำลังกาย
- ความเครียด
- การดื่มแอลกอฮอล์
และมีผู้ป่วยอีกจำนวนหนึ่ง มีสาเหตุจากการรับประทานยา และโรคอื่น ๆ เช่น
- ยาแก้ปวดกลุ่มที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAID) เช่น ยาไอบูโพรเฟน (ibuprofen)
- ยากลุ่มสเตรียรอยด์ เช่น ยาแก้หวัด (psuedoephredine) หรือยาคุมกำเนิด
ความดันสูงในคนอายุน้อยที่เกิดจากจากโรคอื่น ๆ โดยมักพบในผู้ที่อายุน้อยกว่า 30 ปี ดังนั้นหากผู้ที่อายุน้อยกว่า 30 มีค่าความดันเลือดสูงกว่าค่าปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์ เพราะอาจมีโรคที่ซ่อนอยู่ที่เป็นสาเหตุของความดันสูง ซึ่งโรคเหล่านั้น ได้แก่
- โรคไต หรือโรคหลอดเลือดแดงไตตีบ
- โรคเบาหวาน
- โรคหลอดเลือดแดงใหญ่ตีบแคบ (coarctation of aorta)
- โรคหลอดเลือดแดงอักเสบ (Takayasu arteritis)
- โรคไทรอยด์เป็นพิษ หรือไทรอยด์ต่ำ
- โรคทางเดินหายใจอุดกั้นขณะหลับ (obstructive sleep apnea)
- โรคกลุ่มฮอร์โมน เช่น โรคเนื้องอกในต่อมหมวกไต โรคเนื้องอกในต่อมใต้สมอง ที่ทำให้มีการสร้างฮอร์โมนผิดปกติ ภาวะฮอร์โมนสเตียรอยด์เกิน (Cushing’s syndrome)
ปัจจัยเสี่ยงโรคความดันสูงในคนอายุน้อย
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้พบความดันในคนอายุน้อย ได้แก่
- การรับประทานอาหารที่มีรสเค็มเเละมีโซเดียมในปริมาณสูง
- ภาวะน้ำหนักตัวมากผิดปกติหรือโรคอ้วน
- การดื่มเหล้า สูบบุหรี่หรือการใช้สารเสพติด
- การทานผักผลไม้น้อยเเละทานอาหารที่มีไขมันสูงเป็นประจำ
- การไม่ออกกำลังกาย
- มีภาวะเครียดเรื้อรัง
- มีประวัติคนในครอบครัวเป็นความดันสูง
อาการของโรคความดันสูง
ผู้ป่วยโรคความดันสูงส่วนใหญ่ไม่มีอาการ ผู้ป่วยจำนวนมากไม่ทราบว่าตัวเองเป็นโรคความดัน ทำให้เข้ารับการรักษาช้าจนมีภาวะแทรกซ้อนตามมา แต่ในรายที่มีค่าความดันสูงมาก ๆ คือสูงกว่า 180/120 มิลลิเมตรปรอท อาจพบอาการต่าง ๆ ได้ เช่น
- ปวดหัวรุนเเรง
- เจ็บเเน่นหน้าอก
- วิงเวียนศีรษะ
- หายใจลำบาก
- คลื่นไส้ อาเจียน
- ตาพร่าหรือมีอาการมองเห็นที่ผิดปกติไปจากเดิม
- มีภาวะวิตกกังวลหรือสับสน
- หูอื้อ
- เลือดกำเดาไหล
- หัวใจเต้นผิดจังหวะ
การวินิจฉัยโรคความดันสูงในคนอายุน้อย
การวินิจฉัยโรคความดันในคนอายุน้อยทำได้เบื้องต้น ได้แก่
- การวินิจฉัยโรคความดันสูงจะต้องเป็นการวินิจฉัยจากการวัดความดันอย่างถูกต้องเพื่อเป็นการยืนยันว่าเป็นโรคความดันสูง แพทย์จะใช้ตัวเลขของความดันที่วัดที่บ้านเป็นหลักในการวินิจฉัย โดยควรมีวิธีการวัดดังนี้
- ควรวัดความดันเลือดในท่านั่ง โดยวัดหลังจากนั่งพักอย่างน้อย 5 นาที เเละถ้าวัดซ้ำ ควรวัดห่างกันอย่างน้อย 1 นาที แล้วจดบันทึกค่าความดันและเวลาที่วัดทุกครั้ง
- ควรวัดความดันเลือดเพื่อติดตามระดับความดันอย่างน้อย 2 ครั้งต่อวัน โดยวัดในช่วงเช้าเเละเย็น ติดต่อกันอย่างน้อย 4-7 วัน หรือ 2 สัปดาห์ จากนั้นนำค่าความดันที่จดบันทึกไปให้เเพทย์วินิจฉัย เพื่อใช้ในการประกอบการรักษาเเละกำหนดเเนวทางการรักษา
- การตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมเพื่อค้นหาโรคที่อาจเป็นสาเหตุของความดันสูง ได้แก่
- การซักประวัติเเละการตรวจร่างกาย
- การตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่น การตรวจเลือดเพื่อดูระดับการทำงานของไต เเร่ธาตุต่าง ๆ ในเลือด ระดับน้ำตาลในเลือด ระดับฮอร์โมนไทรอยด์และคอร์ติซอล ระดับไขมันในเลือด ค่ากรดยูริค การตรวจปัสสาวะเพื่อดูระดับโปรตีนอัลบูมินในปัสสาวะ
- การตรวจอื่น ๆ เช่น ตรวจคลื่นหัวใจ (electrocardiography; ECG หรือ EKG) ตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูง (echocardiogram) การทดสอบสมรรถภาพการทำงานของหัวใจโดยการเดินสายพาน (exercise stress test; EST) ตรวจการนอนหลับ (sleep test) ตรวจสมองด้วยการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง (CT scan) หรือการตรวจสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI scan)
- การตรวจอื่น ๆ ตามคำแนะนำของแพทย์
โดยสามารถจำเเนกระดับความรุนเเรงของโรคความดันสูงได้ดังนี้

การรักษาโรคความดันสูงในคนอายุน้อย
การรักษาจะเเยกตามระดับความรุนเเรงของโรค โดยเเพทย์อาจจะแนะนำการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น การลดน้ำหนัก การออกกำลังกาย เเละการรับประทานอาหาร ในรายที่ยังมีความดันสูงไม่มาก แต่หากค่าความดันสูงจนการปรับพฤติกรรมไม่ได้ผล แพทย์อาจพิจารณาการรักษาด้วยยา ซึ่งการพิจารณาแผนการรักษาแพทย์จะพิจาณาถึง
- รักษาโรคที่เป็นสาเหตุของความดันสูง โดยหากรักษาโรคดังกล่าวหรือควบคุมให้ไม่รุนเเรง จะสามารถรักษาระดับความดันจะสามารถลดลงได้
- รักษาโดยการปรับพฤติกรรม
- การรักษาด้วยยา โดยแพทย์จะวางแผนการรักษาโดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ได้แก่
- ค่าความดันเลือดเฉลี่ยที่วัดได้
- ระดับความเสี่ยงในการเกิดโรคเกี่ยวหัวใจเเละหลอดเลือด
- โรคร่วมของผู้ป่วย เช่น โรคไต โรคเบาหวาน
- ผลกระทบของภาวะความดันสูงที่เกิดกับอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย
ยารักษาโรคความดันสูง
เเบ่งเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่
- ยากลุ่ม angiotensin converting enzyme inhibitors (ACEIs) เช่น ยาอีนาลาพริล(enalapril)
- ยากลุ่ม angiotensin receptor blockers (ARBs) เช่น ยาลอซาร์แทน (losartan)
- ยากลุ่ม beta-blockers เช่น ยาเมโทโพรลอล (metoprolol) ยาโพรพราโนลอล(proprabolol)
- ยากลุ่ม calcium-channel blockers (CCBs) เช่น ยาแอมโลดิปีน (amlodipine)
- ยากลุ่มขับปัสสาวะ เช่น ยาไทอะไซด์ (thiazides) และยาขับปัสสาวะที่ใกล้เคียงกับ thiazides ได้แก่ ยาคลอธาลิโดน (chlorthalidone) และ ยาอินดาพาไมด์ (indapamide)
โดยเเพทย์จะพยายามควบคุมความดันให้อยู่ในระดับปกติมากที่สุด คือ ความดันที่วัดได้ขณะหัวใจบีบตัวให้อยู่ในช่วงน้อยกว่าหรือเท่ากับ 130 มิลลิเมตรปรอท เเละความดันที่วัดได้ขณะหัวใจคลายตัวให้อยู่ในช่วงน้อยกว่าหรือเท่ากับ 80 มิลลิเมตรปรอท
การป้องกันโรคความดันสูงในคนอายุน้อย
เราสามารถป้องกันโรคความดันสูงได้ โดยการปฏิบัติดังนี้
- การควบคุมหรือการลดน้ำหนักผู้ที่มีน้ำหนักเกิน
- ปรับรูปเเบบของการรับประทานอาหาร โดยรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ในปริมาณที่เหมาะสมโดยเน้นทานผักผลไม้ที่มีปริมาณไฟเบอร์ เกลือเเร่สูงเเละหวานน้อย ทานเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมันเเละเนื้อปลา
- จำกัดปริมาณเกลือเเละโซเดียมในอาหาร โดยไม่บริโภคโซเดียมเกินวันละ 2 กรัมต่อวัน หรือเทียมเท่าเกลือแกง 1 ช้อนช้า น้ำปลาหรือซีอิ้วขาว 3-4 ช้อนชา เเละผงชูรส 1 ช้อนชา
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ โดยอาจปรึกษาเเพทย์เกี่ยวกับออกกำลังกายที่ถูกต้องและเหมาะสม
- งดสูบบุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดการใช้สารเสพติดทุกชนิด
- ตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี
สรุป
โรคความดันสูงในคนอายุน้อยเป็นโรคที่พบได้มากขึ้น เนื่องมาจากวิถีชีวิตที่มีความเครียดเพิ่มขึ้น การทำงานที่มีการเคลื่อนไหวร่างกายลดลง นอกจากนี้ยังอาจมีสาเหตุมาจากโรคต่าง ๆ ที่ซ่อนอยู่ ซึ่งผู้ป่วยจำนวนมากไม่ทราบว่าตัวเองมีความดันเลือดสูง จึงทำให้ไม่ได้มีการดูแลรักษาอย่างถูกต้อง อาจจะนำไปสู่การเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้มีภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ตามมาได้
การหมั่นดูแลสุขภาพ วัดความดันเลือดหากมีโอกาส สังเกตอาการผิดปกติต่าง ๆ ของร่างกาย รักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ในปริมาณที่เหมาะสม ก็จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคความดันสูงได้
ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกับ Praram 9 V ปรึกษาแพทย์ได้ทุกที่ผ่านทางวิดีโอคอล (Telemedicine)