บทความสุขภาพ

Knowledge

การตรวจสอบหัวใจและหลอดเลือด

นพ. วิโรจน์ โตควณิชย์

การตรวจสวนหัวใจและหลอดเลือด

โดย นพ.วิโรจน์ โตควณิชย์

มีผู้ป่วยหลายคนถามว่าการตรวจสวนหลอดเลือดหัวใจเป็นอย่างไร และคนไข้ที่เป็นโรคเส้นเลือดเลี้ยงหัวใจตีบทุกคนต้องทำหรือไม่


การตรวจสวนหลอดเลือดหัวใจ คือ การฉีดสารทึบรังสีเข้าไปในเส้นเลือดหัวใจโดยตรงแล้วถ่ายภาพของเส้นเลือดหัวใจ ทำให้สามารถเห็นบริเวณที่ตีบตันของเส้นเลือดได้อย่างละเอียด วิธีการทำนั้นผู้ป่วยจะได้รับการฉีดยาชาที่ขาหนีบซ้ายหรือขวา หลังจากนั้นแพทย์จะเจาะรูเล็กๆ ที่ผิวหนัง แล้วสอดสายสวนขนาดประมาณ 2.5 มม. เข้าไปในเส้นเลือดแดงผ่านขึ้นไปที่เส้นเลือดแดงใหญ่เออออร์ต้า แล้ววางปลายสายสวนไว้ที่ปากทางเข้าของเส้นเลือดหัวใจทั้งซ้ายและขวา ฉีดสารทึบรังสี ประมาณ 3-5 ซีซี แล้วถ่ายภาพในหลายๆ มุม เพื่อดูเส้นเลือดเลี้ยงหัวใจ โดยวิธีนี้จะเจ็บเฉพาะตอนแรกที่ฉีดยาชาบริเวณขาหนีบเท่านั้น หลังจากที่ทำเสร็จดึงสายสวนออกจะกดบริเวณขาหนีบประมาณ 15 นาที โดยไม่ต้องเย็บ ผู้ป่วยต้องนอนราบและงอขาหนีบไม่ได้ 6-12 ชั่วโมง เวลาที่ใช้ในการทำทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมง


การฉีดยาสีตรวจหลอดเลือดหัวใจนั้นมีความปลอดภัยสูงมาก อันตรายที่เกิดขึ้นนั้นมีน้อยกว่าครึ่งเปอร์เซ็นต์ โรคแทรกซ้อนนั้นอาจเกิดจากการแพ้สารทึบรังสี เช่น ผื่นแพ้ลมพิษ แต่ในปัจจุบันนี้สารทึบรังสีที่ใช้มีผลข้างเคียงน้อย นอกจากนี้ยังอาจเกิดการฉีกขาดของผนังเส้นเลือดแดงที่บริเวณขาหนีบ หรือผนังเส้นเลือดโป่งพองแต่จะเกิดขึ้นน้อยถ้าระมัดระวัง


ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบนั้นไม่จำเป็นต้องตรวจสวนหัวใจทุกคนยกเว้นในกรณีที่มีอาการรุนแรงกินยาแล้วยังมีอาการอยู่ ผู้ป่วยอายุน้อย แพทย์มักจะแนะนำให้ทำหรือในกรณีที่แพทย์ประเมินแล้วว่ามีอาการมาก อาจจำเป็นต้องผ่าตัดหรือทำการขยายเส้นเลือดหัวใจ


ส่วนการตรวจโดยวิธีอื่นๆ นั้น เช่น การใช้เอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ (Ultrafast CT) เพื่อดูปริมาณแคลเซียมที่ผนังหลอดเลือดหัวใจนั้นไม่สามารถทดแทนการฉีดสีได้เป็นเพียงการตรวจที่ช่วยบอกว่าถ้ามีปริมาณแคลเซียมมากจะมีโอกาสที่เส้นเลือดเลี้ยงหัวใจตีบสูงเท่านั้น

เกี่ยวกับผู้เขียนบทความ

นพ. วิโรจน์ โตควณิชย์

นพ. วิโรจน์ โตควณิชย์

สถาบันหัวใจและหลอดเลือดพระรามเก้า

บทความที่เกี่ยวข้อง (10)

ดูทั้งหมด

คุณเป็นโรคภูมิแพ้…จริงหรือ…?

คนทั่วไปเมื่อมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหลเรื้อรัง หรือเป็นๆ หายๆ มักจะบอกว่า เป็นโรคภูมิแพ้ หรือไม่ก็เข้าใจว่าตนเป็นหวัด หวัด เกิดจากการติดเชื้อไวรัส คนทั่วไปมักเป็นได้ปีละ 4 – 5 ครั้งก็มากเกินปกติแล้ว อาการหวัดมักเป็นอยู่ 3 – 4 วัน

โรคไข้อีดำอีแดง โรคที่เกิดจากพิษของเชื้อแบคทีเรีย

ข้อมูลจาก สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย โรคไข้อีดำอีแดงหรือ scarlet fever เป็นโรคที่เกิดจากพิษของเชื้อแบคทีเรียชื่อ #สเตร็ปโตคอคคัสชนิดเอ ทำให้มีผื่นแดง ตามตัวร่วมกับคอหอยหรือทอนซิลอักเสบ พบบ่อยในช่วงอายุระหว่าง 5-15 ปี

วัคซีนปอดอักเสบนิวโมคอกคัสชนิดใหม่ 20 สายพันธุ์ (PCV 20)

โรคปอดอักเสบจากเชื้อนิวโมคอกคัสเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอคคัสนิวโมเนียอี (Streptococcus pneumoniae) ส่วนใหญ่เชื้อจะพบอยู่ในโพรงจมูกและลำคอ สามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งทางละอองฝอยทางการไอหรือจาม เป็นหนึ่งในเชื้อที่ทำให้เกิดปอดอักเสบที่พบบ่อย ทั้งในเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ

โรคแอนแทรกซ์ (Anthrax) โรคติดต่อจากสัตว์สู่คน

โรคแอนแทรกซ์ หรือชาวบ้านเรียกว่าโรคกาลี เป็นโรคที่รู้จักกันมาแต่โบราณกาล แอนแทรกซ์นับว่าเป็นโรคระบาดสำคัญโรคหนึ่งในพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2499 เป็นโรคติดต่ออันตรายร้ายแรงที่เกิดขึ้นได้ในสัตว์กินหญ้าแทบทุกชนิด ทั้งสัตว์ป่า เช่น ช้าง เก้ง กวาง และสัตว์เลี้ยง เช่น โค กระบือ แพะ แกะ แล้วติดต่อไปยังคนและสัตว์อื่น

บอลลูนหัวใจ: แก้ปัญหาหลอดเลือดหัวใจตีบ โดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่

การทำบอลลูนหัวใจหรือ PCI เป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพในการรักษาภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบ ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้สะดวก ลดอาการเจ็บหน้าอก และลดความเสี่ยงของหัวใจวาย เป็นการเปิดหลอดเลือดโดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ ทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยยังคงต้องดูแลสุขภาพ หมั่นออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และลดปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ เพื่อรักษาสุขภาพของหัวใจในระยะยาว

ลิ้นหัวใจเทียมคืออะไร? ทำไมต้องเปลี่ยน? และอะไรบ้างที่คุณควรรู้?

การผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจเทียมเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาสำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาลิ้นหัวใจผิดปกติ และการผ่าตัดเปลี่ยนลินหัวใจจะช่วยฟื้นฟูการทำงานของหัวใจให้กลับมาใกล้เคียงปกติ อย่างไรก็ตามผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาจะต้องได้รับการประเมินอย่างละเอียด เพื่อเลือกชนิดของลิ้นหัวใจที่เหมาะสม

หัวใจล้มเหลว อาการเป็นอย่างไร ป้องกันได้อย่างไรบ้าง

หัวใจล้มเหลวคือภาวะที่หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนและสารอาหารไม่เพียงพอ อาการสำคัญที่ควรสังเกต ได้แก่ เหนื่อยง่าย หายใจลำบาก ขาบวม และน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มักเกี่ยวข้องกับโรคหัวใจและหลอดเลือด การวินิจฉัยและรักษาอย่างรวดเร็วจะช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนรุนแรง

การตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจมะเร็ง (Biopsy) หมดความสงสัย วินิจฉัยได้อย่างแม่นยำ

การตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจมะเร็ง (Biopsy) คือวิธีที่นิยมในการวินิจฉัยมะเร็ง เนื่องจากความแม่นยำและละเอียดในการบ่งชี้ประเภทของมะเร็ง ทำได้อย่างไร? บทความนี้มีคำตอบ!

การใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ รักษาใจเต้นผิดจังหวะ ให้กลับสู่ภาวะปกติ

การใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ (Pacemaker Implantation) จะใช้รักษาผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ เครื่องจะช่วยให้หัวใจกลับมาทำงานได้ใกล้เคียงกับระดับปกติอีกครั้ง

รู้จัก ASD คืออะไร? ผนังหัวใจรั่วอาการเป็นแบบไหน รักษายังไงดี

ชวนรู้จัก ASD หรือ ภาวะผนังกั้นหัวใจรั่วคืออะไร ผนังหัวใจรั่ว อันตรายไหม? มาเช็กต้นตอสาเหตุ อาการของ ASD แนวทางการรักษา พร้อมวิธีดูแลให้หัวใจห้องบนแข็งแรง!

Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital