บทความสุขภาพ
Knowledge
พญ. รับพร ทักษิณวราจาร
เราสามารถลดโอกาสเกิดโรคสมองเสื่อมได้ถึงร้อยละ 40 โดยหลีกเลี่ยงพฤติกรรมต่าง ๆ เหล่านี้
การศึกษาพบว่าออกกำลังกายชนิดแอโรบิก เช่น เดิน วิ่ง ปั่น จักรยาน หรือว่ายน้ำ 45-60 นาที ต่อครั้ง สามารถลดการเกิดโรคสมองเสื่อมได้
ไม่ว่าจะเป็นผู้สูบเอง หรืออยู่ใกล้ผู้สูบบุหรี่ล้วนเพิ่มโอกาสสมองเสื่อม การเลิกสูบบุหรี่ไม่ว่าจะเลิกที่อายุเท่าไหร่ สามารถลดโอกาสเกิดโรคสมองเสื่อมได้
แอลกอฮอล์สัมพันธ์กับการเกิดสมองเสื่อม และทำให้เกิดเร็วขึ้นตั้งแต่อายุน้อยกว่า 65 ปี ปริมาณที่มากเกิน 14 ดื่มมาตรฐาน (standard drink) ต่อสัปดาห์ เช่น เบียร์ สัปดาห์ละ 8 กระป๋อง( 330 ซีซี) หรือไวน์ สัปดาห์ละ 11 แก้ว (แก้ว 100 ซีซี) ทำให้สมองส่วนความจำฝ่อ (hippocampal atrophy)
เช่น ฝุ่น PM 2.5 ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ สัมพันธ์กับการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง และโรคอัลไซเมอร์ การศึกษาพบว่าฝุ่น PM2.5 ที่เพิ่มขึ้น 1 µg/m³ เพิ่มโอกาสสมองเสื่อมมากขึ้น 1.6 เท่า
ทำให้เกิดการสะสมโปรตีนชนิด Tau ผิดปกติในบริเวณสมองส่วนความจำ hippocampus การศึกษาพบว่าอุบัติเหตุทางสมอง 1 ครั้ง เพิ่มโอกาสสมองเสื่อม 1.2 เท่า หากเกิดอุบัติเหตุทางสมองมากกว่า 5 ครึ้งขั้นไป เพิ่มความเสี่ยงเป็น 2.8 เท่า
การศึกษาในประเทศญี่ปุ่น พบว่าการมีคู่สมรส ลูกหลาน เพื่อนมาเยี่ยมเยียน การทำงานหรือร่วมกิจกรรมทางสังคม ลดโอกาสเกิดโรคสมองเสื่อมได้ร้อยละ 46 เทียบกับกลุ่มที่มี social isolation
การเรียนหนังสือในวัยเด็กจนถึงอายุ 20 ปี ช่วยลดโอกาสเกิดสมองเสื่อม สำหรับผู้สูงวัยควรมีกิจกรรมฝึกสมอง เช่น เล่นเกมส์ อ่านหนังสือ ฝึกแก้ไขปัญหา รวมถึง การเกษียณอายุช้าลง ช่วยให้สมองเสื่อมช้าลง
ดัชนีมวลกายมากกว่า 30 ขึ้นไป ในช่วงอายุ 35-65 ปี เพิ่มความเสี่ยงสมองเสื่อมตอนอายุมากขึ้น 1.3 เท่าเทียบกับคนน้ำหนักปกติ และการลดน้ำหนักช่วยให้สมาธิและความจำดีขึ้น
การควบคุมความดันตัวบน (systolic blood pressure) น้อยกว่า 130 มม.ปรอท ตั้งแต่อายุ 40 ปี ช่วยลดการเกิดสมองเสื่อมได้
ผู้ป่วยเบาหวานมีโอกาสสมองเสื่อมเพิ่มขึ้น 1.6 เท่าเมื่อเทียบกับคนทั่วไป โดยเฉพาะถ้าเริ่มเป็นเบาหวานตั้งแต่อายุน้อย ควรปรับพฤติกรรมเสี่ยงโรคเบาหวาน เพราะปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลว่ายารักษาโรคเบาหวานสามารถลดโอกาสเกิดโรคสมองเสื่อมได้
ผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป ที่เป็นโรคซึมเศร้ามีโอกาสสมองเสื่อมเพิ่มขึ้น 1.5 เท่า และยารักษาโรคซึมเศร้ากลุ่ม SSRI (serotonin reuptake inhibitor) ลดโอกาสสมองเสื่อมในผู้สูงอายุที่เป็นโรคซึมเศร้าได้
เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สามารถรักษาได้แต่อาจถูกละเลย พบว่าการได้ยินลดลง 10 เดซิเบล เพิ่มโอกาสโรคสมองเสื่อม 1.3 เท่า เพราะเสียการกระตุ้นสมอง กระตุ้นความคิด ขาดปฏิสัมพันธ์ทางสังคม การใส่เครื่องช่วยฟัง ช่วยแก้ไขปัญหาการได้ยิน อย่างไรก็ตามอาจต้องใช้ความพยายามในการปรับตัว ทั้งนี้ครอบครัวลูกหลานควรช่วยสนับสนุน ให้กำลังใจ ปรับเปลี่ยนเครื่องช่วยฟังที่เหมาะสม ตามคำแนะนำแพทย์
ปัจจัยเสี่ยง 12 ข้อหลีกเลี่ยงไม่ยาก เริ่มทำวันนี้ เพื่อวันหน้าเราจะเป็นผู้สูงวัยที่แข็งแรงและช่วยเหลือตนเองได้อย่างดี
แหล่งที่มา คณะบรรณาธิการ วารสาร Lancet ปีพศ. 2563 (https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/32738937/)
เกี่ยวกับผู้เขียนบทความ
แพ็กเกจที่เกี่ยวข้อง (0)
ดูทั้งหมด
บทความที่เกี่ยวข้อง (10)
ดูทั้งหมด
Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital