ศูนย์ตรวจสุขภาพ

...

เวลาทำการ

จันทร์ – ศุกร์: 7.00 – 16.00 เสาร์ – อาทิตย์: 7.00 – 16.00

ศูนย์ตรวจสุขภาพ


ศูนย์ตรวจสุขภาพโรงพยาบาลพระรามเก้า พร้อมให้บริการตรวจสุขภาพตามช่วงอายุ โดยมีโปรแกรมการตรวจสุขภาพให้เลือกตามความเหมาะสม ประกอบด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ , อุปกรณ์การแพทย์แบบครบวงจรตามมาตรฐานในการตรวจรักษา บริการที่รวดเร็ว ถูกต้อง เที่ยงตรง และสามารถให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพครบถ้วนทุกด้าน


การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการตรวจสุขภาพ


  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอในคืนก่อนที่จะเข้ารับการตรวจ
  • งดน้ำและอาหารอย่างน้อย 8 ชั่วโมงก่อนการตรวจสุขภาพ
  • สวมเสื้อผ้าที่สะดวกต่อการเจาะเลือด
  • หากสงสัยว่าตั้งครรภ์ ควรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบก่อนรับการตรวจ
  • ในการเก็บปัสสาวะ ควรเก็บในช่วงหมดประจำเดือน อย่างน้อย 7-10 วัน
  • ในการเก็บอุจจาระควรงดอาหารที่เป็นเลือด หรือมีองค์ประกอบของเลือด เช่น เลือดหมู เลือดเป็ด เลือดไก่ รวมถึงยาบางประเภท เช่น แอสไพริน วิตามินซี อย่างน้อย 3 วันก่อน
  • ถ้ามีฟิลม์เอกซ์เรย์เก่าควรนำมาด้วยทุกครั้ง

บริการต่าง ๆ


  • ตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน ก่อนแต่งงาน
  • ตรวจสุขภาพก่อนทำประกันชีวิต
  • ตรวจสุขภาพก่อนการเดินทางไปต่างประเทศ หรือ ไปศึกษาต่อ
  • ตรวจสุขภาพประจำปีของผู้บริหารและพนักงาน สำหรับกลุ่มลูกค้าบริษัทโดยขึ้นกับความต้องการของบริษัท และความเหมาะสมในปัจจัยต่างๆ เช่น อายุ เพศ หรือลักษณะงานที่ต้องการตรวจเฉพาะทาง
  • ตรวจสุขภาพนอกสถานที่
  • บริการให้คำปรึกษาทางด้านสุขภาพ และการบรรยายให้ความรู้ทางการแพทย์ทั้งในและนอกสถานที่ ได้แก่ องค์กรเอกชน , ภาครัฐวิสาหกิจ, ภาครัฐบาล, สถาบันการศึกษา ฯลฯ
  • ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบเอ
  • ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี
  • ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ ชนิดเอ-บี ในเข็มเดียว
  • ฉีดวัคซีนป้องกันอีสุกอีใส
  • ฉีดวัคซีนป้องกันไขหวัดใหญ่
  • ทดสอบภูมิคุ้มกันวัณโรค

Scan Brochure โบรชัวร์ คำแนะนำ ได้ที่นี่

สถานที่ตั้ง

ศูนย์ตรวจสุขภาพ ชั้น 12 อาคาร B โรงพยาบาลพระรามเก้า


เวลาทำการ

จันทร์ – ศุกร์: 7.00 – 16.00

เสาร์ – อาทิตย์: 7.00 – 16.00

แพทย์ประจำศูนย์

แพทย์ทั้งหมดในศูนย์

นพ. จิรายุ ฉิมวิไลทรัพย์

นพ. จิรายุ ฉิมวิไลทรัพย์

ศูนย์ตรวจสุขภาพ

นพ. จุลสม  อินทรลาวัณย์

นพ. จุลสม อินทรลาวัณย์

ศูนย์ตรวจสุขภาพ

นพ. ชนรัฐ เสถียร

นพ. ชนรัฐ เสถียร

ศูนย์ตรวจสุขภาพ

นพ. เธียรชัย  เรียวโชติสกุล

นพ. เธียรชัย เรียวโชติสกุล

ศูนย์ตรวจสุขภาพ

นพ. ปิยะพงษ์ เลิศอริยะวงศ์

นพ. ปิยะพงษ์ เลิศอริยะวงศ์

ศูนย์ตรวจสุขภาพ

นพ. พงศ์ธร  เรขะรุจิ

นพ. พงศ์ธร เรขะรุจิ

ศูนย์ตรวจสุขภาพ

นพ. ศุภกร ตุลย์ไตรรัตน์

นพ. ศุภกร ตุลย์ไตรรัตน์

ศูนย์ตรวจสุขภาพ

นพ. สิทธิกานต์ ธรรมสิริปรีดีพร

นพ. สิทธิกานต์ ธรรมสิริปรีดีพร

ศูนย์ตรวจสุขภาพ

นพ. อัฒฐพล วิระเทพสุภรณ์

นพ. อัฒฐพล วิระเทพสุภรณ์

ศูนย์ตรวจสุขภาพ

พญ. กชามาศ ผดุงพัฒโนดม

พญ. กชามาศ ผดุงพัฒโนดม

ศูนย์ตรวจสุขภาพ

บทความสุขภาพที่เกี่ยวข้อง

ดูทั้งหมด

วัคซีนปอดอักเสบนิวโมคอกคัสชนิดใหม่ 20 สายพันธุ์ (PCV 20)

โรคปอดอักเสบจากเชื้อนิวโมคอกคัสเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอคคัสนิวโมเนียอี (Streptococcus pneumoniae) ส่วนใหญ่เชื้อจะพบอยู่ในโพรงจมูกและลำคอ สามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งทางละอองฝอยทางการไอหรือจาม เป็นหนึ่งในเชื้อที่ทำให้เกิดปอดอักเสบที่พบบ่อย ทั้งในเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ

เตือนภัย แมลงริ้นฝอยทรายกัด ติดเชื้อโรคลิชมาเนียอันตรายถึงชีวิต

Leishmaniasis หรือโรคลิชมาเนีย เป็นโรคจากการติดเชื้อปรสิตลิชมาเนีย มักเกิดจากการถูกริ้นฝอยทรายที่เป็นพาหะของเชื้อกัด ส่วนใหญ่จะแพร่ระบาดในบริเวณที่มีสภาพอากาศร้อนชื้นหรือกึ่งร้อนชื้น โดยเฉพาะแถบเอเชีย แอฟริกา หรืออเมริกาใต้ ซึ่งผู้ป่วยแต่ละรายจะแสดงอาการป่วยแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ของเชื้อที่เข้าสู่ร่างกาย

ตรวจคัดกรองโรคไต ก่อนสายเกินแก้

โรคไตจะแสดงอาการเมื่อโรครุนแรงแล้ว จึงควรตรวจคัดกรองโรคไต หากตรวจพบความผิดปกติและรักษาแต่เนิ่น ๆ จะช่วยรักษาการทำงานของไตไว้ได้

โรครัมเซย์ฮันท์ ซินโดรม สาเหตุใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก ภาวะแทรกซ้อนจากโรคอีสุกอีใสและงูสวัด

ใบหน้าเป็นอัมพาตครึ่งซีกจากโรครัมเซย์ฮันท์ ซินโดรม ภาวะแทรกซ้อนจากโรคอีสุกอีใสและงูสวัด เสี่ยงกล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรงและหูหนวก

โควิด-19 ในผู้ป่วยโรคไต อันตรายกว่าคนทั่วไป

ผู้ป่วยโรคไตเป็นกลุ่มที่มีโอกาสติดโควิด-19 ได้ง่าย เชื้อโควิดจะทำลายเซลล์ของไตโดยตรง ผู้ป่วยโรคไตจึงเสี่ยงต่ออาการรุนแรงและมีโอกาสเสียชีวิตมากกว่าคนทั่วไป

มะเร็งปอดรักษาหายไหม มาฟังคำตอบกัน!

มะเร็งปอดรักษาหายไหม” คำตอบของคำถามนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ระยะของโรค ประเภทของมะเร็ง และสุขภาพของผู้ป่วย ซึ่งหากมะเร็งปอดถูกตรวจพบตั้งแต่ในระยะเริ่มต้น โอกาสในการรักษาให้หายขาดก็จะสูงกว่า การรักษามะเร็งปอดนั้นมีหลายวิธี ได้แก่ การผ่าตัด การฉายแสง เคมีบำบัด และภูมิคุ้มกันบำบัด ซึ่งการเลือกวิธีที่เหมาะสมแพทย์ต้องพิจารณาจากหลาย ๆ ปัจจัย

วัคซีนมะเร็งปากมดลูก” ฉีดตรงไหน ฉีดกี่เข็ม ตอนไหนบ้าง?

การฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูก และคำถามที่ว่า “วัคซีนมะเร็งปากมดลูก ฉีดกี่เข็ม” คำตอบคือวัคซีนนี้มักต้องฉีด 2-3 เข็ม ขึ้นอยู่กับอายุและประเภทของวัคซีน การฉีดให้ครบตามจำนวนที่กำหนดและในช่วงเวลาที่เหมาะสม จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้

อาการข้างเคียงของวัคซีน

วัคซีนทุกชนิดก่อให้เกิดอาการข้างเคียงได้ อาการส่วนใหญ่ไม่รุนแรง มักเกิดขึ้นภายใน 1-3 วันหลังฉีดวัคซีน และหายได้เองภายใน 1-2 วัน อาการส่วนใหญ่ได้แก่ อาการเฉพาะที่ คือ ปวด บวม แดง ร้อน บริเวณที่ฉีด ซึ่งพบได้มากถึง 80% ของผู้ที่ฉีดวัคซีน อาการทั่วไปอื่นๆ ได้แก่ ปวดเมื่อยตัว ปวดข้อ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ ไข้ ส่วนใหญ่อุณหภูมิไม่เกิน 38.5 C ต่อมน้ำเหลืองโต ผื่น ร่วมกับอาการไข้ อาจพบได้หลังฉีดวัคซีนเชื้อเป็น ในช่วง 3-21 วันหลังฉีด อาการข้างเคียงเฉพาะของวัคซีนบางชนิด วัคซีนที่มีส่วนประกอบของ บาดทะยัก คอตีบ อาจมีอาการบวมแดงเป็นบริเวณกว้างได้ เกิดจากการทำปฏิกิริยาระหว่างภูมิคุ้มกันของวัคซีนบาดทะยักและคอตีบในร่างกายที่ยังมีอยู่ กับ วัคซีนที่ฉีดกระตุ้น มักจะเกิดกับผู้ที่ฉีดวัคซีนภายใน 10ปีหลังจากเข็มก่อนหน้านี้ วัคซีน หัด หัดเยอรมัน คางทูม อาจมีอาการไข้สูงร่วมกับผื่นได้ภายใน 7-12 วันหลังฉีด แต่หายเองได้ภายใน 1-2 วัน โดยพบได้ 5% ของผู้ที่ฉีด หรือมีต่อมน้ำลายอักเสบได้ แต่พบได้น้อยมากในวัยรุ่นและผู้ใหญ่ (น้อยกว่า1%) วัคซีนสุกใส พบอาการผื่นได้ประมาณ 1%ของวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ที่ฉีด ภายใน 3 สัปดาห์หลังฉีดวัคซีน โดยอาจเป็นผื่นแดงหรือตุ่มน้ำได้ ส่วนใหญ่เป็นผื่นแดง หากเป็นตุ่มน้ำจะมีเล็กน้อยไม่เกิน 5 ตุ่ม และหายเองได้ แต่ตุ่มน้ำสามารถแพร่เชื้อให้คนใกล้ชิดที่ไม่เคยเป็นสุกใสได้ หรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องซึ่งอาจติดเชื้อสุกใสรุนแรง ดังนั้น หากมีตุ่มน้ำเกิดขึ้นหลังฉีดวัคซีน ควรแยกตัวจากบุคคลเหล่านี้จนกว่าตุ่มน้ำจะแห้งและตกสะเก็ดซึ่งพ้นระยะแพร่เชื้อ

วัคซีนป้องกันบาดทะยัก คอตีบ ไอกรน (Tdap)

วัคซีนบาดทะยัก คอตีบ ไอกรน (Tdap) เป็นวัคซีนป้องกันโรคบาดทะยัก คอตีบ และไอกรน ซึ่งเป็นโรคที่อันตรายถึงเสียชีวต และสามารถป้องกันการระบาดของโรคได้อีกด้วย

เซ็กซ์เป็นเรื่องใกล้ตัว…โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ก็เช่นกัน!

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STDs) คือการติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย และปรสิตจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้รับการป้องกันที่ถูกต้อง ซึ่งพบมากขึ้นในปัจจุบัน เป็นโรคที่ใกล้ตัว โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หลายชนิด ผู้ติดเชื้ออาจไม่ทราบว่าได้รับเชื้อแล้ว แต่จะสามารถแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้