Skip to content
  • TH
    • EN
    • CN
    • AR
  • TH
    • EN
    • CN
    • AR
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • Health Guru
    • บทความสุขภาพ
    • Doctor’s Health Insights
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา
Menu
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • Health Guru
    • บทความสุขภาพ
    • Doctor’s Health Insights
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา

รู้จักโรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza)…อาการ การรักษา และการป้องกัน

พญ.มัณฑนา สันดุษฎี

บทความ

โรงพยาบาลพระรามเก้า

  • วันที่โพสต์ 1 กุมภาพันธ์ 2024
ไข้หวัดใหญ่

ไข้หวัดใหญ่ (influenza) เป็นโรคติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจที่มักมีการระบาดทุกปีในช่วงฤดูฝนถึงฤดูหนาว ซึ่งสามารถพบผู้ป่วยได้ในทุกเพศทุกวัย ซึ่งอาการป่วยมักรุนแรงกว่าไข้หวัดธรรมดา และความรุนแรงของอาการก็มีความแตกต่างกันตามสภาวะสุขภาพของผู้ป่วยแต่ละราย และในรายที่รุนแรงก็อาจทำให้เสียชีวิตได้

สารบัญ

  • ไข้หวัดใหญ่คืออะไร?
  • ไข้หวัดใหญ่มีสายพันธ์ุอะไรบ้าง?
  • อาการของไข้หวัดใหญ่เป็นอย่างไร?
  • ไข้หวัดใหญ่ติดต่ออย่างไร?
  • ระยะฟักตัวของไข้หวัดใหญ่นานกี่วัน?
  • ระยะแพร่เชื้อของไข้หวัดใหญ่
  • ใครเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะมีอาการรุนแรง เมื่อติดเชื้อไข้หวัดใหญ่
  • การรักษาไข้หวัดใหญ่
  • ไข้หวัดใหญ่กี่วันหาย?
  • การป้องกันไข้หวัดใหญ่
  • วัคซีนไข้หวัดใหญ่
  • สรุป

ไข้หวัดใหญ่คืออะไร?

ไข้หวัดใหญ่หรือ influenza เป็นโรคติดเชื้อไวรัสของระบบทางเดินหายใจที่เรียกว่า influenza virus ซึ่งมีอยู่ 2 ชนิดหลัก ๆ คือ influenza สายพันธุ์ A และสายพันธุ์ B ไวรัสไข้หวัดใหญ่ติดเชื้อในเยื่อบุทางเดินหายใจทั้งส่วนบนบริเวณจมูก ลำคอ และสามารถลุกลามลงระบบทางเดินหายใจส่วนล่างได้ซึ่งคือบริเวณหลอดลมและปอด

> กลับสู่สารบัญ

ไข้หวัดใหญ่มีสายพันธ์ุอะไรบ้าง?

เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่มี 2 สายพันธุ์หลักที่ก่อโรคในคน คือ ไวรัสสายพันธุ์ A และสายพันธุ์ B แต่ละสายสามารถแบ่งย่อยได้อีก 2 ชนิด รวมเป็น 4 สายพันธุ์ย่อย ดังต่อไปนี้

ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A

ไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A สามารถก่อโรคได้ทั้งในคนและในสัตว์ โดยเป็นสายพันธุ์ที่กลายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว และทำให้เกิดการระบาดเป็นวงกว้างทั่วโลก ไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A สามารถแบ่งย่อยตามชนิดของโปรตีนบนเปลือกของไวรัส ได้เป็นอีก 2 สายพันธุ์ย่อย คือ 

  • H1N1
  • H3N2

ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B

ไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B สามารถก่อโรคได้ในคนเท่านั้น กลายพันธุ์ได้ช้ากว่าสายพันธุ์ A และมักจะทำให้เกิดอาการรุนแรงได้น้อยกว่า โดยแบ่งย่อยได้เป็น 2 ตระกูล คือ 

  • Yamagata
  • Victoria

> กลับสู่สารบัญ

อาการของไข้หวัดใหญ่เป็นอย่างไร?

อาการของไข้หวัดใหญ่ ได้แก่ 

  • ไข้ 
  • ปวดศรีษะ 
  • ปวดเมื่อยตามตัว 
  • เจ็บคอ ไอ 
  • คัดจมูก 
  • ปอดอักเสบติดเชื้อ หรือมีภาวะการหายใจล้มเหลวได้ หากอาการรุนแรง
  • ภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด

> กลับสู่สารบัญ

ไข้หวัดใหญ่ติดต่ออย่างไร?

ไวรัสไข้หวัดใหญ่ติดต่อจากคนสู่คน ผ่านสารคัดหลั่งที่เป็นละอองฝอย (droplet precaution) ทั้งน้ำมูก น้ำลาย ส่วนมากจะผ่านมาทางการจาม ไอ พูด ซึ่งสารคัดหลั่งเหล่านี้สามารถกระจายได้ไกลถึง 6 ฟุต โดยจะเข้ามาทางจมูก ปากหรือลงปอด บางส่วนซึ่งเป็นส่วนน้อยจะติดต่อทางการสัมผัสสารคัดหลั่งจากสิ่งของแล้วจับบริเวณจมูก ปาก

> กลับสู่สารบัญ

ระยะฟักตัวของไข้หวัดใหญ่นานกี่วัน?

ไข้หวัดใหญ่มีระยะฟักตัวประมาณ 1-3 วัน

> กลับสู่สารบัญ

ระยะแพร่เชื้อของไข้หวัดใหญ่

ระยะเวลาการแพร่กระจายเชื้อของไข้หวัดใหญ่ สามารถแพร่เชื้อได้ตั้งแต่ 1 วันก่อนมีอาการ จนถึง 5-7 วันหลังมีอาการป่วย โดยจะแพร่กระจายเชื้อได้มากที่สุดใน 3-4 วันแรกหลังเริ่มมีอาการ ผู้ป่วยบางกลุ่มจะมีระยะการแพร่กระจายเชื้อที่นานกว่า 7 วันได้ เช่น ในกลุ่มเด็กทารก และกลุ่มผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง

> กลับสู่สารบัญ

ใครเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะมีอาการรุนแรง เมื่อติดเชื้อไข้หวัดใหญ่

ผู้ที่เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนรุนแรงจากไข้หวัดใหญ่ ได้แก่ 

  • ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป
  • ผู้ที่เป็นโรคปอดเรื้อรัง 
  • ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน 
  • ผู้ที่เป็นโรคไตเรื้อรัง 
  • ผู้ที่เป็นโรคหัวใจ 
  • ผู้ที่เป็นโรคหลอดเลือดสมอง 
  • หญิงตั้งครรภ์ 
  • ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง

> กลับสู่สารบัญ

การรักษาไข้หวัดใหญ่

สามารถรักษาได้โดยการให้ยาต้านไวรัส ซึ่งการเริ่มยาต้านไวรัสภายใน 48 ชั่วโมงแรกหลังมีอาการจะช่วยลดอาการให้หายเร็วขึ้น และลดภาวะแทรกซ้อนได้

ยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่ได้รับอนุมัติโดย FDA มีทั้งหมด 4 ตัว ได้แก่

  1. Oseltamivir phosphate (trade name Tamiflu®) เป็นยารับประทาน
  2. Aanamivir (trade name Relenza®) เป็นยาผง
  3. Peramivir (trade name Rapivab®) เป็นยาฉีด
  4. Baloxavir marboxil (trade name Xofluza®) เป็นยารับประทาน

> กลับสู่สารบัญ

ไข้หวัดใหญ่กี่วันหาย?

สำหรับบุคคลทั่วไปที่มีสุขภาพแข็งแรงดี ไข้หวัดใหญ่มักจะหายไปได้ใน 5-7 วันหลังจากเริ่มมีอาการ แต่อาการไอและอ่อนเพลียอาจยังคงอยู่ได้หลายสัปดาห์ แต่ในผู้ที่ได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ มักจะมีอาการไม่มากและหายได้เร็วกว่าผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน 

> กลับสู่สารบัญ

การป้องกันไข้หวัดใหญ่

เนื่องจากไวรัสไข้หวัดใหญ่สามารถติดต่อผ่านละอองฝอยของสารคัดหลั่งที่ฟุ้งกระจายในอากาศจากการจาม ไอ หรือพูดคุย และติดต่อทางการสัมผัสสารคัดหลั่งจากสิ่งของต่าง ๆ ดังนั้นการป้องกันไวรัสไข้หวัดใหญ่ จึงสามารถทำได้ 2 แนวทาง คือ

  1. การป้องกันการได้รับเชื้อ ด้วยมาตรการเบื้องต้น ได้แก่
    • ใส่หน้ากากอนามัย 
    • ล้างมือด้วยสบู่บ่อย ๆ 
    • ใช้แอลกอฮอล์หรือน้ำยาฆ่าเชื้อสำหรับมือ 
    • หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้า
    • หลีกเลี่ยงสถานที่ที่ผู้คนแออัด อากาศไม่ถ่ายเท
    • ไม่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่
  2. การป้องกันการติดเชื้อและอาการรุนแรง โดยการเข้ารับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้มีโรคเรื้อรัง และผู้ที่เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน

> กลับสู่สารบัญ

วัคซีนไข้หวัดใหญ่

วัคซีนไข้หวัดใหญ่สามารถป้องกันการติดเชื้อ และลดภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อได้ แนะนำให้ฉีดซ้ำทุกปีก่อนถึงฤดูกาลของการระบาด คือ ช่วงหน้าฝนและหน้าหนาว วัคซีนจะสามารถป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์ที่เหมือนหรือคล้ายกับสายพันธุ์ของไวรัสที่ใช้ผลิตวัคซีนเท่านั้น โดยในแต่ละปีสายพันธุ์ที่ใช้ผลิตวัคซีนจะแตกต่างกันไปตามความคาดหมายว่าเชื้อสายพันธุ์ใดจะระบาดในปีนั้น ๆ ถ้าปีใดคาดหมายได้ถูกต้องก็จะป้องกันได้ดี

วัคซีนไข้หวัดใหญ่ เป็นวัคซีนเชื้อตาย มีแบบ 3 สายพันธุ์และ 4 สายพันธุ์ ในปัจจุบันยังมีวัคซีนแบบ 4 สายพันธุ์แบบขนาดสูง (high dose quadrivalent vaccine) เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้มากกว่าขนาดมาตรฐาน ซึ่งแนะนำให้ฉีดในผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป

ในประเทศไทยแนะนำให้ฉีดวัคซีนในกลุ่มที่เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงหากติดเชื้อ แต่ในสหรัฐอเมริกา CDC แนะนำให้ทุกคนที่อายุมากกว่า 6 เดือนฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี

> กลับสู่สารบัญ

สรุป

ไข้หวัดใหญ่เป็นโรคที่มีการระบาดทุกปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนถึงฤดูหนาว ทำให้เกิดอาการ เช่น มีไข้ ไอ เจ็บคอ ปวดกล้ามเนื้อ โดยความรุนแรงของอาการขึ้นอยู่กับสภาวะสุขภาพของผู้ป่วยแต่ละราย ในผู้ที่สุขภาพแข็งแรงอาจมีอาการไม่รุนแรง แต่ในผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน โรคปอด ภูมิคุ้มกันบกพร่อง ผู้ป่วยปลูกถ่ายไต หรือผู้ที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน อาจมีอาการรุนแรง และอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนจนทำให้เสียชีวิตได้ 

การฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ซึ่งจะมีการผลิตให้เหมาะสมกับสายพันธุ์ที่จะมีการระบาดในแต่ละปี จะช่วยลดอาการรุนแรงและลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายได้

คลิกดูแพ็กเกจที่เกี่ยวข้องที่นี่

วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์

รายละเอียด

ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกับ Praram 9 V ปรึกษาแพทย์ได้ทุกที่ผ่านทางวิดีโอคอล (Telemedicine)

สนใจนัดหมาย

> กลับสู่สารบัญ

บทความล่าสุด

ข้อเข่าเทียมมีกี่แบบ

ข้อเข่าเทียมมีกี่แบบ ต่างกันอย่างไร เลือกผ่าตัดแบบไหนให้เหมาะกับปัญหาข้อเข่าเสื่อม ของเรา?

อ่านเพิ่มเติม
เยื่อหุ้มสมองอักเสบ

เยื่อหุ้มสมองอักเสบเกิดจากอะไร รู้จักสังเกตอาการก่อนเป็นอันตรายถึงชีวิต

อ่านเพิ่มเติม
เลือดออกในสมอง

เข้าใจภาวะเลือดออกในสมอง วิกฤติสุขภาพที่อาจร้ายแรงถึงชีวิต

อ่านเพิ่มเติม
ดูบทความทั้งหมด

ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกับ Praram 9 V

ปรึกษาแพทย์ได้ทุกที่ผ่านทางวิดีโอคอล (Telemedicine)

  • Praram 9 Hospital
  • @praram9hospital

แพทย์ผู้เขียนบทความ

พญ.มัณฑนา สันดุษฎี

พญ.มัณฑนา สันดุษฎี

ศูนย์อายุรกรรม

นัดหมาย

ประวัติเพิ่มเติม

 

ศูนย์แพทย์

ศูนย์อายุรกรรม

ศูนย์อายุรกรรม

เยี่ยมชม

ดูทั้งหมด

บทความอื่นๆ

ข้อเข่าเทียมมีกี่แบบ

ข้อเข่าเทียมมีกี่แบบ ต่างกันอย่างไร เลือกผ่าตัดแบบไหนให้เหมาะกับปัญหาข้อเข่าเสื่อม ของเรา?

ข้อเข่าเทียมมีกี่แบบ? สามารถแบ่งการผ่าตัดข้อเข่าเทียมออกเป็น 2 แบบหลัก ๆ คือผ่าตัดใส่ผิวข้อเข่าเทียมบางส่วน และการผ่าตัดใส่ข้อเข่าเทียมทั้งหมด

อ่านเพิ่มเติม
เยื่อหุ้มสมองอักเสบ

เยื่อหุ้มสมองอักเสบเกิดจากอะไร รู้จักสังเกตอาการก่อนเป็นอันตรายถึงชีวิต

เยื่อหุ้มสมองอักเสบ (Meningitis) คือภาวะที่เยื่อหุ้มสมองและไขสันหลังเกิดการอักเสบบวมจนก่อให้เกิดอาการผิดปกติ ซึ่งสาเหตุมีทั้งจากการติดเชื้อและไม่ใช่จากการติดเชื้อ

อ่านเพิ่มเติม
เลือดออกในสมอง

เข้าใจภาวะเลือดออกในสมอง วิกฤติสุขภาพที่อาจร้ายแรงถึงชีวิต

เลือดออกในสมอง (Intracerebral Hemorrhage) คือภาวะเส้นเลือดในสมองแตก ทำให้เลือดไหลไปกดทับเนื้อเยื่อสมอง และเป็นสาเหตุของความพิการหรือเสียชีวิตในที่สุด

อ่านเพิ่มเติม
อ่านบทความทั้งหมด
Facebook-f Youtube Instagram Line
  • 1270
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • นัดหมาย
  • บทความสุขภาพ
  • แพ็กเกจ
  • ข่าว และกิจกรรม รพ.
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • นักลงทุนสัมพันธ์
  • การพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน
  • ร่วมงานกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • ข้อกำหนดและเงื่อนไข

Copyright © 2025 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital

  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • Health Guru
    • บทความสุขภาพ
    • Doctor’s Health Insights
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา