บทความสุขภาพ
Knowledge
พญ. ณัฐกานต์ มยุระสาคร
ภาวะ DKA (Diabetic Ketoacidosis) หรือภาวะน้ำตาลในเลือดสูงร่วมกับเลือดเป็นกรด เป็นภาวะฉุกเฉินที่พบได้ในผู้ป่วยเบาหวาน แต่เดิมพบบ่อยในผู้ป่วยเบาหวานชนิดพึ่งอินซูลิน(เบาหวานชนิดที่หนึ่ง) ปัจจุบันพบได้บ่อยขึ้นในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่สอง ซึ่งเป็นผู้ป่วยกลุ่มใหญ่ของโรคเบาหวาน ภาวะ DKA เป็นภาวะฉุกเฉินที่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน ดังนั้นผู้ป่วยและคนใกล้ชิดควรทำความเข้าใจถึงภาวะนี้ อาการ ปัจจัยเสี่ยงและทราบถึงอันตราย เพื่อเตรียมตัวรับมือและหาแนวทางป้องกันที่เหมาะสมได้
ภาวะ DKA คือภาวะระดับน้ำตาลในเลือดสูงร่วมกับภาวะเลือดเป็นกรดจากการที่มีสารคีโตนสะสมในเลือด
ผู้ป่วยจะมีอาการของน้ำตาลในเลือดสูง เช่น ปัสสาวะบ่อย คอแห้ง กระหายน้ำ รวมกับ อาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง อ่อนเพลียไม่มีแรง หอบเหนื่อย ลมหายใจมีกลิ่นผลไม้ ชีพจรเต้นเร็ว ความดันโลหิตต่ำ หากเป็นมากขึ้นจะมีอาการสับสน อาจเกิดภาวะช็อค หมดสติ และตรวจพบระดับน้ำตาลในเลือดมากกว่า 250 มก. ต่อดล. ต้องระวังในผู้ป่วยที่กินยาเบาหวานบางกลุ่มอาจเกิดภาวะ DKA ได้ที่ระดับน้ำตาลต่ำกว่า 250 มก. ต่อดล.
ภาวะ DKA เกิดจากปัจจัย 3 อย่าง รวมกัน ได้แก่
หากมีปัจจัย 3 อย่างร่วมกัน ผู้ป่วยและคนดูแล ควรหมั่นสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด
เมื่อเกิดภาวะเครียดของร่างกายดังกล่าวข้างต้น กลไกของร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนกลุ่มหนึ่งซึ่งมีฤทธิ์ตรงข้ามกับอินซูลิน เรียกว่า Counter-regulatory hormone เช่น คอร์ติซอล อะดรีนาลิน และกลูคากอน ฮอร์โมนเหล่านี้ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น โดยการเปลี่ยนไขมันเป็นน้ำตาล ซึ่งมีข้อดีทำให้ร่างกายได้พลังงานเพิ่มขึ้น แต่การเปลี่ยนไขมันเป็นน้ำตาลนี้ได้ของแถมเป็นสารคีโตน ซึ่งเมื่อคีโตนสะสมมาก ๆ ทำให้เลือดเป็นกรด เมื่อคีโตนคั่งทำให้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย และหอบเหนื่อยดังกล่าวข้างต้น
ผู้ป่วยเบาหวานจะมีข้อปฏิบัติยามมีอาการเจ็บป่วยเฉียบพลัน ( sick-day rules) เช่น มีไข้ คลื่นไส้ เพื่อป้องกันการเกิดภาวะ DKA ได้แก่
“พยายามกินคาร์โบไฮเดรต – ดื่มน้ำเปล่ามากขึ้น – อย่าหยุดยาฉีดอินซูลินเอง –ตรวจน้ำตาลบ่อยขึ้น –และมาโรงพยาบาลเมื่อไม่ดีขึ้น”
ผู้ป่วยจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลซึ่งมักเป็นหอผู้ป่วยวิกฤต (ICU) การรักษา ได้แก่
ในการรักษาอาจพบภาวะแทรกซ้อน เช่น ภาวะเกลือแร่โปแตสเซียมต่ำ ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำภาวะน้ำเกิน น้ำท่วมปอด ซึ่งมักเป็นภาวะแทรกซ้อนที่รักษาได้ และเมื่อผู้ป่วยตอบสนองต่อการรักษา อาการจะดีขึ้นใน 12-24 ชั่วโมง ระดับน้ำตาลในเลือด และความเป็นกรดด่างกลับสู่สภาวะปกติ แต่ในบางครั้งก็อาจมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้ป่วยหายจากภาวะ DKA แพทย์จะวางแผนการรักษา ปรับยาและพฤติกรรม เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดภาวะ DKA อีกในอนาคต
Diabetic ketoacidosis (DKA) เป็นภาวะน้ำตาลในเลือดสูงร่วมกับเลือดเป็นกรดจากสารคีโตน มักพบในผู้ป่วยเบาหวานที่ฮอร์โมนอินซูลินไม่เพียงพอ และมีภาวะเครียดของร่างกาย โดยหากมีอาการแนะนำให้รีบพาผู้ป่วยเข้ารักษาในโรงพยาบาล ดังนั้นผู้ป่วยและคนใกล้ชิดควรมีความเข้าใจเกี่ยวกับภาวะ DKA การปฏิบัติตัวยามเจ็บป่วย และสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด เพื่อเข้ารับการรักษาได้อย่างทันท่วงที
ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกับ Praram 9 V ปรึกษาแพทย์ได้ทุกที่ผ่านทางวิดีโอคอล (Telemedicine)
เกี่ยวกับผู้เขียนบทความ
แพ็กเกจที่เกี่ยวข้อง (0)
ดูทั้งหมด
บทความที่เกี่ยวข้อง (10)
ดูทั้งหมด
Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital