บทความสุขภาพ
Knowledge
เมื่อพูดถึง “ฝน” ทุกคนก็จะนึกถึงผลกระทบที่ตามมาอีกหลายอย่าง น้ำท่วมขัง เป็นแหล่งกำเนิดชั้นดีที่ก่อให้เกิด ยุง เพราะยุงเป็นพาหะของโรคไข้เลือดออกซึ่งเป็นที่รู้จักกันมานาน สามารถทำให้เกิดโรคได้ในทุกเพศทุกวัยและพบได้บ่อยในเด็ก
โรคไข้เลือดออก มักมีการระบาดมากในช่วงฤดูฝน โดยในปี พ.ศ. 2566 พบผู้ป่วยไข้เลือดออกในไทยเกือบ 40,000 ราย โดยพบในวัยทำงานมากที่สุด คือช่วงอายุ 25-34 ปี ซึ่งอาการเเรกเริ่มคล้ายกับโรคโควิด 19 เเละไข้หวัดใหญ่ ดังนั้นบางครั้งทำให้เกิดสับสนว่าอาการเป็นไข้นั้นใช่อาการของโรคไข้เลือดออกหรือไม่ และในปัจจุบันโรคไข้เลือดออกยังไม่มียารักษาเฉพาะ การรักษาเป็นการรักษาตามอาการเเละหากมีอาการรุนเเรงก็อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
โรคไข้เลือดออก คือโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี มียุงเป็นพาหะนำโรค โดยชื่อของโรคมาจากอาการหลังมีการติดเชื้อ ผู้ป่วยจะมีอาการมีไข้สูง และทำให้ร่างกายมีภาวะเลือดออกง่าย เนื่องจากเชื้อไวรัสจะทำให้เกล็ดเลือดในร่างกายต่ำลง ทำให้เลือดออกได้ง่ายทั้งในอวัยวะภายใน ตามผิวหนัง ตามเหงือกและไรฟัน ซึ่งหากอาการรุนแรงจนมีเลือดออกมาก ผู้ป่วยอาจมีอาการช็อกและเสียชีวิตได้
โรคไข้เลือดออก เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี (dengue virus) ที่มีพาหะนำโรคคือ “ยุงลาย” นำเชื้อไวรัสจากคนไปสู่คน โดยเฉพาะยุงลายตัวเมียที่ชอบหากินในเวลากลางวัน โดยไข้เลือดออกมีทั้งหมด 4 สายพันธุ์ คือ DENV-1, DENV-2, DENV-3 และ DENV-4 ซึ่งหากเคยได้รับการติดเชื้อในครั้งแรกแล้ว ร่างกายจะมีการจดจำเชื้อไวรัสเดงกีสายพันธุ์ที่เคยเป็นเอาไว้ เเละหากได้รับเชื้อคนละสายพันธุ์กับการเป็นไข้เลือดออกในครั้งที่สอง ร่างกายจะไม่สามารถทำลายเชื้อได้ทำให้เกิดอาการที่มีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
โดยทั่วไปไข้เลือดออกจะมีอาการน้อยหรือแทบไม่มีอาการเลย โดยจะพบอาการเบื้องต้นดังนี้
แต่ในผู้ป่วยบางรายที่อาการรุนแรงอาจพบอาการ เช่น
หากมีอาการดังกล่าวควรรีบเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน
เชื้อไข้เลือดออกมีระยะฟักตัวในยุงประมาณ 8-12 วัน เเล้วหลังจากนั้นเมื่อยุงไปกัดคน เชื้อก็จะเข้าสู่กระแสเลือด ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการแสดง 4-10 วันภายหลังการรับเชื้อ หรืออาจเริ่มมีอาการรุนเเรงในช่วง 2-7 วันหลังไข้ลดลง ซึ่งในระยะอาการรุนแรงหลังจากที่ไข้ลดลงนี้ ผู้ป่วยจะมีความเสี่ยงต่อภาวะเลือดออกง่าย ดังนั้นควรหมั่นสังเกตอาการ และหลีกเลี่ยงปัจจัยความเสี่ยงต่อภาวะเลือดออกง่าย และหากอาการรุนแรงต้องนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลทันที
ไข้เลือดออกสามารถติดต่อจากคนสู่คนได้โดยมียุงเป็นพาหะ คือ เมื่อยุงกัดผู้ที่มีเชื้อไข้เลือดออกก็จะรับเชื้อไข้เลือดออกมา เเล้วก็จะสามารถเเพร่เชื้อให้คนที่ยุงกัดต่อ ๆ ไปได้
ไข้เลือดออกจะทำให้เกล็ดเลือดลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว หากลดลงต่ำกว่า 100,000 ตัว/ลบ.มม. ผู้ป่วยจะมีความเสี่ยงต่อภาวะเลือดออกในอวัยวะภายใน เเละอาจมีอาการรุนเเรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
ไข้เลือดออกยังไม่มียารักษาเฉพาะ โดยทั่วไปจะรักษาตามอาการร่วมกับการให้ยาลดไข้เเละอาการปวด โดยใช้ยา พาราเซตามอล เเละหลีกเลี่ยงยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs เช่น ไอบูโพรเฟน (ibuprofen) เเละ ยาเเอสไพริน (aspirin) เนื่องจากสามารถทำให้มีความเสี่ยงให้เลือดออกมากขึ้น เเละทำให้อาการแย่ลง ในเด็กเล็กผู้ปกครองควรเช็ดตัวลดไข้ร่วมด้วย เพื่อป้องกันการชักในเด็ก
หากสงสัยว่าเป็นไข้เลือดออก ควรรีบพบเเพทย์เพื่อตรวจร่างกาย เเละวินิจฉัยอย่างละเอียด โดยเเพทย์จะเจาะเลือดเพื่อติดตามดูปริมาณเกล็ดเลือดอย่างต่อเนื่อง เพราะหากเป็นไข้เลือดออกครั้งที่ 2 โดยติดเชื้อคนละสายพันธุ์กับครั้งเเรก อาการจะรุนเเรงเเละเกล็ดเลือดลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว ทำให้มีเลือดออกบริเวณอวัยวะภายใน และอาจรุนเเรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
ไข้เลือดออกสามารถหายได้เองภายใน 7-14 วัน ในกรณีที่ไม่มีอาการรุนเเรงเเละเป็นการติดเชื้อครั้งเเรก
เเต่จำเป็นต้องสังเกตอาการอย่างละเอียดภายหลังไข้ลดลง เพราะอาจพบอาการรุนเเรงขึ้นได้
ไข้เลือดออกเป็นโรคที่มักพบการเเพร่ระบาดในฤดูฝน โดยปกติผู้ป่วยมักมีอาการไม่รุนเเรง เเต่จะมีอาการรุนเเรงในกรณีติดเชื้อครั้งที่สอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการติดเชื้อคนละสายพันธุ์กับครั้งเเรก
การป้องกันโรคไข้เลือดออกที่ดีที่สุดคือการป้องกันไม่ให้ยุงกัด เเละการฉีดวัคซีนไข้เลือดออกซึ่งจะเหมาะสำหรับผู้ที่เคยมีประวัติเป็นไข้เลือดออกมาก่อน โดยวัคซีนจะช่วยลดการติดเชื้อซ้ำเเละลดอาการรุนเเรง
หากมีอาการที่เข้าได้ หรือสงสัยว่าเป็นไข้เลือดออกควรรีบพบเเพทย์เพื่อตรวจรักษาอย่างละเอียด เนื่องจากอาจมีอาการรุนเเรงถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้
ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกับ Praram 9 V ปรึกษาแพทย์ได้ทุกที่ผ่านทางวิดีโอคอล (Telemedicine)
เกี่ยวกับผู้เขียนบทความ
แพ็กเกจที่เกี่ยวข้อง (0)
ดูทั้งหมด
บทความที่เกี่ยวข้อง (10)
ดูทั้งหมด
Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital