บทความสุขภาพ

Knowledge

หมอนรองกระดูกสันหลังส่วนเอวเคลื่อนกดทับเส้นประสาท ปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้พิการได้

นพ. รัฐฤกษ์ อรุณากูร

ผู้ที่มีอาการหมอนรองกระดูกสันหลังส่วนเอวเคลื่อนกดทับเส้นประสาท มักจะมีอาการที่ทำให้กระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เนื่องมาจากอาการปวดหลัง หรือปวดสะโพกแล้วร้าวลงขา แรก ๆ ผู้ป่วยอาจจะยังสามารถทนกับอาการดังกล่าวได้ แต่ในระยะต่อไปอาการจะมากขึ้น หากไม่รีบรักษาอาจทำให้เกิดความผิดปกติจน เดินไม่ได้ ดังนั้นหากมีอาการของโรคหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนทับเส้นประสาท ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการรักษาต่อไป

หมอนรองกระดูกสันหลังส่วนเอวเคลื่อนกดทับเส้นประสาท คืออะไร ?


โรคหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท หรือที่เรียกกันว่า “หมอนรองกระดูกทับเส้น” เกิดจากหมอนรองกระดูกสันหลังแตกแล้วปลิ้นออกไปกดทับเส้นประสาทที่อยู่ในโพรงกระดูกสันหลัง


ปกติแล้วกระดูกสันหลังของคนเราแต่ละข้อจะมีหมอนรองกระดูกสันหลัง (intervertebral disc) คั่นอยู่ ทำหน้าที่รองรับแรงกระแทก เหมือนกับ ‘โช้คอัพ’ ของรถยนต์ ช่วยป้องกันความเสียหายของกระดูกสันหลัง และภายในกระดูกสันหลังจะมีโพรงซึ่งเป็นที่อยู่ของเส้นประสาท ดังนั้นหากมีการแตกและปลิ้นของหมอนรองกระดูกสันหลังส่วนเอวจึงทำให้เกิดการกดทับเส้นประสาทส่วนเอว และทำให้เกิดอาการปวดหลังร้าวลงสะโพกได้


หมอนรองกระดูกสันหลัง-Fig-1_m.jpg

หมอนรองกระดูกสันหลังส่วนเอวเคลื่อนกดทับเส้นประสาท เกิดจากสาเหตุใด?


หมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น


  • การใช้หลังผิดท่าทาง เช่น ท่านั่งไม่ถูกวิธี การก้มยกของหนักไม่ถูกวิธี
  • การไอจามแรง ๆ
  • ความเสื่อมของร่างกาย
  • อุบัติเหตุที่ทำให้ความดันในหมอนรองกระดูกหรือช่องท้องเพิ่มขึ้นอย่างเฉียบพลัน ทำให้หมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนตัวออกมาจนเข้าไปกดเบียดเส้นประสาทที่อยู่ด้านหลัง

หมอนรองกระดูกสันหลัง-Fig-2_m.jpg

อาการของหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท


เมื่อเส้นประสาทที่ไขสันหลังถูกกดทับ เส้นประสาทจะเกิดการอักเสบ ซึ่งผู้ป่วยมักจะมีอาการ ดังต่อไปนี้


  • ปวดหลังหรือสะโพกร้าวลงขาข้างใดข้างหนึ่ง
  • ชา หรืออ่อนแรงขา และอาจมีอาการชาเท้าร่วมด้วย
  • หากรุนแรงจะมีอาการของระบบขับถ่ายร่วมด้วย เช่น ปัสสาวะไม่ออก ท้องผูก
  • ในระยะที่รุนแรงขึ้น อาการปวด ชา และอ่อนแรงจะเป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ จนเส้นประสาทบาดเจ็บซึ่งเสี่ยงต่อความพิการได้

หมอนรองกระดูกสันหลัง-Fig-3_m.jpg

การรักษาโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท


สำหรับการรักษาเบื้องต้น แพทย์มักจะเริ่มด้วยการรักษาแบบประคับประคอง (conservative treatments) ได้แก่ การพักผ่อน งดกิจกรรมหนัก การใช้ยา รวมถึง การทำกายภาพบำบัด เพื่อลดอาการปวด อย่างไรก็ตามหากอาการไม่ทุเลา หรือมีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ เช่น มีอาการขาชาหรืออ่อนแรงมากขึ้น หรือมีการควบคุมการขับถ่ายปัสสาวะ อุจจาระผิดปกติไป อาจเป็นสัญญาณอันตรายที่ผู้ป่วยควรต้องรีบรับการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัด (surgical treatments)


โดยทั่วไปของการผ่าตัดรักษา คือ ตัดเอาหมอนรองกระดูกเฉพาะส่วนที่เคลื่อนออกมากดทับเส้นประสาทออก (discectomy) โดยในปัจจุบันสามารถผ่าตัดโดยใช้เทคนิคการผ่าตัดแบบส่องกล้อง(endoscope) จะช่วยให้แพทย์มองเห็นเส้นประสาทชัดเจนมากขึ้น และช่วยลดการทำลายเนื้อเยื่อส่วนดีที่อยู่รอบบริเวณผ่าตัด ทำให้ร่างกายมีความบอบช้ำน้อย ผู้ป่วยจะปวดแผลน้อยลง และมีแผลเล็ก ผู้ป่วยจึงฟื้นตัวไว สามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้เร็วขึ้น


ประสบการณ์ผู้ที่เคยผ่าตัดหมอนรองกระดูกสันหลัง

อย่างไรก็ตาม ก่อนการผ่าตัด ผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับการประเมินก่อนผ่าตัดอย่างละเอียด โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่จะใช้ดุลยพินิจ เลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดีที่สุด สำหรับผู้ป่วยแต่ละราย


ข้อมูลเพิ่มเติม : ศูนย์กระดูกสันหลังโรงพยาบาลพระรามเก้า


การดูแลตัวเองเพื่อป้องกันโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท


แม้ว่าโรคนี้จะมีปัจจัยที่เราไม่สามารถแก้ไขได้ เช่น ความเสื่อมตามวัย แต่อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่สามารถป้องกันได้ เช่น การใช้หลังให้ถูกท่าทาง การนั่งด้วยท่าทางที่ถูกต้อง หากต้องนั่งนาน ๆ ควรลุกเปลี่ยนอิริยาบถบ้างเป็นระยะ เมื่อต้องยกของหนักจากพื้นต้องย่อเข่า ไม่ก้มโค้งหลังลงไปเพื่อยกของ และควรหมั่นฝึกบริหารกล้ามเนื้อหลังและหน้าท้องให้แข็งแรง ก็จะช่วยป้องกันการบาดเจ็บของหมอนรองกระดูกสันหลัง และยืดอายุการใช้งานของหมอนรองกระดูก ไม่ให้เสื่อมสภาพก่อนวัยอันควรได้อีกด้วย


หมอนรองกระดูกสันหลัง-Fig-4_m.jpg

สรุป


โรคหมอนรองกระดูกสันหลังส่วนเอวเคลื่อนกดทับเส้นประสาท เป็นโรคที่ทำให้มีอาการปวดหลัง หรืออาจมีอาการชาขา หรือเท้า ทำให้กิจวัตรประจำวันหากปล่อยไว้เรื้อรังจะทำให้เส้นประสาทไขสันหลังที่ถูกกดทับเสียหายมากขึ้นได้ อาการก็จะรุนแรงมากขึ้น ดังนั้นหากเมื่อพบว่ามีอาการปวดหลังแล้วร้าว ชา ลงขา ไม่ควรนิ่งนอนใจ ควรมาพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยรักษาให้ทันท่วงทีเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายรุนแรงจนทำให้เกิดภาวะทุพพลภาพได้

เกี่ยวกับผู้เขียนบทความ

นพ. รัฐฤกษ์ อรุณากูร

นพ. รัฐฤกษ์ อรุณากูร

ศูนย์กระดูกและข้อโรงพยาบาลพระรามเก้า

บทความที่เกี่ยวข้อง (10)

ดูทั้งหมด

คุณเป็นโรคภูมิแพ้…จริงหรือ…?

คนทั่วไปเมื่อมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหลเรื้อรัง หรือเป็นๆ หายๆ มักจะบอกว่า เป็นโรคภูมิแพ้ หรือไม่ก็เข้าใจว่าตนเป็นหวัด หวัด เกิดจากการติดเชื้อไวรัส คนทั่วไปมักเป็นได้ปีละ 4 – 5 ครั้งก็มากเกินปกติแล้ว อาการหวัดมักเป็นอยู่ 3 – 4 วัน

โรคไข้อีดำอีแดง โรคที่เกิดจากพิษของเชื้อแบคทีเรีย

ข้อมูลจาก สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย โรคไข้อีดำอีแดงหรือ scarlet fever เป็นโรคที่เกิดจากพิษของเชื้อแบคทีเรียชื่อ #สเตร็ปโตคอคคัสชนิดเอ ทำให้มีผื่นแดง ตามตัวร่วมกับคอหอยหรือทอนซิลอักเสบ พบบ่อยในช่วงอายุระหว่าง 5-15 ปี

วัคซีนปอดอักเสบนิวโมคอกคัสชนิดใหม่ 20 สายพันธุ์ (PCV 20)

โรคปอดอักเสบจากเชื้อนิวโมคอกคัสเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอคคัสนิวโมเนียอี (Streptococcus pneumoniae) ส่วนใหญ่เชื้อจะพบอยู่ในโพรงจมูกและลำคอ สามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งทางละอองฝอยทางการไอหรือจาม เป็นหนึ่งในเชื้อที่ทำให้เกิดปอดอักเสบที่พบบ่อย ทั้งในเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ

โรคแอนแทรกซ์ (Anthrax) โรคติดต่อจากสัตว์สู่คน

โรคแอนแทรกซ์ หรือชาวบ้านเรียกว่าโรคกาลี เป็นโรคที่รู้จักกันมาแต่โบราณกาล แอนแทรกซ์นับว่าเป็นโรคระบาดสำคัญโรคหนึ่งในพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2499 เป็นโรคติดต่ออันตรายร้ายแรงที่เกิดขึ้นได้ในสัตว์กินหญ้าแทบทุกชนิด ทั้งสัตว์ป่า เช่น ช้าง เก้ง กวาง และสัตว์เลี้ยง เช่น โค กระบือ แพะ แกะ แล้วติดต่อไปยังคนและสัตว์อื่น

บอลลูนหัวใจ: แก้ปัญหาหลอดเลือดหัวใจตีบ โดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่

การทำบอลลูนหัวใจหรือ PCI เป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพในการรักษาภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบ ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้สะดวก ลดอาการเจ็บหน้าอก และลดความเสี่ยงของหัวใจวาย เป็นการเปิดหลอดเลือดโดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ ทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยยังคงต้องดูแลสุขภาพ หมั่นออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และลดปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ เพื่อรักษาสุขภาพของหัวใจในระยะยาว

ลิ้นหัวใจเทียมคืออะไร? ทำไมต้องเปลี่ยน? และอะไรบ้างที่คุณควรรู้?

การผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจเทียมเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาสำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาลิ้นหัวใจผิดปกติ และการผ่าตัดเปลี่ยนลินหัวใจจะช่วยฟื้นฟูการทำงานของหัวใจให้กลับมาใกล้เคียงปกติ อย่างไรก็ตามผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาจะต้องได้รับการประเมินอย่างละเอียด เพื่อเลือกชนิดของลิ้นหัวใจที่เหมาะสม

หัวใจล้มเหลว อาการเป็นอย่างไร ป้องกันได้อย่างไรบ้าง

หัวใจล้มเหลวคือภาวะที่หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนและสารอาหารไม่เพียงพอ อาการสำคัญที่ควรสังเกต ได้แก่ เหนื่อยง่าย หายใจลำบาก ขาบวม และน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มักเกี่ยวข้องกับโรคหัวใจและหลอดเลือด การวินิจฉัยและรักษาอย่างรวดเร็วจะช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนรุนแรง

การตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจมะเร็ง (Biopsy) หมดความสงสัย วินิจฉัยได้อย่างแม่นยำ

การตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจมะเร็ง (Biopsy) คือวิธีที่นิยมในการวินิจฉัยมะเร็ง เนื่องจากความแม่นยำและละเอียดในการบ่งชี้ประเภทของมะเร็ง ทำได้อย่างไร? บทความนี้มีคำตอบ!

การใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ รักษาใจเต้นผิดจังหวะ ให้กลับสู่ภาวะปกติ

การใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ (Pacemaker Implantation) จะใช้รักษาผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ เครื่องจะช่วยให้หัวใจกลับมาทำงานได้ใกล้เคียงกับระดับปกติอีกครั้ง

รู้จัก ASD คืออะไร? ผนังหัวใจรั่วอาการเป็นแบบไหน รักษายังไงดี

ชวนรู้จัก ASD หรือ ภาวะผนังกั้นหัวใจรั่วคืออะไร ผนังหัวใจรั่ว อันตรายไหม? มาเช็กต้นตอสาเหตุ อาการของ ASD แนวทางการรักษา พร้อมวิธีดูแลให้หัวใจห้องบนแข็งแรง!

Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital