บทความสุขภาพ
Knowledge
พญ. จิตรฟ้า หรูรุ่งโรจน์
โรคปอดอักเสบจากเชื้อนิวโมคอกคัสเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอคคัสนิวโมเนียอี (Streptococcus pneumoniae) ส่วนใหญ่เชื้อจะพบอยู่ในโพรงจมูกและลำคอ สามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งทางละอองฝอยทางการไอหรือจาม เป็นหนึ่งในเชื้อที่ทำให้เกิดปอดอักเสบที่พบบ่อย ทั้งในเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ นอกจากจะทำให้เกิดปอดอักเสบแล้ว ยังก่อให้เกิดการติดเชื้อแบบรุกราน (Invasive pneumococcal disease ; IPD) เช่น ปอดอักเสบแบบรุนแรง ติดเชื้อในกระแสเลือด เยื่อหุ้มสมองอักเสบ นำไปสู่การเสียชีวิตได้ ซึ่งโรคนี้สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน
กลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อนิวโมคอกคัสได้แก่
ปัจจุบันประเทศไทยมีวัคซีนปอดอักเสบชนิด 20 สายพันธุ์ (PCV 20) ซึ่งเป็นวัคซีนปอดอักเสบชนิดล่าสุดที่มีใช้ในประเทศไทย สามารถครอบคลุมเชื้อแบคทีเรียนิวโมคอกคัส (Streptococcus pneumoniae) ที่ก่อโรคในประเทศไทยได้มากถึง 83.2% ซึ่งมีความครอบคลุมมากกว่าวัคซีนปอดอักเสบที่มีอยู่เดิม คือ ชนิด 13 (PCV 13) 15 (PCV15) และ 23 สายพันธุ์ (PPSV23) ที่มีความครอบคลุมอยู่ที่ 74.6-81.8% วัคซีนมีประสิทธิภาพในการลดการติดเชื้อนิวโมคอกคัสแบบรุนแรง ได้ถึง 75%
ใครควรฉีดบ้าง
คำแนะนำของประเทศไทยสำหรับการฉีดวัคซีนปอดอักเสบนิวโมคอกคัส 20 สายพันธุ์ (PCV 20) ในผู้ใหญ่
คำแนะนำสำหรับผู้ที่เคยฉีดวัคซีนปอดอักเสบ 13 และ 23 สายพันธุ์มาแล้ว
อย่างไรก็ตามควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำการฉีดวัคซีนที่เหมาะสม
ผลข้างเคียงของวัคซีนปอดอักเสบนิวโมคอกคัส
อาการข้างเคียงส่วนใหญ่มักไม่รุนแรง สามารถหายได้เองในระยะเวลา 2-3 วัน เช่น อาการบวมแดงบริเวณที่ฉีด มีไข้ต่ำ ๆ ปวดเมื่อยตัว ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ซึ่งอาการเหล่านี้แตกต่างออกไปในแต่ละบุคคล
โปรแกรมวัคซีน
เกี่ยวกับผู้เขียนบทความ
แพ็กเกจที่เกี่ยวข้อง (0)
ดูทั้งหมด
บทความที่เกี่ยวข้อง (10)
ดูทั้งหมด
Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital