บทความสุขภาพ

Knowledge

ปวดหน่วงทรมานจากไส้เลื่อน เรื่องใหญ่ที่รักษาได้ด้วยการผ่าตัดแผลเล็ก

นพ. อนุวัตร สุขสมานพาณิชย์

เราคงเคยได้ยินใคร ๆ พูดกันว่า “ถ้าผู้ชายไม่ใส่กางเกงชั้นในจะเป็นไส้เลื่อน” จนทำหลายคนคิดว่า โรคไส้เลื่อนมีสาเหตุจากการไม่ใส่กางเกงชั้นใน และเกิดได้เฉพาะผู้ชาย ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด เนื่องจากโรคไส้เลื่อนสามารถพบได้ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง และสาเหตุของไส้เลื่อนไม่ได้เกิดจาก การไม่สวมกางเกงชั้นใน


โรคไส้เลื่อนมีทั้งแบบที่ไม่อันตรายรุนแรง และอันตรายรุนแรงกระทั่งต้องได้รับการผ่าตัดฉุกเฉิน มิเช่นนั้นอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อและเสียชีวิตได้ ดังนั้นจึงไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษา โดยในปัจจุบันการรักษาโดยการผ่าตัดไส้เลื่อนแบบส่องกล้อง ถือเป็นการผ่าตัดแผลเล็ก รวดเร็ว และมีความปลอดภัยสูง


ไส้เลื่อนคืออะไร ?


“โรคไส้เลื่อน” คือ ภาวะที่มีอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งในช่องท้องเคลื่อนไปจากตำแหน่งปกติ โดยเคลื่อนผ่านรูหรือดันออกไปตรงบริเวณผังผืดหรือกล้ามเนื้อที่ไม่แข็งแรง (เกิดความอ่อนแอหรือหย่อนยาน) ทำให้อวัยวะในช่องท้องดังกล่าวไปอยู่ในตำแหน่งที่ผิดปกติ ซึ่งมักเห็นเป็นก้อนตุง ตำแหน่งของไส้เลื่อนอาจเกิดขึ้นได้ที่บริเวณผนังหน้าท้องหรือขาหนีบ โดยไส้เลื่อนที่พบบ่อยที่สุดคือ ไส้เลื่อนขาหนีบ (inguinal hernia) มักพบมากในผู้ชาย


hernia-1.jpg

อาการของโรคไส้เลื่อน


ในระยะเริ่มแรกผู้ป่วยมักไม่มีอาการ หรือความเจ็บปวดใด ๆ แต่จะสังเกตเห็นก้อนตุง ๆ นูนออกมาจากผนังหน้าท้องหรือขาหนีบ และก้อนนี้มักใหญ่ขึ้นหรือชัดเจนขึ้น เมื่อสังเกตในท่านั่งหรือยืน ผู้ป่วยอาจมีอาการจุก ๆ หน่วง ๆ ที่ท้องร่วมด้วย


หากปล่อยทิ้งไว้ไส้เลื่อนจะมีขนาดใหญ่ขึ้น มีอาการจุก หน่วง ๆ มากขึ้น หรืออาจถึงขั้นมีอาการเจ็บปวด แน่นท้อง ปวดแสบปวดร้อน และเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาได้


hernia-2.jpg

สาเหตุของการเกิดไส้เลื่อน ?


เราอาจเคยได้ยินว่า “ไส้เลื่อนเกิดจากการไม่ใส่กางเกงชั้นใน” ซึ่งนั่นไม่เป็นความจริง เนื่องจาก ดังที่ได้กล่าวว่าไส้เลื่อนเป็นภาวะที่มีการเคลื่อนตำแหน่งของอวัยวะในช่องท้อง ผ่านรูของผังผืดหรือกล้ามเนื้อที่ไม่แข็งแรง ดังนั้นไม่ว่าจะใส่หรือไม่ใส่กางเกงชั้นใน ก็มีโอกาสเป็นไส้เลื่อนได้พอ ๆ กัน เพราะกางเกงชั้นในไม่สามารถเสริมความแข็งแรงของผนังหน้าท้องได้


โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคไส้เลื่อน ได้แก่


  • ความผิดปกติของช่องท้องมาตั้งแต่กำเนิด
  • อายุที่เพิ่มขึ้น โดยพบมากในอายุ 40 ปีขึ้นไป
  • เคยเกิดอุบัติเหตุที่รุนแรงบริเวณหน้าท้อง
  • การออกแรงยกของหนักซึ่งทำให้มีแรงดันในช่องท้องสูง
  • ไอหรือจามอย่างหนักบ่อย ๆ
  • เบ่งอุจจาระหรือปัสสาวะเป็นประจำ
  • ผนังช่องท้องมีความอ่อนแอหลังการผ่าตัดเปิดหน้าท้อง
  • การสูบบุหรี่
  • มีภาวะโรคอ้วน
  • ผู้ชายมีความเสี่ยงมากกว่าผู้หญิงเนื่องจาก ในผู้ชายมีช่องถุงอัณฑะซึ่งจะเป็นบริเวณที่อ่อนแรงได้ง่ายจึงมีโอกาสเกิดไส้เลื่อนได้

hernia-3.jpg

ผู้หญิงเป็นไส้เลื่อนได้ไหม?


โรคไส้เลื่อนสามารถพบในผู้หญิงได้ ได้โดยมักพบในเพศหญิงอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป ซึ่งสาเหตุของการเกิดไส้เลื่อนในผู้หญิงมักเกิดจาก


  • แผลเป็นจากผ่าคลอดบุตร หรือการผ่าตัดโรคอื่น ๆ ที่บริเวณหน้าท้องซึ่งทำให้ผนังกล้ามเนื้อหน้าท้องไม่แข็งแรง
  • การออกกำลังกายที่ทำให้ความดันในช่องท้องสูงขึ้น เช่น การซิตอัพ หรือการออกกำลังที่มีการเกร็งหน้าท้อง
  • ไอหรือจามเรื้อรัง
  • ยกของหนัก

hernia-4.jpg

โรคไส้เลื่อน อันตรายหรือไม่?


ไส้เลื่อน แบ่งออกเป็น 2 ชนิด ตามความรุนแรงของโรค คือ


  1. ไส้เลื่อนที่สามารถดันกลับเข้าไปในช่องท้องได้ ซึ่งถือว่าไม่อันตรายรุนแรง
  2. ไส้เลื่อนที่โป่งออกมา ไม่สามารถกลับเข้าสู่ช่องท้องได้ เพราะมีการอุดตันที่คอถุงไส้เลื่อน ซึ่งอาจทำให้ลำไส้อุดตันและขาดเลือด เกิดลำไส้เน่าตายได้ ถือว่าอันตรายรุนแรง ต้องทำการผ่าตัดฉุกเฉิน

ดังนั้นเมื่อเป็นไส้เลื่อนจึงไม่ควรปล่อยทิ้งไว ้ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษา เพราะหากปล่อยไว้ ไส้เลื่อนที่โป่งออกมาแล้วไม่สามารถกลับเข้าสู่ช่องท้องได้ เกิดการอุดตัน เกิดการติดเชื้อ และอาจทำให้เสียชีวิตได้


การผ่าตัดรักษาไส้เลื่อน


การผ่าตัดไส้เลื่อนสามารถทำได้หลายวิธี แต่ในปัจจุบันการผ่าตัดไส้เลื่อนด้วยวิธีการผ่าตัดแบบส่องกล้อง (laparoscopic surgery) ถือเป็นการรักษาที่ได้ผลดีและมีความปลอดภัย โดยแพทย์จะทำการผ่าตัดผ่านรูเล็ก ๆ ที่เจาะที่ผนังหน้าท้อง โดยจะใส่กล้องและเครื่องมือเฉพาะเข้าไปทางรูขนาดเล็กนี้


การผ่าตัดไส้เลื่อนโดยวิธีนี้ เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เพราะแผลมีขนาดเล็ก เจ็บน้อย ลดความเสี่ยงการติดเชื้อ ผู้ป่วยสามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้หลังการผ่าตัด ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็ว และสามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันตามปกติได้เร็ว


hernia-5.jpg

สรุป


โรคไส้เลื่อนเป็นโรคที่สามารถพบได้ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง โดยสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากผังผืดหรือกล้ามเนื้อผนังหน้าท้องไม่แข็งแรงทำให้อวัยวะในช่องท้องสามารถดันหรือรอดผ่านรูที่ไม่แข็งแรงนั้นออกไปได้ โดยตำแหน่งของไส้เลื่อนนั้นสามารถพบได้หลาย ๆ บริเวณของผนังหน้าท้อง แต่ในผู้ชายพบไส้เลื่อนที่ขาหนีบมากที่สุด


โรคไส้เลื่อนเป็นโรคที่รักษาหายได้และการรักษาไส้เลื่อนที่ให้ผลดี ปลอดภัย และเป็นที่นิยมในปัจจุบันคือการผ่าตัดไส้เลื่อนแบบส่องกล้อง ซึ่งเป็นการผ่าตัดที่มีแผลเล็ก เจ็บน้อย ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็ว ด้วยเทคโนโลยีการแพทย์ในปัจจุบันที่ทำให้การผ่าตัดไส้เลื่อนมีความปลอดภัยสูง ดังนั้นถ้าเป็นไส้เลื่อนแล้วไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาแต่เนิ่น ๆ เพราะหากปล่อยทิ้งไว้อาจ ทำให้ขนาดของไส้เลื่อนใหญ่ขึ้น หรือไส้เลื่อนที่โป่งออกมาไม่สามารถกลับเข้าสู่ช่องท้องได้ อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้


ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกับ Praram 9 V ปรึกษาแพทย์ได้ทุกที่ผ่านทางวิดีโอคอล (Telemedicine)

เกี่ยวกับผู้เขียนบทความ

นพ. อนุวัตร สุขสมานพาณิชย์

นพ. อนุวัตร สุขสมานพาณิชย์

ศูนย์ศัลยกรรม

บทความที่เกี่ยวข้อง (10)

ดูทั้งหมด

คุณเป็นโรคภูมิแพ้…จริงหรือ…?

คนทั่วไปเมื่อมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหลเรื้อรัง หรือเป็นๆ หายๆ มักจะบอกว่า เป็นโรคภูมิแพ้ หรือไม่ก็เข้าใจว่าตนเป็นหวัด หวัด เกิดจากการติดเชื้อไวรัส คนทั่วไปมักเป็นได้ปีละ 4 – 5 ครั้งก็มากเกินปกติแล้ว อาการหวัดมักเป็นอยู่ 3 – 4 วัน

โรคไข้อีดำอีแดง โรคที่เกิดจากพิษของเชื้อแบคทีเรีย

ข้อมูลจาก สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย โรคไข้อีดำอีแดงหรือ scarlet fever เป็นโรคที่เกิดจากพิษของเชื้อแบคทีเรียชื่อ #สเตร็ปโตคอคคัสชนิดเอ ทำให้มีผื่นแดง ตามตัวร่วมกับคอหอยหรือทอนซิลอักเสบ พบบ่อยในช่วงอายุระหว่าง 5-15 ปี

วัคซีนปอดอักเสบนิวโมคอกคัสชนิดใหม่ 20 สายพันธุ์ (PCV 20)

โรคปอดอักเสบจากเชื้อนิวโมคอกคัสเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอคคัสนิวโมเนียอี (Streptococcus pneumoniae) ส่วนใหญ่เชื้อจะพบอยู่ในโพรงจมูกและลำคอ สามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งทางละอองฝอยทางการไอหรือจาม เป็นหนึ่งในเชื้อที่ทำให้เกิดปอดอักเสบที่พบบ่อย ทั้งในเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ

โรคแอนแทรกซ์ (Anthrax) โรคติดต่อจากสัตว์สู่คน

โรคแอนแทรกซ์ หรือชาวบ้านเรียกว่าโรคกาลี เป็นโรคที่รู้จักกันมาแต่โบราณกาล แอนแทรกซ์นับว่าเป็นโรคระบาดสำคัญโรคหนึ่งในพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2499 เป็นโรคติดต่ออันตรายร้ายแรงที่เกิดขึ้นได้ในสัตว์กินหญ้าแทบทุกชนิด ทั้งสัตว์ป่า เช่น ช้าง เก้ง กวาง และสัตว์เลี้ยง เช่น โค กระบือ แพะ แกะ แล้วติดต่อไปยังคนและสัตว์อื่น

บอลลูนหัวใจ: แก้ปัญหาหลอดเลือดหัวใจตีบ โดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่

การทำบอลลูนหัวใจหรือ PCI เป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพในการรักษาภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบ ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้สะดวก ลดอาการเจ็บหน้าอก และลดความเสี่ยงของหัวใจวาย เป็นการเปิดหลอดเลือดโดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ ทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยยังคงต้องดูแลสุขภาพ หมั่นออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และลดปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ เพื่อรักษาสุขภาพของหัวใจในระยะยาว

ลิ้นหัวใจเทียมคืออะไร? ทำไมต้องเปลี่ยน? และอะไรบ้างที่คุณควรรู้?

การผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจเทียมเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาสำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาลิ้นหัวใจผิดปกติ และการผ่าตัดเปลี่ยนลินหัวใจจะช่วยฟื้นฟูการทำงานของหัวใจให้กลับมาใกล้เคียงปกติ อย่างไรก็ตามผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาจะต้องได้รับการประเมินอย่างละเอียด เพื่อเลือกชนิดของลิ้นหัวใจที่เหมาะสม

หัวใจล้มเหลว อาการเป็นอย่างไร ป้องกันได้อย่างไรบ้าง

หัวใจล้มเหลวคือภาวะที่หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนและสารอาหารไม่เพียงพอ อาการสำคัญที่ควรสังเกต ได้แก่ เหนื่อยง่าย หายใจลำบาก ขาบวม และน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มักเกี่ยวข้องกับโรคหัวใจและหลอดเลือด การวินิจฉัยและรักษาอย่างรวดเร็วจะช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนรุนแรง

การตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจมะเร็ง (Biopsy) หมดความสงสัย วินิจฉัยได้อย่างแม่นยำ

การตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจมะเร็ง (Biopsy) คือวิธีที่นิยมในการวินิจฉัยมะเร็ง เนื่องจากความแม่นยำและละเอียดในการบ่งชี้ประเภทของมะเร็ง ทำได้อย่างไร? บทความนี้มีคำตอบ!

การใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ รักษาใจเต้นผิดจังหวะ ให้กลับสู่ภาวะปกติ

การใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ (Pacemaker Implantation) จะใช้รักษาผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ เครื่องจะช่วยให้หัวใจกลับมาทำงานได้ใกล้เคียงกับระดับปกติอีกครั้ง

รู้จัก ASD คืออะไร? ผนังหัวใจรั่วอาการเป็นแบบไหน รักษายังไงดี

ชวนรู้จัก ASD หรือ ภาวะผนังกั้นหัวใจรั่วคืออะไร ผนังหัวใจรั่ว อันตรายไหม? มาเช็กต้นตอสาเหตุ อาการของ ASD แนวทางการรักษา พร้อมวิธีดูแลให้หัวใจห้องบนแข็งแรง!

Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital