บทความสุขภาพ

Knowledge

จิตเวช: จาก I.Q. ถึง E.Q. สู่ A.Q.

จิตเวช: จาก I.Q. ถึง E.Q. สู่ A.Q.

จาก I.Q. ถึง E.Q. สู่ A.Q.

ศ.กิตติคุณ พ.ญ.พยอม อิงคตานุวัฒน์


E.Q. หรือ Emotional Quotient ที่เรียก E.Q. เพราะต้องการให้สัมผัสกับ I.Q. ตามตำราที่ถูกต้อง จะเรียกชื่อเต็มว่า Emotional Intelligence


E.Q. หรือ Emotional Intelligence หมายถึงความสามารถทางอารมณ์ของแต่ละบุคคล ซึ่งประกอบด้วย

  1. ความสามารถในการควบคุมอารมณ์ของตัวเอง (Self Control)
  2. ความสามารถในการรับรู้อารมณ์ของผู้อื่นและของตนเอง (Knowingone’s emotions)
  3. ความสามารถในการแสดงออกซึ่งความมั่นคงของอารมณ์ ไม่หวั่นไหวง่าย รวมทั้งปฎิกริยาระหว่างบุคคลและปฎิกริยากับสิ่งแวดล้อม เพื่อให้สอดคล้องและสัมพันธ์กับเหตุการณ์
  4. ความสามารถที่ทำให้มีอารมณ์กระตือรือร้น อันจะก่อให้เกิดแรงจูงใจแล้วนำไปสู่ความสำเร็จส่วนตัว และความเจริญก้าวหน้าของสังคม

ความสามารถในการควบคุมอารมณ์ของตัวเอง Self-controlหมายถึงความสามารถควบคุมการแสดงออกทาง กาย วาจา และสีหน้าได้ สมเหตุสมผล ตามแบบฉบับที่สังคมกำหนดไว้ หรือเป็นแบบฉบับซึ่งเป็นที่ยอมรับของสังคมที่เราดำรงชีวิตอยู่ เช่น การทักทายกันและกันสีหน้าก็ยิ้มแย้มแจ่มใส และใช้วาจาสุภาพ หรือ สามารถควบคุมอารมณ์ให้อยู่ในศีลธรรมอันดีงาม เห็นของ ๆ ผู้อื่นซึ่งไม่ใช่ของตนก็อยากได้ ถ้าไม่มี E.Q. ควบคุมให้อยู่ในศีลธรรมอันดีงาม ก็จะละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่นโดยหยิบหรือขโมยไป ย่อมเป็นปัญหาของสังคมตามที่ท่านได้เคยพบเห็นมาแล้ว ความสามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการเสริมสร้างบุคลิกภาพให้น่าดูน่าชมทุกคนที่พบเห็นอยากติดต่อคบค้าสมาคมด้วย


1997 Mayer และ Salo กล่าวว่าบุคคลใดก็ตามที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ ถึงแม้จะมีสติปัญญาเฉียบแหลม แต่ความคิดสร้างสรรค์ก็ไม่อาจจะเกิดขึ้นได้ เช่น ในปี 1998 ประธานาธิบดี บิล คลินตัน แห่งสหรัฐอเมริกา ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ทางเพศได้ นำไปสู่พฤติกรรมที่ขาดศีลธรรมเกิดเรื่องอื้อฉาวตามที่ทราบกันทั่วโลก ทำให้รัฐบาลสหรัฐอเมริกา ตัองใช้เงินในการสอบสวนหลาย 10 ล้านเหรียญ เพราะสติปัญญาที่เฉียบแหลมถูกครอบงำด้วยอารมณ์ทางเพศแล้วไม่สามารถควบคุมอารมณ์นั้น ๆ ได้ จึงประพฤติผิดศีลธรรมอันดีงามทั้ง ๆ ที่เป็นผู้นำชาติระดับโลก หรือในบางคนที่ควบคุมอารมณ์โกรธ อารมณ์อิจฉาของตัวเองไม่ได้ ก็จะทำให้พฤติกรรมที่แสดงออกขาดความเหมาะสม เพราะฉนั้น ความสามารถทางอารมณ์จะต้องควบคู่ไปกับความสามารถทางสติปัญหา จึงจะช่วยให้บุคคลนั้น ๆ ประสบความสำเร็จหรือมี A.Q. (Adversity Quotient) นั่นเอง


ความสามารถในการรับรู้อารมณ์ของผู้อื่นและอารมณ์ของตัวเอง

เมื่อต่างฝ่ายต่างเข้าใจอารมณ์ของตนเอง และของผู้อื่นที่เกี่ยวข้องด้วยก็จะทำให้เกิดความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน มีความอดทน มีความห่วงใยช่วยเหลือซึ่งกันและกันทำให้เกิดความผูกพันทางอารมณ์ ผลที่ได้รับคือทำให้พฤติกรรมที่แสดงออกต่อกัน สมเหตุ สมผล นำไปสู่ความรับผิดชอบต่อกันแล้วรับผิดชอบต่อสังคมร่วมกัน จึงทำให้สังคมไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ เจริญก้าวหน้า เป็นความรับผิดชอบต่อสังคม (Social Responsibility) ที่สำคัญที่ทำให้ทุกคนในสังคมมีความสุข และทำให้สังคมคงรูปอยู่ได้ไม่ปั่นป่วน การขาด E.Q. ในด้าน Social Responsibility สังคมจะมีแต่ความเดือดร้อน คนส่วนใหญ่หาความสุขไม่ได้ดังที่ปรากฎอยู่ในขณะนี้ ผู้นำครอบครัวผู้นำองค์กรหรือผู้นำประเทศถึงแม้จะมี I.Q. สูงมากสักปานใดแต่ถ้าขาด E.Q. หรือ Emotional Intelligence ก็จะขาดความสามารถในการควบคุมอารมณ์ของตนเอง (Self Control) ตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้น แล้วยังขาด E.Q. ในส่วนของ Social Responsibility อีก ย่อมไม่อาจนำความเจริญมาสู่ครอบครัว สู่องค์กรหรือสู่ประเทศชาติได้


ความสามารถในการแสดงออกซึ่งความมั่นคงของอารมณ์ (Emotional stability) เป็นสิ่งจำเป็นที่จะทำให้การดำรงชีวิตประจำวันของตนเอง ของผู้อยู่ร่วมด้วยตลอดจนบุคคลในสังคมรอบตัวมีความสุขและราบรื่น ทำให้มีคนอยากติดต่อด้วยอยากอยู่ใกล้ ๆ เพราะพูดคุยด้วยแล้วมีความสุข ในทางตรงข้ามผู้ที่มีอารมณ์ไม่มั่นคง โกรธง่าย โกรธบ่อย โกรธรุนแรงไม่สมเหตุสมผล อารมณ์ไม่แน่นอน วันนี้ทักทายยิ้มแย้มดี พรุ่งนี้อาจจะไม่มองหน้าไม่พูดด้วย หรือในวันเดียวกันอาจจะมีหลายอารมณ์ เช่น เสียใจง่าย เสียใจบ่อย หรือโกรธบ่อยโดยไม่มีเหตุ ตลอดวัน อาจจะอารมณ์ไม่แจ่มใสไม่ยิ้มแย้ม แล้วจะมีใครอยากเข้าใกล้หรืออยากคบหาสมาคมด้วย ความสามารถในการแสดงออกซึ่งความมั่นคงทางอารมณ์ (Emotional Stability) จะทำให้ความสัมพันธ์ดีทุกระดับ เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่กับลูก ครูกับนักเรียน


นายจ้างกับลูกจ้างหรือผู้บริหารประเทศกับประชาชน ซึ่งจะนำไปสู่การร่วมมือในทางสร้างสรรค์ทุกระดับชั้นของสังคมตั้งแต่ระดับครอบครัวไปจนถึงระดับประเทศ


ความสามารถที่ทำให้มีอารมณ์กระตือรือร้น เกิดแรงจูงใจที่จะต่อสู้อุปสรรคทั้งมวล เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จส่วนตัว แล้วความเจริญของสังคมนั้น ๆ ย่อมเป็นผลตามมาอย่างแน่นอน


สังคมใดที่มีทรัพยากรมนุษย์ที่มี E.Q. สูงทั้ง 4 องค์ประกอบดังกล่าวมาแล้วข้างต้น อันได้แก่ :-


  • ความสามารถในการควบคุมอารมณ์ของตัวเอง
  • ความสามารถในการรับรู้อารมณ์ของผู้อื่นและของตนเอง
  • ความสามารถในการแสดงออกซึ่งความมั่นคงของอารมณ์
  • ความสามารถที่ทำให้เกิดอารมณ์กระตือรื้นร้น

บุคคลนั้นๆ ก็จะเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่ทำให้เกิดพฤติกรรมในทางสร้างสรรค์ทุกรูปแบบต่อสังคมที่บุคคลนั้น ๆ ดำรงชีวิตอยู่ ฉะนั้นจึงเห็นได้ว่า I.Q. และ E.Q. จะนำท่านไปสู่ A.Q. (Adversity Quotient = ความสามารถสู่ความสำเร็จ) ด้วย


E.Q. หรือความสามารถทางอารมณ์พัฒนาพร้อมๆ กับ I.Q. และการพัฒนาของ E.Q. ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่อไปนี้

  1. ปัจจัยทางพันธุกรรม โดยได้พื้นของอารมณ์จากบรรพบุรุษถ่ายทอดสู่ลูกหลาน ถ้าพื้นของอารมณ์ดีไม่หงุดหงิดจะทำให้ E.Q. ดี
  2. สภาวะทางอารมณ์ของแม่ขณะตั้งครรภ์ พ่อมีอิทธิพลมากต่อความมั่นคงทางอารมณ์ของแม่ในระหว่างตั้งครรภ์
  3. ท่าทีในการเลี้ยงดูอบรมของพ่อแม่ ให้ลูกได้เรียนรู้ตามวัย ว่าสิ่งใดดีควรทำ สิ่งใดไม่ดีไม่ควรทำ และเรียนรู้การแสดงออกของอารมณ์ให้สมวัย
  4. การเลียนแบบอย่างของ E.Q. จากพ่อแม่ที่บ้านหรือภายในครอบครัว

การเลียนแบบอย่างของครูเมื่อถึงวัยออกสู่สังคมนอกบ้านแห่งแรกคือโรงเรียน นอกจากนั้นแล้วยังเลียนแบบ E.Q. ของของบุคคลรอบตัวในสังคมซึ่งขยายตัวกว้างขวางมากขึ้นตามวัยที่ผ่านเข้ามาในชีวิตประจำวันของเด็ก ในที่สุด E.Q. ก็จะพัฒนาจนเป็นส่วนหนึ่งของบุคคลิกภาพเมื่อเข้าวัยผู้ใหญ่ตอนต้น (Early Adulthood)


ฉนั้นผู้ที่มี I.Q. อยู่ในเกณฑ์ปกติแล้วมี E.Q. พัฒนาถึงวุฒิภาวะตามวัยดังกล่าวมาแล้วข้างต้นก็จะมี A.Q. พัฒนาตามมาด้วย ซึ่งท่านจะติดตามเรื่อง A.Q. ได้จาก “ 9 ทันโรค” ฉบับหน้า

บทความที่เกี่ยวข้อง (10)

ดูทั้งหมด

คุณเป็นโรคภูมิแพ้…จริงหรือ…?

คนทั่วไปเมื่อมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหลเรื้อรัง หรือเป็นๆ หายๆ มักจะบอกว่า เป็นโรคภูมิแพ้ หรือไม่ก็เข้าใจว่าตนเป็นหวัด หวัด เกิดจากการติดเชื้อไวรัส คนทั่วไปมักเป็นได้ปีละ 4 – 5 ครั้งก็มากเกินปกติแล้ว อาการหวัดมักเป็นอยู่ 3 – 4 วัน

โรคไข้อีดำอีแดง โรคที่เกิดจากพิษของเชื้อแบคทีเรีย

ข้อมูลจาก สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย โรคไข้อีดำอีแดงหรือ scarlet fever เป็นโรคที่เกิดจากพิษของเชื้อแบคทีเรียชื่อ #สเตร็ปโตคอคคัสชนิดเอ ทำให้มีผื่นแดง ตามตัวร่วมกับคอหอยหรือทอนซิลอักเสบ พบบ่อยในช่วงอายุระหว่าง 5-15 ปี

วัคซีนปอดอักเสบนิวโมคอกคัสชนิดใหม่ 20 สายพันธุ์ (PCV 20)

โรคปอดอักเสบจากเชื้อนิวโมคอกคัสเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอคคัสนิวโมเนียอี (Streptococcus pneumoniae) ส่วนใหญ่เชื้อจะพบอยู่ในโพรงจมูกและลำคอ สามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งทางละอองฝอยทางการไอหรือจาม เป็นหนึ่งในเชื้อที่ทำให้เกิดปอดอักเสบที่พบบ่อย ทั้งในเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ

โรคแอนแทรกซ์ (Anthrax) โรคติดต่อจากสัตว์สู่คน

โรคแอนแทรกซ์ หรือชาวบ้านเรียกว่าโรคกาลี เป็นโรคที่รู้จักกันมาแต่โบราณกาล แอนแทรกซ์นับว่าเป็นโรคระบาดสำคัญโรคหนึ่งในพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2499 เป็นโรคติดต่ออันตรายร้ายแรงที่เกิดขึ้นได้ในสัตว์กินหญ้าแทบทุกชนิด ทั้งสัตว์ป่า เช่น ช้าง เก้ง กวาง และสัตว์เลี้ยง เช่น โค กระบือ แพะ แกะ แล้วติดต่อไปยังคนและสัตว์อื่น

บอลลูนหัวใจ: แก้ปัญหาหลอดเลือดหัวใจตีบ โดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่

การทำบอลลูนหัวใจหรือ PCI เป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพในการรักษาภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบ ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้สะดวก ลดอาการเจ็บหน้าอก และลดความเสี่ยงของหัวใจวาย เป็นการเปิดหลอดเลือดโดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ ทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยยังคงต้องดูแลสุขภาพ หมั่นออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และลดปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ เพื่อรักษาสุขภาพของหัวใจในระยะยาว

ลิ้นหัวใจเทียมคืออะไร? ทำไมต้องเปลี่ยน? และอะไรบ้างที่คุณควรรู้?

การผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจเทียมเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาสำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาลิ้นหัวใจผิดปกติ และการผ่าตัดเปลี่ยนลินหัวใจจะช่วยฟื้นฟูการทำงานของหัวใจให้กลับมาใกล้เคียงปกติ อย่างไรก็ตามผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาจะต้องได้รับการประเมินอย่างละเอียด เพื่อเลือกชนิดของลิ้นหัวใจที่เหมาะสม

หัวใจล้มเหลว อาการเป็นอย่างไร ป้องกันได้อย่างไรบ้าง

หัวใจล้มเหลวคือภาวะที่หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนและสารอาหารไม่เพียงพอ อาการสำคัญที่ควรสังเกต ได้แก่ เหนื่อยง่าย หายใจลำบาก ขาบวม และน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มักเกี่ยวข้องกับโรคหัวใจและหลอดเลือด การวินิจฉัยและรักษาอย่างรวดเร็วจะช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนรุนแรง

การตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจมะเร็ง (Biopsy) หมดความสงสัย วินิจฉัยได้อย่างแม่นยำ

การตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจมะเร็ง (Biopsy) คือวิธีที่นิยมในการวินิจฉัยมะเร็ง เนื่องจากความแม่นยำและละเอียดในการบ่งชี้ประเภทของมะเร็ง ทำได้อย่างไร? บทความนี้มีคำตอบ!

การใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ รักษาใจเต้นผิดจังหวะ ให้กลับสู่ภาวะปกติ

การใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ (Pacemaker Implantation) จะใช้รักษาผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ เครื่องจะช่วยให้หัวใจกลับมาทำงานได้ใกล้เคียงกับระดับปกติอีกครั้ง

รู้จัก ASD คืออะไร? ผนังหัวใจรั่วอาการเป็นแบบไหน รักษายังไงดี

ชวนรู้จัก ASD หรือ ภาวะผนังกั้นหัวใจรั่วคืออะไร ผนังหัวใจรั่ว อันตรายไหม? มาเช็กต้นตอสาเหตุ อาการของ ASD แนวทางการรักษา พร้อมวิธีดูแลให้หัวใจห้องบนแข็งแรง!

Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital