บทความสุขภาพ
Knowledge
พญ. รับพร ทักษิณวราจาร
คนไทยมักรู้จักโรคหลอดเลือดสมอง (stroke) ในชื่อว่า “โรคอัมพาต หรือ อัมพฤกษ์” ซึ่งเกิดจากการที่เนื้อเยื่อสมองมีการขาดเลือด ทำให้แขนขาขยับไม่ได้ ปากเบี้ยว หรือมีปัญหาด้านการสื่อสาร ถ้าเป็นถาวรก็จะเรียกว่าเป็น อัมพาต ถ้าเป็นชั่วคราวก็จะเรียกว่า อัมพฤกษ์ นั่นเอง
โดยปกติโรคหลอดเลือดสมองมักจะเกิดในผู้ที่มีอายุมาก โดยมักพบในผู้ป่วยอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป แต่อย่างไรก็ตาม โรคหลอดเลือดสมองสามารถพบได้ในผู้ที่อายุน้อยเช่นกัน
โรคหลอดเลือดสมอง หรือ Stroke คือ ภาวะที่สมองขาดเลือดไปเลี้ยง เนื่องจากหลอดเลือดตีบ อุดตัน หรือ หลอดเลือดแตก ส่งผลให้เนื้อเยื่อสมองถูกทำลาย ทำให้การทำงานของสมองบางส่วนหรือทั้งหมดผิดปกติไป อาการมักจะเกิดขึ้นทันทีทันใด ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเกิดในผู้ที่มีอายุมาก
แต่อย่างไรตาม ในผู้อายุน้อยกว่า 50 ปี ก็สามารถพบโรคหลอดเลือดสมองได้มากถึง 15% โดยทั่วไปหากเรากล่าวถึงโรคหลอดเลือดสมองในคนอายุน้อย หรือ stroke in the young จะหมายความถึง โรคหลอดเลือดสมองที่พบในผู้ป่วยที่อายุต่ำกว่า 40 ปี
ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมองในคนอายุน้อย มีความคล้ายกันกับคนที่อายุมาก แต่ที่สำคัญคือ ในคนอายุน้อยจะมีปัจจัยเสี่ยงที่กว้างกว่า โดยปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดสมองได้แก่ ข้อต่างๆ ดังต่อไปนี้
ปัจจัยต่างๆ ต่อไปนี้ ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมองได้ในทุกกลุ่มอายุ ในกลุ่มคนอายุน้อย ที่ควบคุมโรคประจำตัวดังกล่าวได้ไม่ดี อาจทำให้เกิดภาวะไขมันอุดตัน และเสี่ยงกับการเกิดโรคหลอดเลือดสมองได้
1. การมีไมเกรนชนิดมีอาการนำ (Migraine with aura)
ไมเกรนชนิดมีอาการนำ คือ ไมเกรนที่มีอาการเห็นแสงแวบ ๆ สีขาวหรือรุ้ง เป็นรอยหยึกหยัก หรือเป็นเส้นนำมาก่อน หรือเกิดพร้อมกับอาการปวดหัว โดยพบว่าไมเกรนชนิดมีออร่า มักจะเกิดในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่นที่เพิ่มโอกาสการเกิดโรคหลอดเลือดสมองตีบ (Ischemic stroke) ในผู้ป่วยไมเกรนชนิดมีอาการนำ ได้แก่ การสูบบุหรี่และการใช้ยาคุมกำเนิด โดยการศึกษาพบว่าถ้าผู้ป่วยมีปัจจัยเสี่ยงทั้ง 3 ข้อนี้ จะมีโอกาสเกิดโรคหลอดเลือดสมองมากกว่าประชากรทั่วไปถึง 9 เท่า
ศึกษาเพิ่มเติมเรื่องไมเกรนได้จาก https://www.praram9.com/migraine/
2. การใช้ยาคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจน
ยาคุมกำเนิดชนิดที่ใช้ในปัจจุบันมีหลากหลายแบบ แต่ชนิดที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูง จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดสมองมากขึ้น 2.75 เท่า ในขณะที่ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม ซึ่งมีฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำกว่า และเป็นที่แพร่หลายมากกว่าในปัจจุบันนั้น มีผลการศึกษาพบว่า เพิ่มความเสี่ยงมากขึ้น 1.9 เท่า และบางการศึกษาพบว่าไม่เพิ่มความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมอง ส่วนยาคุมกำเนิดแบบที่มีแต่ฮอร์โมนโปรเจสติน ไม่พบว่าเพิ่มความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมอง
แต่อย่างไรก็ดี การตั้งครรภ์ก็อาจเป็นความเสี่ยงหนึ่งของโรคหลอดเลือดสมองได้ ดังนั้นเมื่อเทียบกับความเสี่ยงการเกิดโรคหลอดเลือดสมองที่อาจเกิดได้ขณะตั้งครรภ์นั้น คำแนะนำของแพทย์ ณ ปัจจุบัน คือ ผู้หญิงที่มีความเสี่ยงการเกิดโรคหลอดเลือดสมองและอยู่ในวัยเจริญพันธุ์ ยังสามารถกินยาคุมกำเนิดได้ โดยอาจเลือกชนิดให้เหมาะสมกับโรคประจำตัวของตัวเอง
3. การตั้งครรภ์
การเกิดโรคหลอดเลือดสมองในการตั้งครรภ์นั้น พบได้ประมาณ 30 ครั้งต่อการตั้งครรภ์ 100,000 ครั้ง สาเหตุที่ระหว่างตั้งครรภ์มีโอกาสเกิดโรคหลอดเลือดสมองเพิ่มขึ้น เพราะการตั้งครรภ์ทำให้เกิดภาวะเลือดแข็งตัวง่ายขึ้น นอกจากนี้หญิงตั้งครรภ์มีโอกาสเกิดโรคครรภ์เป็นพิษ และภาวะความดันโลหิตสูงในขณะตั้งครรภ์ อันอาจทำให้เกิดทั้งสมองขาดเลือดและหลอดเลือดสมองแตกตามมาได้
ผู้ที่มีภาวะหลอดเลือดแดงใหญ่ที่ด้านหน้าคอปริแตก หรือหลอดเลือดแดงที่คอด้านหลังปริแตก ซึ่งสัมพันธ์กับการบาดเจ็บของหลอดเลือด การหมุนบิดคอรุนแรงจากการนวดการทำนวดจัดกระดูก (Chiropractic) หรืออุบัติเหตุทางรถยนต์ เป็นต้น
ผู้ที่เคยมีประวัติเคยฉายรังสีบริเวณคออาจทำให้หลอดเลือดแดงที่คอเสื่อมสภาพ และเพิ่มความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองได้
ความเสี่ยงจากสาเหตุโรคของหลอดเลือดแดงอาจพบได้ไม่บ่อยนัก แต่ก็เป็นความเสี่ยงหนึ่งของโรคหลอดเลือดสมองในคนอายุน้อยได้ โรคของหลอดเลือดแดงดังกล่าว ได้แก่
อาการจะเหมือนกับในคนที่อายุมาก กล่าวคืออาการที่เกิดจากเนื้อเยื่อสมองส่วนที่ขาดเลือดเสียการทำงานไป ตัวอย่างเช่น
ซึ่งอาจสังเกตอาการได้ตามหลัก FAST ได้แก่
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมวิธีการสังเกตอาการผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองได้ที่ https://www.praram9.com/stroke-symptoms/
ถ้ามีอาการตามหลัก FAST ดังกล่าวข้างต้นข้อใดข้อหนึ่ง ถึงแม้ผู้ป่วยจะอายุน้อย ควรรีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดทันทีหรือ ภายใน 4 ชั่วโมงครึ่ง หลังจากมีอาการผิดปกติเกิดขึ้น เพื่อให้แพทย์ทำการประเมินและวินิจฉัย
หากตรวจพบว่าเป็นโรคหลอดเลือดสมอง แนวทางการรักษา คือ การให้ยาละลายลิ่มเลือด เพื่อเปิดหลอดเลือดสมองให้ทันเวลา ถึงแม้จะเป็นเพียงชั่วคราวและอาการหายไปได้เองก็ควรนัดหมายเพื่อทำการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียดโดยแพทย์เฉพาะทางระบบประสาทเพื่อตรวจหาปัจจัยเสี่ยง และทำการป้องกันการเกิดอาการขึ้นอีก
การนำผู้ป่วยเข้ารับการรักษาได้ทันเวลาจะช่วยลดความเสียหายของเนื้อเยื่อสมองและลดความเสี่ยงของความพิการหรือการเสียชีวิตได้
ศึกษาการวินิจฉัยและรักษาโรคหลอดเลือดสมองเพิ่มเติมที่: https://www.praram9.com/stroke-prevention-and-treatment/
โรคหลอดเลือดสมองสามารถป้องกันได้ โดยการควบคุมปัจจัยเสี่ยงของโรค (ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น) ในส่วนที่เราสามารถจัดการได้ ดังนี้
โรคหลอดเลือดสมองหรือ Stroke เป็นโรคที่นับได้ว่าเป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ เพราะนำไปสู่ความพิการและการเสียชีวิตได้ ส่วนใหญ่เรามักพบผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองในคนอายุมากอย่างไรก็ตาม ยังสามารถพบโรคหลอดเลือดสมองได้ในคนอายุน้อยอีกด้วย ซึ่งถ้าพบผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองอายุน้อยกว่า 40 ปี จะเรียกว่า “โรคหลอดเลือดสมองในคนอายุน้อย หรือ Stroke in the young”
แม้จะเป็นผู้ป่วยอายุน้อยแต่ความอันตรายและความรุนแรงของโรคไม่ได้แตกต่างจากในกลุ่มผู้ป่วยอายุมาก ดังนั้นเมื่อพบอาการที่สงสัยว่าเป็นอาการของโรคหลอดเลือดสมอง ต้องนำผู้ป่วยเข้ารับการรักษาให้ทันเวลา เพื่อช่วยลดความเสี่ยงของความพิการหรือการเสียชีวิตได้
และสิ่งทำคัญที่สุดคือ เราสามารถป้องกันโรคหลอดเลือดสมองได้ โดยการลดปัจจัยเสี่ยงที่ควบคุมได้ หมั่นตรวจสุขภาพเป็นประจำ หากพบอาการผิดปกติควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางระบบประสาทเพื่อสุขภาพที่ดีของเรา
เอกสารอ้างอิง
ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกับ Praram 9 V ปรึกษาแพทย์ได้ทุกที่ผ่านทางวิดีโอคอล (Telemedicine)
เกี่ยวกับผู้เขียนบทความ
แพ็กเกจที่เกี่ยวข้อง (0)
ดูทั้งหมด
บทความที่เกี่ยวข้อง (10)
ดูทั้งหมด
Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital