บทความสุขภาพ

Knowledge

ฮอร์โมนกับการลดน้ำหนัก (Hormones and Weight Management)

ฮอร์โมน (Hormones) คือสารเคมีที่ร่างกายใช้สื่อสารกัน เพื่อควบคุมสมดุลร่างกายในทุกระบบ รวมทั้งระบบเผาผลาญด้วย ปัจจัยที่สำคัญข้อหนึ่งของโรคอ้วนที่เราทราบกันดีก็คือ การเสียสมดุลฮอร์โมน (Hormones Balance)


ฮอร์โมนเกือบทุกชนิดในร่างกาย มีผลกับระบบเผาผลาญและความอ้วนแทบทั้งนั้น เช่น เลปตินจากเซลล์ไขมัน เกอร์ลินจากทางเดินอาหาร อินซูลินจากตับอ่อน โกรธฮอร์โมนจากตับ คอร์ติซอลและดีเอชอีเอจากต่อมหมวกไต ไทรอยด์ฮอร์โมน และฮอร์โมนเพศอย่างเอสโตรเจน และเทสโทสเตอโรน



hormone-weight-loss-2.jpg

การเสียสมดุลฮอร์โมน ไม่ว่าจะมากเกินไป หรือน้อยเกินไป อาจเกิดจากปัจจัยทางพันธุกรรมส่วนหนึ่ง ร่วมกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ความเครียดเรื้อรัง การอดนอน สมดุลสารอาหารและวิตามิน การอักเสบ ติดเชื้อ หรือแม้แต่สารพิษสะสมจากสิ่งแวดล้อม ก็ล้วนส่งผลถึง การเผาผลาญ การใช้พลังงาน ความหิว ความอิ่ม ความอยากอาหาร การสะสมไขมันทั้งในและนอกช่องท้อง ซึ่งนำไปสู่ความอ้วนได้ ในทางกลับกัน ความอ้วนเอง ก็เป็นสาเหตุให้ฮอร์โมนเสียสมดุลได้เช่นกัน (Vicious Cycle)


ปกติแล้วในเด็กที่ไม่ได้มีโรคทางพันธุกรรม หรือเสียสมดุลสารอาหารมากเกินไป จะมีระดับสมดุลฮอร์โมนที่ดี เพราะร่างกายต้องใช้ฮอร์โมนปริมาณมาก เพื่อเพิ่มการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อต่างๆ ซึ่งมักจะเพียงพอ ที่จะทำให้ทานอาหารได้ปริมาณเฉลี่ยเยอะกว่าผู้ใหญ่โดยที่ไม่อ้วน แต่ในยุคนี้เราพบโรคอ้วนในเด็กเพิ่มขึ้น มีงานวิจัยใหม่ๆพบว่า สารเคมีปนเปื้อน โดยเฉพาะสารเคมีกลุ่มพลาสติก และฮอร์โมนปนเปื้อนจากสิ่งแวดล้อม เป็นสารก่อความอ้วนในเด็ก เนื่องจากไปรบกวนสมดุลฮอร์โมนโดยตรง (Endocrine Disruptors)


ในวัยทำงาน ความเครียด จากการทำงานหนักและพักผ่อนน้อยเป็นระยะเวลาติดต่อกันนานๆ ในช่วงแรกๆ บางคนผอมลง บางคนอ้วนขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการตอบสนองของระบบเผาผลาญที่ต่างกันทางพันธุกรรม (SNPs) อีกส่วนหนึ่งอาจเกิดจากการที่ร่างกายเกิดการปรับตัว เพื่อต่อสู้กับความเครียดทั้งด้านร่างกายและจิตใจ โดยการเพิ่มการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล และ ดีเอชอีเอ อาจจะทำให้ระบบเผาผลาญดูเหมือนสูงขึ้นในช่วงแรก แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไปร่างกายจะเริ่มปรับตัว (Adaptation) กับความเครียดเรื้อรัง จนในระยะยาว อาจเกิดภาวะที่เรียกว่า ต่อมหมวกไตล้า (Adrenal Fatique) ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของความอ้วนได้ในที่สุด


พอย่างเข้าสู่วัยใกล้หมดประจำเดือน หลายคนก็จะรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนัก และรอบเอวที่เพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจาก ฮอร์โมนเอสโตรเจน ที่ปกติจะคอบควบคุมระบบเผาผลาญ และทรวดทรงองค์เอวของเรา ลดลง จริงๆแล้วผู้ชายก็มีวัยทอง แต่อาจจะช้าและสังเกตได้ยากกว่าผู้หญิง แต่ระดับเทสโทสเตอโรนที่ตกลง ก็ส่งผลโดยตรงต่อระดับการเผาผลาญที่ลดลงเช่นกัน ซึ่งทำให้เราควบคุมน้ำหนักได้ยากมากขึ้น และยังส่งผลถึง สมดุลการสร้างและการสลายกล้ามเนื้ออีกด้วย


จะเห็นได้ว่า การเปลี่ยนแปลงของสมดุลฮอร์โมนในทุกช่วงอายุ ล้วนส่งผลถึงความยากง่าย ในการควบคุมความอ้วน และการลดน้ำหนักแทบทั้งสิ้น การลดน้ำหนักแบบองค์รวม (Holistic Weight Management) จึงให้ความสำคัญกับการตรวจคัดกรองสมดุลฮอร์โมน ในโปรแกรมลดน้ำหนักด้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง (10)

ดูทั้งหมด

คุณเป็นโรคภูมิแพ้…จริงหรือ…?

คนทั่วไปเมื่อมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหลเรื้อรัง หรือเป็นๆ หายๆ มักจะบอกว่า เป็นโรคภูมิแพ้ หรือไม่ก็เข้าใจว่าตนเป็นหวัด หวัด เกิดจากการติดเชื้อไวรัส คนทั่วไปมักเป็นได้ปีละ 4 – 5 ครั้งก็มากเกินปกติแล้ว อาการหวัดมักเป็นอยู่ 3 – 4 วัน

โรคไข้อีดำอีแดง โรคที่เกิดจากพิษของเชื้อแบคทีเรีย

ข้อมูลจาก สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย โรคไข้อีดำอีแดงหรือ scarlet fever เป็นโรคที่เกิดจากพิษของเชื้อแบคทีเรียชื่อ #สเตร็ปโตคอคคัสชนิดเอ ทำให้มีผื่นแดง ตามตัวร่วมกับคอหอยหรือทอนซิลอักเสบ พบบ่อยในช่วงอายุระหว่าง 5-15 ปี

วัคซีนปอดอักเสบนิวโมคอกคัสชนิดใหม่ 20 สายพันธุ์ (PCV 20)

โรคปอดอักเสบจากเชื้อนิวโมคอกคัสเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอคคัสนิวโมเนียอี (Streptococcus pneumoniae) ส่วนใหญ่เชื้อจะพบอยู่ในโพรงจมูกและลำคอ สามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งทางละอองฝอยทางการไอหรือจาม เป็นหนึ่งในเชื้อที่ทำให้เกิดปอดอักเสบที่พบบ่อย ทั้งในเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ

โรคแอนแทรกซ์ (Anthrax) โรคติดต่อจากสัตว์สู่คน

โรคแอนแทรกซ์ หรือชาวบ้านเรียกว่าโรคกาลี เป็นโรคที่รู้จักกันมาแต่โบราณกาล แอนแทรกซ์นับว่าเป็นโรคระบาดสำคัญโรคหนึ่งในพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2499 เป็นโรคติดต่ออันตรายร้ายแรงที่เกิดขึ้นได้ในสัตว์กินหญ้าแทบทุกชนิด ทั้งสัตว์ป่า เช่น ช้าง เก้ง กวาง และสัตว์เลี้ยง เช่น โค กระบือ แพะ แกะ แล้วติดต่อไปยังคนและสัตว์อื่น

บอลลูนหัวใจ: แก้ปัญหาหลอดเลือดหัวใจตีบ โดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่

การทำบอลลูนหัวใจหรือ PCI เป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพในการรักษาภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบ ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้สะดวก ลดอาการเจ็บหน้าอก และลดความเสี่ยงของหัวใจวาย เป็นการเปิดหลอดเลือดโดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ ทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยยังคงต้องดูแลสุขภาพ หมั่นออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และลดปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ เพื่อรักษาสุขภาพของหัวใจในระยะยาว

ลิ้นหัวใจเทียมคืออะไร? ทำไมต้องเปลี่ยน? และอะไรบ้างที่คุณควรรู้?

การผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจเทียมเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาสำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาลิ้นหัวใจผิดปกติ และการผ่าตัดเปลี่ยนลินหัวใจจะช่วยฟื้นฟูการทำงานของหัวใจให้กลับมาใกล้เคียงปกติ อย่างไรก็ตามผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาจะต้องได้รับการประเมินอย่างละเอียด เพื่อเลือกชนิดของลิ้นหัวใจที่เหมาะสม

หัวใจล้มเหลว อาการเป็นอย่างไร ป้องกันได้อย่างไรบ้าง

หัวใจล้มเหลวคือภาวะที่หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนและสารอาหารไม่เพียงพอ อาการสำคัญที่ควรสังเกต ได้แก่ เหนื่อยง่าย หายใจลำบาก ขาบวม และน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มักเกี่ยวข้องกับโรคหัวใจและหลอดเลือด การวินิจฉัยและรักษาอย่างรวดเร็วจะช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนรุนแรง

การตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจมะเร็ง (Biopsy) หมดความสงสัย วินิจฉัยได้อย่างแม่นยำ

การตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจมะเร็ง (Biopsy) คือวิธีที่นิยมในการวินิจฉัยมะเร็ง เนื่องจากความแม่นยำและละเอียดในการบ่งชี้ประเภทของมะเร็ง ทำได้อย่างไร? บทความนี้มีคำตอบ!

การใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ รักษาใจเต้นผิดจังหวะ ให้กลับสู่ภาวะปกติ

การใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ (Pacemaker Implantation) จะใช้รักษาผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ เครื่องจะช่วยให้หัวใจกลับมาทำงานได้ใกล้เคียงกับระดับปกติอีกครั้ง

รู้จัก ASD คืออะไร? ผนังหัวใจรั่วอาการเป็นแบบไหน รักษายังไงดี

ชวนรู้จัก ASD หรือ ภาวะผนังกั้นหัวใจรั่วคืออะไร ผนังหัวใจรั่ว อันตรายไหม? มาเช็กต้นตอสาเหตุ อาการของ ASD แนวทางการรักษา พร้อมวิธีดูแลให้หัวใจห้องบนแข็งแรง!

Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital