บทความสุขภาพ

Knowledge

ปลายประสาทอักเสบคืออะไร? รู้สาเหตุ เข้าใจอาการ ลดความเสี่ยง!

พญ. สลิษา ประดิษฐบาทุกา

เคยรู้สึก ชา แสบร้อน หรือมีอาการเจ็บจี๊ดใต้ผิวหนังโดยไม่ทราบสาเหตุหรือไม่? อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของภาวะปลายประสาทอักเสบ ภาวะที่เส้นประสาทได้รับความเสียหาย ส่งผลให้เกิดอาการปวดแปลบ ปวดแสบปวดร้อน หรือแม้แต่กล้ามเนื้ออ่อนแรง หากปล่อยไว้โดยไม่รักษาก็อาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้


ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับโรคปลายประสาทอักเสบ ตั้งแต่สาเหตุ อาการ วิธีรักษา และแนวทางบรรเทาอาการ เพื่อให้คุณเข้าใจและรับมือกับภาวะนี้ได้อย่างถูกต้อง!


Key Takeaways


  • ปลายประสาทอักเสบ คือภาวะที่เส้นประสาทได้รับความเสียหาย ทำให้เกิดอาการชา แสบร้อน เจ็บจี๊ดใต้ผิวหนัง หรือปวดปลายประสาท
  • โรคปลายประสาทอักเสบ เกิดได้จากทั้งโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ไปจนถึงการติดเชื้อ การขาดวิตามิน หรือผลข้างเคียงจากยา
  • อาการที่พบบ่อยเมื่อปลายประสาทอักเสบได้แก่ ปวดแสบปวดร้อน แสบร้อนผิวหนัง เจ็บปลายนิ้วเหมือนเข็มทิ่ม หรืออาการปลายประสาทอักเสบที่หัว ทำให้เจ็บจี๊ดๆบริเวณศีรษะ
  • ปลายประสาทอักเสบ วิธีรักษาได้แก่ การใช้ยาแก้ปลายประสาทอักเสบ ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต และหาวิธีลดอาการปวดปลายประสาท

ปลายประสาทอักเสบคืออะไร? ทำความเข้าใจก่อนรับมือ


ปลายประสาทอักเสบ (Peripheral Neuropathy) คือภาวะที่เกิดจากความผิดปกติหรือความเสียหายของ เส้นปลายประสาท ซึ่งมีหน้าที่ส่งสัญญาณระหว่างไขสันหลังและส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เมื่อเส้นประสาทได้รับความเสียหาย อาจส่งผลให้เกิดอาการปลายประสาทอักเสบ เช่น ชา ปวดแสบปวดร้อน แสบร้อนผิวหนังเหมือนโดนพริก หรือรู้สึกเจ็บจี๊ดใต้ผิวหนังได้ โดยเรียกอย่างง่ายว่า ‘ภาวะเส้นประสาทอักเสบ’


ปลายประสาทอักเสบมีสาเหตุเกิดจากอะไรบ้าง?


peripheral-neuropathy-causes-1024x1024.jpg

เมื่อพูดถึงปลายประสาทอักเสบ หลายคนอาจจะนึกถึงเพียงแค่อาการชา เจ็บ หรือปวดแสบปวดร้อนตามร่างกาย แต่จริง ๆ แล้ว โรคปลายประสาทอักเสบนั้นเป็นโรคที่มีความซับซ้อน สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุร่วมกัน เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าทำไมเส้นประสาทของเราถึงเกิดการอักเสบได้


  • โรคเบาหวาน เนื่องจากน้ำตาลในเลือดสูงทำให้เส้นเลือดเล็ก ๆ ที่ไปเลี้ยงเส้นประสาทเกิดการเสื่อม ซึ่งทำให้การทำงานของเส้นประสาทเสียหายได้ เมื่อเส้นประสาทอักเสบ อาการชา ปวดแสบปวดร้อน โดยเฉพาะที่มือและที่เท้าก็จะตามมา ซึ่งเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด
  • การขาดวิตามิน โดยเฉพาะวิตามินที่สำคัญต่อเส้นประสาท เช่น วิตามิน B1, B6 และ B12 หากขาดไปอาจทำให้เกิดความเสียหายของเยื่อหุ้มเส้นประสาท ทำให้เกิดโรคปลายประสาทอักเสบได้ อย่างไรก็ตามการได้รับวิตามิน B6 มากเกินไปก็สามารถทำให้เกิดโรคปลายประสาทอักเสบได้เช่นเดียวกัน
  • การติดเชื้อบางอย่าง เช่น โรคงูสวัด, การติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิด หรือการติดเชื้อ HIV ส่งผลให้ปลายประสาทอักเสบได้
  • สารพิษและแอลกอฮอล์ การได้รับสารพิษ เช่น โลหะหนัก หรือการดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลานาน ส่งผลต่อเส้นประสาท เเละการดูดซึมวิตามินของกระเพาะอาหารอาจทำให้ปวดปลายประสาทได้เช่นกัน
  • โรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง ยกตัวอย่างเช่น กลุ่มคนที่เป็นโรค SLE หรือ Guillain-Barré syndrome ทำให้ภูมิคุ้มกันโจมตีเส้นประสาทจนเสียหายได้
  • การกดทับเส้นประสาท ยกตัวอย่างพฤติกรรมที่ทำให้เส้นประสาทถูกกดทับ เช่น การนั่งไขว่ห้าง การใช้มือจับเมาส์นาน ๆ อาจทำให้รู้สึกเจ็บปลายนิ้วเหมือนเข็มทิ่ม เนื่องมาจากเส้นปลายประสาทอักเสบ
  • การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาเคมีบำบัด หรือยาปฏิชีวนะบางชนิด อาจมีผลข้างเคียงต่อเส้นประสาท ทำให้ปลายเส้นประสาทอักเสบ
  • โรคทางพันธุกรรม บางคนอาจมีความผิดปกติของเส้นประสาทจากกรรมพันธุ์ ทำให้มีอาการปลายประสาทอักเสบเรื้อรัง

โรคเส้นประสาทอักเสบ อาการเป็นอย่างไร? สัญญาณเตือนที่ห้ามมองข้าม!


ปลายประสาทอักเสบเป็นภาวะที่เส้นประสาทส่วนปลายทำงานผิดปกติ สามารถส่งผลต่อเส้นประสาทเดียว (Mononeuropathy) หลายเส้น (Polyneuropathy) หรือส่งผลต่อกลุ่มเส้นประสาท (Multiple Mononeuropathy) ก็ได้ โดยเฉพาะที่มือและเท้า อาการมักเริ่มจากปวดปลายมือปลายเท้า เจ็บปลายนิ้ว เหมือนเข็มทิ่มก่อน แล้วค่อย ๆ ลามเข้าสู่ส่วนกลางของร่างกาย


เมื่อเป็นโรคปลายประสาทอักเสบ อาการสามารถมีความเกี่ยวพันกับเส้นประสาท 12 คู่ที่มีอยู่ในร่างกายที่จะทำให้ส่งผลต่อใบหน้าได้ ซึ่งแพทย์จะสามารถวินิจฉัยได้เบื้องต้นว่าอาการที่เราเป็นอยู่นี้เกิดจากเส้นประสาทอักเสบคู่ที่เท่าไหร่ โดยอาการที่พบได้บ่อยเมื่อเส้นประสาทแต่ละคู่อักเสบ มีดังนี้


เส้นประสาทคู่ที่ 1 (Olfactory nerve)


มีผลกระทบต่อระบบการรับกลิ่น ทำให้สูญเสียการรับกลิ่น ไม่สามารถแยกแยะกลิ่นต่าง ๆ ได้ชัดเจน หรือบางรายอาจได้กลิ่นแปลก ๆ ที่ไม่มีอยู่จริง ณ ขณะนั้น


เส้นประสาทคู่ที่ 2, 3, 4 และ 6 (Optic, Oculomotor, Trochlear, Abducens nerves)


มีผลต่อการทำงานของกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ของตาและระบบประสาทตา ทำให้มีอาการตากระตุก มองเห็นภาพซ้อน หนังตาตก ม่านตาทำงานผิดปกติ ตามัว ตาพร่า มองภาพไม่ชัด หรือมองเห็นภาพซ้อน บางรายอาจสูญเสียการมองเห็นบางส่วนหรือทั้งหมด


เส้นประสาทคู่ที่ 5 (Trigeminal nerve)


มีผลต่อกล้ามเนื้อใบหน้าและกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการเคี้ยวอาหาร เมื่อเส้นประสาทอักเสบเกิดขึ้นในคู่ที่ 5 อาจส่งผลให้มีอาการปวดใบหน้าแบบเฉียบพลัน ชาบริเวณใบหน้า ปวดแสบปวดร้อนบริเวณแก้มและขากรรไกร ไปจนถึงมีปัญหาในการเคี้ยวอาหาร


เส้นประสาทคู่ที่ 7 (Facial nerve)


มีผลต่อการทำงานของกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการแสดงสีหน้า การรับรสของลิ้น ต่อมน้ำลายและต่อมน้ำตา หากเป็นโรคปลายประสาทอักเสบที่เส้นประสาทคู่ที่ 7 มักจะมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงบริเวณใบหน้า หน้าเบี้ยว แสดงสีหน้าตามปกติไม่ได้ การรับรสชาติเปลี่ยนไป


เส้นประสาทคู่ที่ 8 (Vestibulocochlear nerve)


เป็นเส้นประสาทที่เกี่ยวข้องกับระบบการทำงานของหู หากเกิดเส้นประสาทอักเสบอาการมักจะเวียนศีรษะ มีปัญหาในการทรงตัว เคลื่อนไหวลำบาก หูอื้อ ไปจนถึงได้ยินเสียงผิดปกติ


เส้นประสาทคู่ที่ 9 และ 10 (Glossopharyngeal and Vagus nerves)


เป็นเส้นประสาทส่วนที่เกี่ยวข้องกับการรับรสชาติของลิ้น การสัมผัส ความเจ็บปวดและอุณหภูมิของร่างกาย หากมีปลายประสาทอักเสบที่คู่ 9 และ 10 จะทำให้มีอาการกลืนลำบาก เสียงแหบ ไอบ่อยผิดปกติ หรือรู้สึกเหมือนมีก้อนติดอยู่ในลำคอ


เส้นประสาทคู่ที่ 11 (Accessory nerve)


หากกลุ่มเส้นประสาทคู่ที่ 11 มีภาวะเส้นประสาทอักเสบ อาการที่เกิดขึ้นคือ รู้สึกอ่อนแรงบริเวณกล้ามเนื้อคอและไหล่ การเคลื่อนไหวส่วนลำคอเป็นไปอย่างยากลำบาก ยกไหล่ไม่ขึ้น หรือรู้สึกปวดปลายประสาท


เส้นประสาทคู่ที่ 12 (Hypoglossal nerve)


เส้นประสาทคู่นี้เกี่ยวข้องกับระบบกล้ามเนื้อลิ้น หากเป็นปลายประสาทอักเสบจะทำให้มีอาการลิ้นอ่อนแรง พูดไม่ชัด ขยับลิ้นได้น้อย เคี้ยวและกลืนอาหารลำบาก เป็นต้น


นอกจากอาการเหล่านี้แล้ว ในผู้ป่วยปลายประสาทอักเสบบางราย ยังอาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย ขึ้นอยู่กับบริเวณที่เกิดการอักเสบ เช่น


  • ชาตามปลายนิ้วมือและเท้า และจะชามากขึ้นจนนำไปสู่การเป็นอัมพาต
  • เป็นตะคริวหรือกล้ามเนื้อกระตุก เพราะการที่เส้นประสาทที่ถูกทำลายอาจทำให้มีการส่งสัญญาณผิดปกติไปยังกล้ามเนื้อ
  • ผิวหนังแห้ง แตก ทั้งสองมือหรือเท้า
  • บางรายที่มีอาการปลายประสาทอักเสบที่หัว ทำให้เจ็บหนังศีรษะ

นอกจากนี้ หากระบบประสาทอัตโนมัติ (Autonomic Nervous system หรือ ANS) ซึ่งเป็นระบบประสาทที่ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของอวัยวะภายใ นได้รับผลกระทบ ก็อาจก่อให้เกิดอาการดังนี้


  • ความดันโลหิตไม่สมดุล ทำให้เวียนศีรษะหรือหน้ามืด เมื่อร่างกายเคลื่อนไหวแบบกะทันหัน
  • เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ เนื่องจากระบบประสาทอัตโนมัติส่วนที่ควบคุมระบบสืบพันธุ์มีปัญหา
  • ระบบทางเดินอาหารทำงานแย่ลง ทำให้เกิดอาการท้องเสีย ท้องผูก หรือคลื่นไส้บ่อยครั้ง
  • ระบบขับถ่ายไม่มีประสิทธิภาพ เพราะลำไส้และกระเพาะปัสสาวะทำงานได้ไม่เต็มที่
  • เหงื่อออกมากหรือน้อยผิดปกติ ไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิในร่างกายให้เป็นไปตามปกติได้

การวินิฉัยปลายประสาทอักเสบ


peripheral-neuropathy-patient-types-1024x683.jpg

ผู้ป่วยโรคปลายประสาทอักเสบนั้นมีหลากหลายประเภท ซึ่งส่งผลให้มีอาการแตกต่างกันไป เราจึงต้องอาศัยการวินิจฉัยของแพทย์เพื่อทำการวิเคราะห์อย่างละเอียด ว่าผู้ป่วยมีความเสี่ยงต่อการเป็นเส้นประสาทอักเสบหรือไม่ มาดูกันว่ามีวิธีการตรวจโรคอย่างไรบ้าง


  • การตรวจร่างกาย แพทย์จะทำการตรวจดูอาการต่าง ๆ เช่น การทดสอบการรับรู้รสชาติ หรือการสัมผัส
  • การตรวจเลือด เพื่อตรวจหาค่าผลเลือดที่อาจบ่งชี้ถึงโรคเบาหวานหรือการขาดวิตามิน
  • การทดสอบการทำงานของเส้นประสาท เช่น การทดสอบการนำกระแสไฟฟ้าผ่านเส้นประสาท (Nerve Conduction Studies)
  • การตรวจ MRI เพื่อดูความผิดปกติของเส้นประสาทหรือการกดทับเส้นประสาท
  • การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT-Scan) ใช้เพื่อดูภาพรวมของอวัยวะและเส้นประสาท ซึ่งช่วยในการตรวจหาภาวะที่อาจเป็นสาเหตุของปลายประสาทอักเสบ
  • การตรวจชิ้นเนื้อ ในบางกรณีอาจต้องทำการเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อเพื่อการตรวจสอบ

ปลายประสาทอักเสบ วิธีรักษามีแบบไหนบ้าง?


การรักษาปลายประสาทอักเสบจะต้องครอบคลุมหลายมิติ ทั้งการแก้ไขที่ต้นเหตุ การบรรเทาอาการ และการป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายเพิ่มเติม โดยสามารถแบ่งออกเป็นหลายแนวทาง ดังนี้


  • รักษาปลายประสาทอักเสบที่ต้นเหตุ เปรียบเสมือนการซ่อมต้นทางของสายไฟที่มีปัญหา แพทย์จะค้นหาและรักษาสาเหตุที่ทำให้เกิดปลายประสาทอักเสบ เช่น การควบคุมระดับน้ำตาลในผู้ป่วยเบาหวาน การรักษาโรคภูมิคุ้มกัน หรือการให้วิตามินทดแทนในผู้ที่ขาดสารอาหาร
  • รักษาด้วยการทานยาแก้ปลายประสาทอักเสบ เสมือนการใช้น้ำยาบำรุงสายไฟ
  • ยาที่ใช้มีหลายกลุ่ม เช่น ยากลุ่ม Anticonvulsants, ยากลุ่ม Antidepressants, ยาต้านการอักเสบ, ยากลุ่มวิตามินบีรวม

ปลายประสาทอักเสบ รู้ทัน รักษาไว โอกาสหายเร็ว!


ปลายประสาทอักเสบ เป็นโรคที่จะต้องทำความเข้าใจอย่างมากเพื่อให้ทราบสาเหตุ อาการ และแนวทางในการรักษาได้อย่างเหมาะสม เพราะโรคปลายประสาทอักเสบนั้นมีวิธีรักษาที่ค่อนข้างซับซ้อนและต้องอาศัยการวินิจฉัยอย่างแม่นยำจากแพทย์ ซึ่งอาจประกอบไปด้วยการทานยา การแก้ที่ต้นเหตุ ร่วมกับการทำกายภาพบำบัด การฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกาย หรือการรักษาทางเลือกด้วยการแพทย์แผนต่าง ๆ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะดีที่สุด


สำหรับใครที่อยากทราบข้อมูลเพิ่มเติม หรืออยากปรึกษาเกี่ยวกับอาการหรือการรักษาโรคปลายประสาทอักเสบ สามารถเข้ามาปรึกษาได้ที่ศูนย์สมองและระบบประสาทเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมได้


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม



คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับปลายประสาทอักเสบ


1. เส้นประสาทอักเสบมีโอกาสหายไหม?


การรักษาอาจทำให้หายได้ในผู้ป่วยโดยการเเก้ไขที่ต้นเหตุในรายที่อาการปวดปลายประสาทเกิดมาจากต้นเหตุซึ่งเเก้ไขได้เเละไม่มีผลถาวร เเต่ในบางรายอาจะทำได้เพียงประคองอาการให้ทุเลาหรือไม่พัฒนาไปมากกว่าเดิมเท่านั้น


2. กินอะไรช่วยบำรุงปลายประสาทอักเสบ?


การรับประทานอาหารที่มีวิตามิน B12 และกรดโฟลิก เช่น ปลา ไข่ นม หรืออาหารเสริมโดยเฉพาะ อาจมีส่วนช่วยในการฟื้นฟูการทำงานของเส้นประสาท ลดความเสี่ยงในการเกิดเส้นประสาทอักเสบได้


References


Mayo Clinic Press. (2023, September 2). Peripheral neuropathy. Mayo Clinic. https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/peripheral-neuropathy/symptoms-causes/syc-20352061


Cleveland Clinic. (2022, October 15). Peripheral Neuropathy. Cleveland Clinic. https://my.clevelandclinic.org/health/diseases/14737-peripheral-neuropathy


National Health Service. (2022, October 10). Overview Peripheral neuropathy. NHS. https://www.nhs.uk/conditions/peripheral-neuropathy/


National Institute of Neurological Disorders and Stroke. (2024, August 7). Peripheral Neuropathy. NIH. https://www.ninds.nih.gov/health-information/disorders/peripheral-neuropathy

เกี่ยวกับผู้เขียนบทความ

พญ. สลิษา ประดิษฐบาทุกา

พญ. สลิษา ประดิษฐบาทุกา

ศูนย์สมองและระบบประสาท

บทความที่เกี่ยวข้อง (10)

ดูทั้งหมด

คุณเป็นโรคภูมิแพ้…จริงหรือ…?

คนทั่วไปเมื่อมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหลเรื้อรัง หรือเป็นๆ หายๆ มักจะบอกว่า เป็นโรคภูมิแพ้ หรือไม่ก็เข้าใจว่าตนเป็นหวัด หวัด เกิดจากการติดเชื้อไวรัส คนทั่วไปมักเป็นได้ปีละ 4 – 5 ครั้งก็มากเกินปกติแล้ว อาการหวัดมักเป็นอยู่ 3 – 4 วัน

โรคไข้อีดำอีแดง โรคที่เกิดจากพิษของเชื้อแบคทีเรีย

ข้อมูลจาก สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย โรคไข้อีดำอีแดงหรือ scarlet fever เป็นโรคที่เกิดจากพิษของเชื้อแบคทีเรียชื่อ #สเตร็ปโตคอคคัสชนิดเอ ทำให้มีผื่นแดง ตามตัวร่วมกับคอหอยหรือทอนซิลอักเสบ พบบ่อยในช่วงอายุระหว่าง 5-15 ปี

วัคซีนปอดอักเสบนิวโมคอกคัสชนิดใหม่ 20 สายพันธุ์ (PCV 20)

โรคปอดอักเสบจากเชื้อนิวโมคอกคัสเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอคคัสนิวโมเนียอี (Streptococcus pneumoniae) ส่วนใหญ่เชื้อจะพบอยู่ในโพรงจมูกและลำคอ สามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งทางละอองฝอยทางการไอหรือจาม เป็นหนึ่งในเชื้อที่ทำให้เกิดปอดอักเสบที่พบบ่อย ทั้งในเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ

โรคแอนแทรกซ์ (Anthrax) โรคติดต่อจากสัตว์สู่คน

โรคแอนแทรกซ์ หรือชาวบ้านเรียกว่าโรคกาลี เป็นโรคที่รู้จักกันมาแต่โบราณกาล แอนแทรกซ์นับว่าเป็นโรคระบาดสำคัญโรคหนึ่งในพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2499 เป็นโรคติดต่ออันตรายร้ายแรงที่เกิดขึ้นได้ในสัตว์กินหญ้าแทบทุกชนิด ทั้งสัตว์ป่า เช่น ช้าง เก้ง กวาง และสัตว์เลี้ยง เช่น โค กระบือ แพะ แกะ แล้วติดต่อไปยังคนและสัตว์อื่น

บอลลูนหัวใจ: แก้ปัญหาหลอดเลือดหัวใจตีบ โดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่

การทำบอลลูนหัวใจหรือ PCI เป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพในการรักษาภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบ ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้สะดวก ลดอาการเจ็บหน้าอก และลดความเสี่ยงของหัวใจวาย เป็นการเปิดหลอดเลือดโดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ ทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยยังคงต้องดูแลสุขภาพ หมั่นออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และลดปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ เพื่อรักษาสุขภาพของหัวใจในระยะยาว

ลิ้นหัวใจเทียมคืออะไร? ทำไมต้องเปลี่ยน? และอะไรบ้างที่คุณควรรู้?

การผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจเทียมเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาสำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาลิ้นหัวใจผิดปกติ และการผ่าตัดเปลี่ยนลินหัวใจจะช่วยฟื้นฟูการทำงานของหัวใจให้กลับมาใกล้เคียงปกติ อย่างไรก็ตามผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาจะต้องได้รับการประเมินอย่างละเอียด เพื่อเลือกชนิดของลิ้นหัวใจที่เหมาะสม

หัวใจล้มเหลว อาการเป็นอย่างไร ป้องกันได้อย่างไรบ้าง

หัวใจล้มเหลวคือภาวะที่หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนและสารอาหารไม่เพียงพอ อาการสำคัญที่ควรสังเกต ได้แก่ เหนื่อยง่าย หายใจลำบาก ขาบวม และน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มักเกี่ยวข้องกับโรคหัวใจและหลอดเลือด การวินิจฉัยและรักษาอย่างรวดเร็วจะช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนรุนแรง

การตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจมะเร็ง (Biopsy) หมดความสงสัย วินิจฉัยได้อย่างแม่นยำ

การตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจมะเร็ง (Biopsy) คือวิธีที่นิยมในการวินิจฉัยมะเร็ง เนื่องจากความแม่นยำและละเอียดในการบ่งชี้ประเภทของมะเร็ง ทำได้อย่างไร? บทความนี้มีคำตอบ!

การใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ รักษาใจเต้นผิดจังหวะ ให้กลับสู่ภาวะปกติ

การใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ (Pacemaker Implantation) จะใช้รักษาผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ เครื่องจะช่วยให้หัวใจกลับมาทำงานได้ใกล้เคียงกับระดับปกติอีกครั้ง

รู้จัก ASD คืออะไร? ผนังหัวใจรั่วอาการเป็นแบบไหน รักษายังไงดี

ชวนรู้จัก ASD หรือ ภาวะผนังกั้นหัวใจรั่วคืออะไร ผนังหัวใจรั่ว อันตรายไหม? มาเช็กต้นตอสาเหตุ อาการของ ASD แนวทางการรักษา พร้อมวิธีดูแลให้หัวใจห้องบนแข็งแรง!

Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital