บทความสุขภาพ

Knowledge

สร้างกระดูกแข็งแรงสู้โรค

นพ. ณัฐวุฒิ ไพสินสมบูรณ์

เคยเป็นไหม นั่งทำงานอยู่ดี ๆ ก็ปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดคอขึ้นมาเฉย ๆ หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นแค่อาการเมื่อยล้าจากการทำงานหนักตามปกติหรือเพียงแค่ปวดกล้ามเนื้อทั่วไป จนละเลยไม่ใส่ใจคิดว่าพักสักหน่อยก็คงหาย แต่รู้หรือไม่ว่าอาการปวดที่รู้สึกอยู่อาจจะเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า กระดูกของคุณไม่ไหวแล้ว


นายแพทย์ณัฐวุฒิ ไพสินสมบูรณ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญกระดูกและข้อ โรงพยาบาลพระรามเก้า อธิบายว่า โรคกระดูกสามารถเกิดได้กับทุกคน ทุกเพศ และทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นเด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน หรือผู้สูงอายุ ล้วนมีโอกาสที่จะมีปัญหาหรือเป็นโรคเกี่ยวกับกระดูกได้ทั้งสิ้น โดยอาการเบื้องต้นของโรคกระดูกที่สังเกตได้ง่าย ๆ คือ อาการปวด นอกจากนี้ในบางรายอาจจะมีอาการอื่น ๆ เช่น อาการขัด มีเสียงความผิดปกติของการขยับ ขาอ่อนแรง ซึ่งหากไม่อยากให้ลุกลามไปถึงขั้นที่เกิดอาการรุนแรงและอันตราย ก็ต้องระมัดระวังและเข้ารับการตรวจรักษาสุขาพตั้งแต่เริ่มต้น


สำหรับโรคกระดูกโดยทั่วไปแล้วมีสาเหตุมาจากการใช้งาน ความเสื่อม และอุบัติเหตุจากการเล่นกีฬาหรือการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งในคนทำงานส่วนใหญ่มักจะเกิดจากการใช้งานหักโหมจนเกินไป โดยเฉพาะพนักงานออฟฟิศที่ต้องนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างต่อเนื่องยาวนาน รวมไปถึงคนที่ต้องเดินนาน ยืนนาน เมื่อประกอบกับการนั่งหรือยืนผิดท่า ก็มีโอกาสที่จะทำให้กล้ามเนื้อคอ หลัง และขาอักเสบ อันจะนำไปสู่อาการเบื้องต้นของโรคกระดูกได้ ซึ่งหากยังปล่อยให้ตัวเองใช้งานกระดูกส่วนต่าง ๆ ผิดท่าไปนาน ๆ ก็จะเพิ่มโอกาสและความเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกเสื่อมให้มากขึ้น ส่วนผู้ที่ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาเป็นประจำ อาการของโรคกระดูกที่พบบ่อย ๆ คือการปวดขา ปวดเข่า หรืออาการปวดในอวัยวะที่ใช้ในเล่นกีฬานั้นๆ


ในผู้สูงอายุโดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นโรคกระดูกเสื่อม ทั้งคอเสื่อม เข่าเสื่อม และ หลังเสื่อม ซึ่งอาจจะเกิดจากอุบัติเหตุหรือการใช้งานกระดูกส่วนนั้น ๆ หนักเกินไปสะสมเป็นเวลานาน โดยอาการเบื้องต้นที่สังเกตได้คือ หากกระดูกคอเสื่อมจะมีอาการปวดคอร้าวลงไปถึงแขน บางครั้งอาจมีอาการแขนชาหรือแขนอ่อนแรงร่วมด้วย หากกระดูกหลังเสื่อมจะปวดหลัง ชาที่ขา หรือมีอาการขาไม่มีแรง แต่หากเข่าเสื่อม สะโพกเสื่อม จะมีอาการปวดเมื่อลงน้ำหนักไปยังจุดนั้น ๆ ในบางรายอาจจะมีเสียงที่เข่าเวลาขยับ นั่งยอง ๆ หรือคุกเข่าไม่ได้ ซึ่งถ้าเป็นหนักมากอาจจะทำให้เกิดอาการขาโก่งผิดรูปได้


ทั้งนี้ตำแหน่งของการเกิดปัญหาหรือโรคเกี่ยวกับกระดูกในแต่ละคนขึ้นอยู่กับที่มาและสาเหตุ เช่น คนที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์บ่อย ๆ นาน ๆ ต้องก้มเยอะ ๆ ก็มีโอกาสที่กล้ามเนื้อและกระดูกคอหรือหลังจะอักเสบได้ หากเป็นคนที่ต้องยืนนาน ๆ โอกาสที่จะมีปัญหาในกระดูกขาหรือเข่าก็สูงกว่าคนทั่วไป หรือในนักกีฬาที่ต้องใช้ช่วงแขนและไหล่เยอะ ก็อาจจะพบอาการของโรคกระดูกแขนและกระดูกไหล่ได้เช่นกัน ฉะนั้นจึงพอสรุปได้ว่าอาการปวดกระดูกหรือเรียกรวม ๆ ว่าโรคเกี่ยวกับกระดูกสามารถเกิดขึ้นได้ในหลายอวัยวะ ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่เป็นสาเหตุของโรคกระดูก เช่น โรคมะเร็งและโรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง ซึ่งต้องได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์โดยตรง


ดังที่บอกไปว่าปัญหาและโรคเกี่ยวกับกระดูกสามารถเกิดได้กับทุกคน ทุกเพศ และทุกวัย ซึ่งเมื่อเป็นแล้วแน่นอนว่าจะทำให้เจ็บปวดและทรมาน หากไม่อยากมีอาการเหล่านั้นก็ต้องหันมาดูแลตัวเองเพื่อป้องกันไว้ก่อน ซึ่งสามารถทำได้ด้วย 4 ข้อปฏิบัติง่ายๆ ดังนี้


  1. กินเพื่อบำรุงกระดูกให้แข็งแรง โดยเน้นอาหารประเภทโปรตีนและอาหารที่มีส่วนประกอบของแคลเซี่ยมในปริมาณที่เหมาะสมและเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เช่น นม ปลาเล็กปลาน้อย ฯลฯ
  2. ออกกำลังกายเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เพราะกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นทั้งหลายเป็นเหมือนเกราะที่ห่อหุ้มกระดูกไว้ ถ้ากล้ามเนื้อและเอ็นแข็งแรง เมื่อเกิดเหตุสุดวิสัยอย่างอุบัติเหตุหรือการกระทบกระทั่งก็จะกระทบกับกระดูกน้อยลง
  3. ใช้งานอวัยวะอย่างระมัดระวังให้ถูกวิธีและพอดี ต้องดูแลตัวเองไม่ให้ใช้งานอวัยวะหรือกระดูกส่วนใดส่วนหนึ่งผิดวิธีหรือใช้งานหักโหมจนเกินไป
  4. หาอุปกรณ์ป้องกันตัวเอง หากรักที่จะเล่นกีฬาหรือใช้ชีวิตผาดโผนก็ต้องรู้จักการดูแลตัวเอง ถ้าจะเล่นกีฬาบางประเภทที่มีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บสูงก็ต้องใส่อุปกรณ์เซฟตี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการบาดเจ็บหรือเป็นอันตรายต่อกระดูก

เพียงแค่ใส่ใจและดูแลตัวเองเท่านี้ ก็ห่างไกลปัญหาและโรคที่เกี่ยวกับกระดูกได้แล้ว

เกี่ยวกับผู้เขียนบทความ

นพ. ณัฐวุฒิ  ไพสินสมบูรณ์

นพ. ณัฐวุฒิ ไพสินสมบูรณ์

ศูนย์กระดูกและข้อโรงพยาบาลพระรามเก้า

บทความที่เกี่ยวข้อง (10)

ดูทั้งหมด

คุณเป็นโรคภูมิแพ้…จริงหรือ…?

คนทั่วไปเมื่อมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหลเรื้อรัง หรือเป็นๆ หายๆ มักจะบอกว่า เป็นโรคภูมิแพ้ หรือไม่ก็เข้าใจว่าตนเป็นหวัด หวัด เกิดจากการติดเชื้อไวรัส คนทั่วไปมักเป็นได้ปีละ 4 – 5 ครั้งก็มากเกินปกติแล้ว อาการหวัดมักเป็นอยู่ 3 – 4 วัน

โรคไข้อีดำอีแดง โรคที่เกิดจากพิษของเชื้อแบคทีเรีย

ข้อมูลจาก สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย โรคไข้อีดำอีแดงหรือ scarlet fever เป็นโรคที่เกิดจากพิษของเชื้อแบคทีเรียชื่อ #สเตร็ปโตคอคคัสชนิดเอ ทำให้มีผื่นแดง ตามตัวร่วมกับคอหอยหรือทอนซิลอักเสบ พบบ่อยในช่วงอายุระหว่าง 5-15 ปี

วัคซีนปอดอักเสบนิวโมคอกคัสชนิดใหม่ 20 สายพันธุ์ (PCV 20)

โรคปอดอักเสบจากเชื้อนิวโมคอกคัสเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอคคัสนิวโมเนียอี (Streptococcus pneumoniae) ส่วนใหญ่เชื้อจะพบอยู่ในโพรงจมูกและลำคอ สามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งทางละอองฝอยทางการไอหรือจาม เป็นหนึ่งในเชื้อที่ทำให้เกิดปอดอักเสบที่พบบ่อย ทั้งในเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ

โรคแอนแทรกซ์ (Anthrax) โรคติดต่อจากสัตว์สู่คน

โรคแอนแทรกซ์ หรือชาวบ้านเรียกว่าโรคกาลี เป็นโรคที่รู้จักกันมาแต่โบราณกาล แอนแทรกซ์นับว่าเป็นโรคระบาดสำคัญโรคหนึ่งในพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2499 เป็นโรคติดต่ออันตรายร้ายแรงที่เกิดขึ้นได้ในสัตว์กินหญ้าแทบทุกชนิด ทั้งสัตว์ป่า เช่น ช้าง เก้ง กวาง และสัตว์เลี้ยง เช่น โค กระบือ แพะ แกะ แล้วติดต่อไปยังคนและสัตว์อื่น

บอลลูนหัวใจ: แก้ปัญหาหลอดเลือดหัวใจตีบ โดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่

การทำบอลลูนหัวใจหรือ PCI เป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพในการรักษาภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบ ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้สะดวก ลดอาการเจ็บหน้าอก และลดความเสี่ยงของหัวใจวาย เป็นการเปิดหลอดเลือดโดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ ทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยยังคงต้องดูแลสุขภาพ หมั่นออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และลดปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ เพื่อรักษาสุขภาพของหัวใจในระยะยาว

ลิ้นหัวใจเทียมคืออะไร? ทำไมต้องเปลี่ยน? และอะไรบ้างที่คุณควรรู้?

การผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจเทียมเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาสำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาลิ้นหัวใจผิดปกติ และการผ่าตัดเปลี่ยนลินหัวใจจะช่วยฟื้นฟูการทำงานของหัวใจให้กลับมาใกล้เคียงปกติ อย่างไรก็ตามผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาจะต้องได้รับการประเมินอย่างละเอียด เพื่อเลือกชนิดของลิ้นหัวใจที่เหมาะสม

หัวใจล้มเหลว อาการเป็นอย่างไร ป้องกันได้อย่างไรบ้าง

หัวใจล้มเหลวคือภาวะที่หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนและสารอาหารไม่เพียงพอ อาการสำคัญที่ควรสังเกต ได้แก่ เหนื่อยง่าย หายใจลำบาก ขาบวม และน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มักเกี่ยวข้องกับโรคหัวใจและหลอดเลือด การวินิจฉัยและรักษาอย่างรวดเร็วจะช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนรุนแรง

การตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจมะเร็ง (Biopsy) หมดความสงสัย วินิจฉัยได้อย่างแม่นยำ

การตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจมะเร็ง (Biopsy) คือวิธีที่นิยมในการวินิจฉัยมะเร็ง เนื่องจากความแม่นยำและละเอียดในการบ่งชี้ประเภทของมะเร็ง ทำได้อย่างไร? บทความนี้มีคำตอบ!

การใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ รักษาใจเต้นผิดจังหวะ ให้กลับสู่ภาวะปกติ

การใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ (Pacemaker Implantation) จะใช้รักษาผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ เครื่องจะช่วยให้หัวใจกลับมาทำงานได้ใกล้เคียงกับระดับปกติอีกครั้ง

รู้จัก ASD คืออะไร? ผนังหัวใจรั่วอาการเป็นแบบไหน รักษายังไงดี

ชวนรู้จัก ASD หรือ ภาวะผนังกั้นหัวใจรั่วคืออะไร ผนังหัวใจรั่ว อันตรายไหม? มาเช็กต้นตอสาเหตุ อาการของ ASD แนวทางการรักษา พร้อมวิธีดูแลให้หัวใจห้องบนแข็งแรง!

Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital