ศูนย์เบาหวานและเมตาบอลิก

...

เบาหวานเป็นโรคเรื้อรัง เป็นอีกหนึ่งภัยเงียบที่พบบ่อย สามารถเกิดได้กับทุกเพศ ทุกวัย เกิดจากเซลล์ร่างกายมีความผิดปกติในการนำน้ำตาลจากในกระแสเลือดมาใช้เป็นพลังงาน โดยเกี่ยวข้องกับฮอร์โมนอินซูลินที่สร้างจากตับอ่อน เมื่อฮอร์โมนอินซูลินหลั่งออกมาไม่เพียงพอ หรือเซลล์ร่างกายไม่ตอบสนองต่ออินซูลิน เป็นภาวะที่เรียกว่า “ภาวะดื้อต่ออินซูลิน” มีผลทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงอย่างต่อเนื่อง เมื่อสะสมเป็นระยะเวลานาน ไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่ออวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย เป็นภาวะเลือดเลี้ยงไม่เพียงพอ เนื่องจากหลอดเลือดแดงตีบตัน เช่น โรตไตวาย โรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง โรคเส้นประสาทส่วนปลาย แผลเบาหวาน รวมถึงภาวะแทรกซ้อนแบบเฉียบพลัน เช่น ภาวะโคม่าจากน้ำตาลในเลือดสูง (Hyperosmolar Hyperglycemic State; HHS) ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงร่วมกับภาวะเลือดเป็นกรด (Diabetic Ketoacidosis; DKA) และภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemia) เป็นต้น


ปัจจัยเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน ได้แก่


  • อายุมากกว่า 35 ปี
  • ภาวะอ้วน ดัชนีมวลกายมากกว่าหรือเท่ากับ 25 กก.ต่อ ตร.ม. และมีประวัติ พ่อ แม่ พี่ หรือน้องเป็นเบาหวาน
  • เป็นโรคความดันโลหิตสูงหรือรับประทานยาอยู่
  • ระดับไขมันในเลือดผิดปกติ (ไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ มากกว่าหรือเท่ากับ 250 มก.ต่อดล. และหรือไขมันดี HDL ต่ำกว่า 35 มก.ต่อดล.)
  • มีประวัติเป็นโรคเบาวานตั้งครรภ์หรือเคยคลอดบุตรน้ำหนักแรกเกิดมากกว่า 4 กก.
  • ตรวจเลือดเป็นเบาหวานแฝง ระดับน้ำตาลในเลือดขณะงดอาหาร ( Fasting Blood Sugar) 100-125 มก.ต่อดล. หรือ น้ำตาลหลังทดสอบดื่มกลูโคส 75 กรัม 2 ชม. 140-199 มก.ต่อดล.
  • มีโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • กลุ่มอาการถุงน้ำรังไข่หลายใบ (Polycystic Ovarian Syndrome)
  • มีภาวะดื้ออินซูลิน เช่น โรคอ้วนอันตราย ( ดัชนีมวลกายมากกว่าหรือเท่ากับ 40) มี Acanthosis Nigrican ผิวหนังบริเวณคอ ข้อพับหนาตัวมีสีคล้ำน้ำตาล
  • ติดเชื้อไวรัส HIV หรือโรค AIDS

หรืออาจสังเกตอาการของโรค ได้แก่


  • รู้สึกกระหายน้ำมากกว่าปกติ
  • ปัสสาวะบ่อย
  • น้ำหนักตัวลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ
  • ตาพร่า ตามัว
  • มีแผลหายช้า
  • ชาบริเวณปลายมือปลายเท้า
  • รู้สึกเหนื่อย อ่อนเพลีย
  • รู้สึกหงุดหงิดหรืออารมณ์แปรปวน

หากเข้าข่ายความเสี่ยงควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยโรคและนำไปสู่การป้องกันและการรักษาที่เหมาะสม


ข้อมูลเกี่ยวกับโรคเบาหวาน


การให้บริการของศูนย์เบาหวานและเมตาบอลิก รพ.พระรามเก้า


การรักษาดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวาน เป็นการดูแลแบบองค์รวม ทั้งโรคเบาหวาน และโรคร่วม เช่น ภาวะอ้วน ไขมันในเลือดสูง ไขมันในเลือดผิดปกติ ความดันโลหิตสูง ภาวะตับอักเสบจากไขมันเกาะตับ หรือโรคซึมเศร้า เป็นต้น


ศูนย์เบาหวานและเมตาบอลิก รพ.พระรามเก้า ให้การดูแลแบบสหวิชาชีพ มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเบาหวานและโรคเมตาบอลิก พยาบาลเบาหวาน นักโภชนาการผู้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ที่จะคอยให้คำปรึกษาและคำแนะนำ ดูแล ประเมินผล รักษา ตลอดจนติดตามผลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด พร้อมอุปกรณ์การแพทย์และเครื่องมือที่ทันสมัย รวมถึงประสานงานกับศูนย์การแพทย์อื่น เพื่อการรักษาครบวงจร เพื่อความสุขในการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพและยืนยาว ตามคำมั่นสัญญาที่ว่า “Healthcare you can trust”


ด้านการตรวจวินิจฉัยโรคเบาหวาน


  • การตรวจระดับน้ำตาลในเลือดหลังจากการงดรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่ให้พลังงาน (Fasting Blood Sugar; FBS) เป็นการวัดระดับน้ำตาลในเลือดหลังงดอาหารอย่างน้อย 8 ชั่วโมง เพื่อประเมินระดับน้ำตาลในเลือด
  • การตรวจค่าน้ำตาลสะสมหรือระดับฮีโมโกลบินเอวันซี (HbA1c) เป็นค่าแสดงระดับน้ำตาลในเลือดในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา เพื่อการวินิจฉัยโรคเบาหวานในผู้ที่ระดับน้้ำตาลในเลือดหลังการงดอาหารอาจจะไม่สูงชัดเจน และใช้เพื่อติดตามพฤติกรรมการรับประทานอาหารของผู้ป่วย เพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการวางแผนการรักษา
  • การตรวจความทนกลูโคส (Oral Glucose Tolerance Test; OGTT]) การทดสอบความทนทานต่อน้ำตาลของร่างกายเพื่อประเมินว่าผู้ถูกทดสอบมีสัญญาณของภาวะก่อนเบาหวานหรือเป็นโรคเบาหวานแล้ว
  • การตรวจค่าระดับน้ำตาลในเลือด ณ เวลาใดก็ได้ (Random Plasma Glucose) โดยไม่ต้องมีการงดเครื่องดื่มและอาหารก่อนตรวจ เพื่อวัดระดับน้ำตาลในเลือด แล้วนำค่าที่ได้ไปพิจารณาร่วมกับอาการของผู้ป่วย เพื่อวินิจฉัยโรคเบาหวาน

ด้านการรักษาโรคเบาหวาน


ให้บริการการรักษาโรคเบาหวานทั้งการรักษาด้วยยารับประทาน ยาฉีดอินซูลิน รวมถึงยากลุ่มใหม่ที่ช่วยควบคุมน้ำหนักตัว และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อควบคุมอาการ และป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ รวมทั้งการติดตามการรักษา


การบริการอื่น ๆ


  • ประเมินภาวะเสี่ยงก่อนการเป็นเบาหวาน รวมทั้งวิธีป้องกันโรคเบาหวาน
  • ให้คำแนะนำในการการควบคุมระดับน้ำตาลให้ใกล้เคียงกับคนปกติ ในผู้ป่วยเบาหวานเพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ
  • ให้บริการเครื่องตรวจน้ำตาลแบบต่อเนื่อง (continuous glucose monitoring; CGM)
  • การตรวจเพื่อประเมินภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน
  • ให้บริการตรวจรักษาหญิงที่เป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ เพื่อให้คลอดทารกอย่างปลอดภัยและมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง
  • ให้บริการโปรแกรมลดน้ำหนักเพื่อป้องกันโรคเบาหวานและความเสี่ยงที่จะเกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคความดันสูง โรคไขมันในเลือด และโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • ให้บริการรักษาโรคแทรกซ้อนจากเบาหวาน เช่น โรคทางระบบหลอดเลือด การรักษาแผลที่หายยาก การรักษาโรคแทรกซ้อนทางระบบประสาท การผ่าตัดหลอดเลือดเพื่อรักษาเท้า
  • ให้บริการความรู้เรื่องการปฏิบัติตัวสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
  • ให้การตรวจวินิจฉัยและรักษาโรคทางระบบต่อมไร้ท่อ (ฮอร์โมน)
  • ให้บริการโปรแกรมตรวจสุขภาพเบาหวานประจำปี

ติดต่อสอบถามศูนย์เบาหวานและเมตาบอลิก รพ.พระรามเก้า

ศูนย์เบาหวานและเมตาบอลิก ชั้น 3 อาคาร A โรงพยาบาลพระรามเก้า

เลขที่ 99 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310

โทรศัพท์: 1270

เวลาทำการ

วันจันทร์-วันเสาร์ : เวลา 9.00 – 20.00 น.

วันอาทิตย์ : เวลา 8.00 – 16.00 น.

แพทย์ประจำศูนย์

แพทย์ทั้งหมดในศูนย์

นพ. สุรัติ  นัยวัฒนกุล

นพ. สุรัติ นัยวัฒนกุล

ศูนย์เบาหวานและเมตาบอลิก

นพ. อมรพรรณ เลิศฤทธิ์

นพ. อมรพรรณ เลิศฤทธิ์

ศูนย์เบาหวานและเมตาบอลิก

นพ. เอกสิทธิ์ วาณิชเจริญกุล

นพ. เอกสิทธิ์ วาณิชเจริญกุล

ศูนย์เบาหวานและเมตาบอลิก

พญ. ณัฐกานต์  มยุระสาคร

พญ. ณัฐกานต์ มยุระสาคร

ศูนย์เบาหวานและเมตาบอลิก

พญ. มุจลินท์  โอวาทฬารพร

พญ. มุจลินท์ โอวาทฬารพร

ศูนย์เบาหวานและเมตาบอลิก

พญ. อารีสา มโนชญ์ปิติพงศ์

พญ. อารีสา มโนชญ์ปิติพงศ์

ศูนย์เบาหวานและเมตาบอลิก

บทความสุขภาพที่เกี่ยวข้อง

ดูทั้งหมด

การเสียชีวิตและภาวะแบคทีเรียกินเนื้อ จากการรับประทานหอยนางรมดิบ

การรับประทานอาหารทะเลดิบ เช่น หอยนางรมดิบ อาจทำให้เสี่ยงติดเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดแผลติดเชื้อ และภาวะเนื้อตาย หากมีบาดแผลจะทำให้แบคทีเรียเข้าสู่ร่างกายได้ วิธีป้องกันควรหลีกเลี่ยงอาหารทะเลดิบ และหากมีบาดแผลไม่ควรสัมผัสน้ำทะเล และควรทำความสะอาดแผลอย่างถูกต้อง

ภาวะเลือดเป็นกรด DKA ในผู้ป่วยโรคเบาหวาน ที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

ภาวะ DKA คือ ภาวะที่เลือดเป็นกรดจากการคั่งของสารคีโตนร่วมกับมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง

อวสาน น้ำตาลเทียม …. จริงหรือ?

สารให้ความหวานเป็นตัวช่วยควบคุมระดับน้ำตาลและน้ำหนัก แต่หลายคนอาจกังวลถึงผลในระยะยาวต่อสุขภาพ ล่าสุดองค์การอนามัยโลกได้แนะนำว่า สารให้ความหวานไม่ใช่ทางเลือกในการลดน้ำหนักและป้องกันโรค ควรรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลตามธรรมชาติ ลดอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลแทน

พิษไซยาไนด์ และยาต้านพิษ การช่วยชีวิตคนถูกพิษไซยาไนด์

พิษไซยาไนด์ สารพิษร้ายแรงทำให้เสียชีวิตภายในเวลาเป็นนาทีถึงชั่วโมง ถ้าสามารถวินิจฉัยได้ สามารถช่วยชีวิตได้ทันเนื่องจากมียาแก้พิษ (Antidote) โดยเฉพาะ

เบาหวาน รู้ไว้เบาใจกว่า

เบาหวานเป็นโรคที่ผู้ป่วยมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงอย่างต่อเนื่องเรื้อรัง ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนและโรคอื่น ๆ ตามมาได้ ดังนั้นจึงควรป้องกันไม่ให้ป่วยเป็นโรคเบาหวาน และหากเป็นโรคเบาหวานแล้ว ควรรักษาสุขภาพและปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ

การตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตนเอง ทางเลือกควบคุมน้ำตาลสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน

การตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตนเองด้วยเครื่องตรวจน้ำตาลที่ปลายนิ้ว ช่วยให้ผู้ป่วยเบาหวานทราบระดับน้ำตาลของตนเองเมื่อมีอาการผิดปกติต่าง ๆ ป้องกันภาวะน้ำตาลตก ช่วยให้ผู้ป่วยควบคุมระดับน้ำตาลสะสมในเลือดได้ดีขึ้น และลดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ จากโรคเบาหวาน

“น้ำตาลในเลือดต่ำ”…ภาวะอันตรายในผู้ป่วยเบาหวาน

น้ำตาลในเลือดต่ำ (hypoglycemia) เกิดได้บ่อยในผู้ป่วยเบาหวาน เป็นภาวะที่อันตราย หากปล่อยไว้อาจทำให้ผู้ป่วยหมดสติ และเสียชีวิตได้ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขหรือรักษาอย่างถูกต้อง และควรหาสาเหตุร่วมกับแพทย์เพื่อการรักษาและป้องกันอย่างเหมาะสม

โรคอ้วน โรคเบาหวาน เพิ่มความเสี่ยงอาการรุนแรง จากติดโควิด 19

คนที่เป็นโรคอ้วน ส่วนใหญ่มักจะมีโรคประจำตัวเรื้อรังอื่น ๆ ด้วย เช่น โรคเบาหวาน จึงควรรีบฉีดวัคซีนแต่เนิ่น ๆ

ปากกาลดน้ำหนัก…ตัวช่วยลดน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพ

โรคอ้วนหรือภาวะน้ำหนักเกินนำไปสู่การเกิดโรคต่าง ๆ ปัจจุบันมีทางเลือกในการรักษาโรคอ้วนโดยใช้ “ปากกาลดน้ำหนัก” ที่ให้ผลในการรักษาที่ดี ช่วยทำให้การลดน้ำหนักมีประสิทธิภาพและปลอดภัย เหมาะสำหรับผู้ที่พยายามลดน้ำหนักด้วยวิธีต่าง ๆ มาแล้วไม่เห็นผล

โรคเมตาบอลิก (metabolic syndrome) จุดเริ่มต้นของโรคเรื้อรังอื่น ๆ

โรคเมตาบอลิกเป็นกลุ่มโรคที่ระบบเผาผลาญของร่างกายผิดปกติ มีภาวะอ้วนลงพุง มีภาวะดื้อต่อฮอร์โมนอินซูลิน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ ตามมา เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูงและปัญหาสุขภาพอื่น ๆ การหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ จะช่วยป้องกันและลดการเกิดโรคเมตาบอลิกได้