บทความสุขภาพ
Knowledge
ถ้าใครได้ลองสัมผัสถึงความทรมานของการไม่ได้ถ่ายเป็นเวลานาน ระหว่างถ่ายมีอาการเจ็บ แสบ บาดจนเป็นเลือด คงเสี่ยงเป็นโรคริดสีดวงทวาร ที่ไม่มีใครอยากเป็นและมีคนจำนวนไม่น้อยที่เป็น บางคนเป็นน้อยแต่บางคนเป็นมากถึงขั้นรุนแรง ทำให้มีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน แม้จะนั่งเฉยๆยังลำบาก
โรคริดสีดวงทวาร พบได้กับทุกเพศทุกวัย เกิดจากการเบ่งถ่ายรุนแรงและเรื้อรัง เพราะผู้ที่ท้องผูกต้องเบ่งอย่างรุนแรงเวลาขับถ่ายจึงทำให้เลือดคั่งในเส้นเลือดดำที่ผนังรูทวารหนัก ส่งผลให้กลุ่มเส้นเลือดดำ และเนื้อเยื่อบริเวณส่วนปลายของทวารหนักโป่งพองเกิดเป็นริดสีดวงทวาร ปัจจัยของโรคนอกจากการเบ่งถ่ายรุนแรงแล้ว สามารถเกิดจากท้องผูกเรื้อรัง ถ่ายอุจจาระบ่อยๆ นั่งถ่ายเป็นเวลานานๆ เช่น อ่านหนังสือพร้อมกับขับถ่าย หญิงตั้งครรภ์ ภาวะตับแข็ง อายุมากขึ้น
ริดสีดวงทวารภายใน (Internal Hemorrhoids) ริดสีดวงประเภทนี้อาจมองไม่เห็นก้อนริดสีดวงทวาร แต่สามารถสังเกตได้ว่าเป็นโรคริดสีดวงทวารได้หลังถ่ายอุจจาระจะมีเลือดหยดออกมา
ริดสีดวงทวารภายนอก (External Hemorrhoids) จะเห็นก้อนเนื้ออยู่ที่ปากทวารหนัก ไม่สามารถดันเข้าไปในทวารหนักได้ บางครั้งเกิดจากการเบ่งถ่ายอุจจาระรุนแรง ทำให้เส้นเลือดดำบริเวณปากทวารหนักแตก และเกิดเป็นก้อนแข็งๆ เจ็บ เรียกว่า Thrombosed External Demorrhoids
แพทย์จะพิจารณาจากอาการและระดับความรุนแรงของโรค ระยะที่ 1 เน้นการใช้ยาและการปฏิบัติตัว ระยะที่ 2 และระยะที่3 (ในช่วงแรก) ใช้ยา การปฏิบัติตัว รวมถึงบางกรณีอาจใช้ยางชนิดพิเศษในการรัดริดสีดวงทวาร และสุดท้ายระยะ 3 (ขนาดค่อนข้างใหญ่) และระยะที่ 4 ต้องจัดการด้วยการผ่าตัดริดสีดวงทวาร
ปัจจุบันมีการนำเครื่องมือแบบใหม่มาใช้รักษาริดสีดวงทวารหนักที่เป็นมากอย่างกว้างขวาง เครื่องมือนี้เรียกว่า สแตปเลอร์ หรือเครื่องตัดเย็บอัตโนมัติ (Stapled hemorroidectomy) การผ่าตัดแบบนี้ช่วยลดความเจ็บปวดหลังการผ่าตัดให้กับผู้ป่วยได้ เพราะวิธีนี้จะทำการผ่าตัดบริเวณที่สูงกว่าหูรูด อาการเจ็บปวดแผลหลังผ่าตัดจึงมีน้อยกว่าวิธีดั่งเดิม ใช้เวลาผ่าตัดและเวลานอนในโรงพยาบาลน้อยกว่าเดิม และสามารถกลับเข้าทำงานได้รวดเร็วกว่าเดิม
แพ็กเกจที่เกี่ยวข้อง (0)
ดูทั้งหมด
บทความที่เกี่ยวข้อง (10)
ดูทั้งหมด
Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital