บทความสุขภาพ

Knowledge

โควิด-19 ในผู้ป่วยโรคหัวใจ และอาการทางหัวใจหลังได้รับเชื้อ

พญ. อัณณาช์ เตรียมอนุรักษ์

โควิด-19 ในผู้ป่วยโรคหัวใจ

โควิด-19 โรคระบาดที่สำคัญของยุคนี้ ถึงตอนนี้ทุกคนคงคุ้นเคยกับไวรัสตัวนี้ซึ่งมีอันตราย หากติดเชื้อแล้วอาการรุนแรงก็ทำให้เสียชีวิตได้ ผู้ที่สุขภาพแข็งแรงอาจมีอาการน้อย หรืออาจไม่รุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิต ในขณะที่ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด หากติดโควิด-19 จะทำให้มีอาการรุนแรง ถึงขั้นเสียชีวิตได้


ผู้ป่วยโรคหัวใจติดโควิด-19 อันตรายมากกว่าคนทั่วไป


มีรายงานของวารสาร The Lancet ซึ่งเป็นวารสารทางการแพทย์ที่ได้รับการยอมรับในแวดวงวิชาการ รายงานว่าในจำนวนผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 มีถึง 40% ที่เป็นโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง แสดงให้เห็นว่าผู้ที่มีโรคหัวใจมีความเสี่ยงต่อการติดโควิด-19 ได้มากกว่าคนทั่วไป และยังมีรายงานการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร JAMA Cardiology รายงานอัตราการเสียชีวิตของผู้ที่เป็นโรคหัวใจแล้วติดโควิด-19 ร่วมกับมีภาวะกล้ามเนื้อหัวใจเสียหาย สูงถึง 70% ซึ่งเป็นอัตราการเสียชีวิตที่สูงมาก ดังนั้นผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจจึงเป็นกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังและต้องหลีกเลี่ยงการติดโควิด-19


covid19-and-heart-disease-2.jpg

ไวรัสโควิด-19 อันตรายต่อหัวใจอย่างไร ?


คนทั่วไปหากได้รับเชื้อโควิด-19 แล้ว พบว่ามีความเสี่ยงต่อการเกิดความเสียหายของกล้ามเนื้อหัวใจ เสี่ยงต่อภาวะหัวใจขาดเลือด จนกระทั่งอาจทำให้การทำงานของหัวใจผิดปกติไป ในขณะที่ผู้ป่วยโรคหัวใจจะมีอาการที่รุนแรงมากกว่า


ปัจจุบันเชื่อว่ากลไกที่เชื้อโควิด-19 มีผลต่อหัวใจมีกลไกหลัก ๆ คือ


  1. เชื้อโควิด-19 ทำลายเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจโดยตรง เนื่องจากเชื้อโควิด-19 จะจับกับตัวรับชนิดหนึ่งที่ผิวเซลล์มนุษย์เพื่อเข้าสู่เซลล์ของมนุษย์ ตัวรับนี้มีชื่อว่า ACE-2 receptor (angiotensin-convertingenzyme 2 receptor) ตัวรับชนิดนี้พบมากที่ปอดและหัวใจ จึงทำให้เซลล์หัวใจและปอดได้รับความเสียหายจากเชื้อโควิด-19 ได้โดยตรง พบว่าผู้ป่วยที่ติดโควิด-19 พบเอนไซม์โทรโปนิน (troponin) ในเลือดสูงขึ้น ซึ่งบ่งบอกถึงความเสียหายของกล้ามเนื้อหัวใจ
  2. มีภาวะขาดออกซิเจนของหัวใจ เนื่องจากเชื้อโควิด-19 ทำให้ปอดเสียหาย ทำให้ปอดแลกเปลี่ยนออกซิเจนได้น้อยลง ร่วมกับในช่วงของการติดเชื้อร่างกายและกล้ามเนื้อหัวใจจะต้องการออกซิเจนเพิ่มขึ้น แต่ปอดไม่สามารถทำงานแลกเปลี่ยนออกซิเจนได้อย่างเพียงพอ สุดท้ายกล้ามเนื้อหัวใจก็จะขาดออกซิเจนและนำไปสู่ภาวะหัวใจขาดเลือด และขาดออกซิเจนได้
  3. กระตุ้นการเกิดลิ่มเลือด เชื้อโควิด-19 จะทำให้เซลล์ในหลอดเลือดทั่วร่างกายและหลอดเลือดหัวใจเสียหาย แล้วกระตุ้นทำให้เกิดลิ่มเลือดขึ้นในหลอดเลือด ซึ่งหากลิ่มเลือดนี้เกิดในหลอดเลือดหัวใจจะทำให้เกิดการอุดตัน ตามมาด้วยกล้ามเนื้อหัวใจตายในที่สุด
  4. เกิดการอักเสบของกล้ามเนื้อหัวใจ เชื้อโควิด-19 จะกระตุ้นให้มีการหลั่งสารการอักเสบ (cytokines) ซึ่งทำลายเซลล์หัวใจ จนทำให้การทำงานของหัวใจผิดปกติไป

covid19-and-heart-disease-3.jpg


อาการทางโรคหัวใจเมื่อติดโควิด-19


โควิด-19 ทำให้เกิดภาวะทางหัวใจและหลอดเลือด โดยพบว่าอาจเกิดภาวะ


  • กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
  • กล้ามเนื้อหัวใจเสียหาย โดยพบเอนไซม์โทรโปนิน (troponin) ในเลือดสูงขึ้น
  • ภาวะหัวใจล้มเหลว
  • หัวใจเต้นผิดจังหวะ
  • ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน
  • ภาวะความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด
  • ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน

ซึ่งผู้ที่ติดโควิด-19 อาจมีอาการต่าง ๆ ได้แก่


  • ใจสั่น
  • เจ็บแน่นหน้าอก
  • หายใจเร็ว หอบเหนื่อย
  • รู้สึกอึดอัด หายใจลำบาก

หากมีอาการเหล่านี้ อาจเป็นสัญญาณของภาวะทางหัวใจและหลอดเลือด จึงควรหมั่นใส่ใจและคอยสังเกตอาการของตนเองหากติดโควิด-19 และรีบไปโรงพยาบาลถ้ามีอาการข้างต้น

covid19-and-heart-disease-4.jpg

ภาวะ Long COVID (ลองโควิด) ต่อหัวใจ


เป็นที่ทราบกันว่าผู้ที่ติดโควิด-19 หลังจากหายจากการติดเชื้อแล้ว มักมีอาการต่าง ๆ ที่หลงเหลืออยู่หลังหายจากโควิด-19 หรือที่เรียกว่า ภาวะลองโควิด (long covid) ซึ่งมักมีอาการสมองล้า อ่อนเพลีย ใจสั่น นอนไม่หลับ


โดยผู้ที่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ ผู้ที่เคยผ่าตัดบายพาสหลอดเลือดหัวใจ และโรคหัวใจอื่น ๆ จะมีแนวโน้มที่จะมีอาการทางหัวใจในภาวะลองโควิดได้มากกว่าผู้ไม่มีโรคประจำตัว ซึ่งอาการทางหัวใจที่หลงเหลืออยู่ที่พบในภาวะลองโควิด ได้แก่


  • ใจสั่น
  • เจ็บหน้าอก
  • เหนื่อย อ่อนเพลีย
  • หัวใจเต้นผิดจังหวะ

ดังนั้นการป้องกันไม่ให้ติดโควิด-19 จึงเป็นการป้องกันที่ดีที่สุดที่จะไม่ให้เกิดอาการต่าง ๆ ข้างต้น และหากมีอาการแนะนำให้พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจเพื่อตรวจและวินิจฉัยเพิ่มเติม


covid19-and-heart-disease-5.jpg

อ่านเพิ่มเติม : เข้าใจโรคหัวใจ รู้ก่อน รักษาทัน ป้องกันได้



การป้องกันไวรัสโควิด-19


การดูแลป้องกันตัวเองอย่างที่เราคุ้นเคยยังคงเป็นมาตรการที่ดีที่สุดสำหรับการป้องกันเชื้อโควิด-19 ในผู้ที่เป็นโรคหัวใจ เพื่อป้องไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนทางหัวใจที่รุนแรงและอันตราย


  • ควรเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยเร็วที่สุด
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด รับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ
  • หากมีอาการสงสัยว่าติดโควิด-19 ควรรีบไปโรงพยาบาล
  • รักษาระยะห่าง หรือ social distancing อย่างน้อย 1 เมตร
  • สวมหน้ากากอนามัย โดยควรสวมให้พอดีกับใบหน้า
  • จัดที่บ้านและที่ทำงานให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก
  • ไม่ไปในสถานเสี่ยง ที่มีคนเบียดเสียด หรือที่ที่มีคนเยอะ
  • ล้างมือบ่อย ๆ

covid19-and-heart-disease-6.jpg

สรุป


ผู้ที่มีโรคหัวใจเป็นกลุ่มเสี่ยงที่เมื่อติดโควิด-19 แล้วจะมีอาการรุนแรงและอาจรุนแรงจนถึงเสียชีวิต ซึ่งจากข้อมูลพบว่าผู้เป็นโรคหัวใจมีโอกาสติดโควิด-19 ได้มากกว่าคนปกติ และ หลังหายจากโควิดแล้วยังมีอาการของภาวะลองโควิดได้มากกว่าอีกด้วย


ดังนั้นการป้องกันและรักษามาตรการ รวมถึงการฉีดวัคซีนโควิด-19 จึงเป็นวิธีที่จะป้องกันภาวะแทรกซ้อนอันตรายจากโควิด-19 ได้ และผู้เป็นโรคหัวใจควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ และรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อควบคุมไม่ให้โรคหัวใจแย่ลง



ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกับ Praram 9 V ปรึกษาแพทย์ได้ทุกที่ผ่านทางวิดีโอคอล (Telemedicine)

เกี่ยวกับผู้เขียนบทความ

พญ. อัณณาช์ เตรียมอนุรักษ์

พญ. อัณณาช์ เตรียมอนุรักษ์

สถาบันหัวใจและหลอดเลือดพระรามเก้า

บทความที่เกี่ยวข้อง (10)

ดูทั้งหมด

คุณเป็นโรคภูมิแพ้…จริงหรือ…?

คนทั่วไปเมื่อมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหลเรื้อรัง หรือเป็นๆ หายๆ มักจะบอกว่า เป็นโรคภูมิแพ้ หรือไม่ก็เข้าใจว่าตนเป็นหวัด หวัด เกิดจากการติดเชื้อไวรัส คนทั่วไปมักเป็นได้ปีละ 4 – 5 ครั้งก็มากเกินปกติแล้ว อาการหวัดมักเป็นอยู่ 3 – 4 วัน

โรคไข้อีดำอีแดง โรคที่เกิดจากพิษของเชื้อแบคทีเรีย

ข้อมูลจาก สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย โรคไข้อีดำอีแดงหรือ scarlet fever เป็นโรคที่เกิดจากพิษของเชื้อแบคทีเรียชื่อ #สเตร็ปโตคอคคัสชนิดเอ ทำให้มีผื่นแดง ตามตัวร่วมกับคอหอยหรือทอนซิลอักเสบ พบบ่อยในช่วงอายุระหว่าง 5-15 ปี

วัคซีนปอดอักเสบนิวโมคอกคัสชนิดใหม่ 20 สายพันธุ์ (PCV 20)

โรคปอดอักเสบจากเชื้อนิวโมคอกคัสเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอคคัสนิวโมเนียอี (Streptococcus pneumoniae) ส่วนใหญ่เชื้อจะพบอยู่ในโพรงจมูกและลำคอ สามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งทางละอองฝอยทางการไอหรือจาม เป็นหนึ่งในเชื้อที่ทำให้เกิดปอดอักเสบที่พบบ่อย ทั้งในเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ

โรคแอนแทรกซ์ (Anthrax) โรคติดต่อจากสัตว์สู่คน

โรคแอนแทรกซ์ หรือชาวบ้านเรียกว่าโรคกาลี เป็นโรคที่รู้จักกันมาแต่โบราณกาล แอนแทรกซ์นับว่าเป็นโรคระบาดสำคัญโรคหนึ่งในพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2499 เป็นโรคติดต่ออันตรายร้ายแรงที่เกิดขึ้นได้ในสัตว์กินหญ้าแทบทุกชนิด ทั้งสัตว์ป่า เช่น ช้าง เก้ง กวาง และสัตว์เลี้ยง เช่น โค กระบือ แพะ แกะ แล้วติดต่อไปยังคนและสัตว์อื่น

บอลลูนหัวใจ: แก้ปัญหาหลอดเลือดหัวใจตีบ โดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่

การทำบอลลูนหัวใจหรือ PCI เป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพในการรักษาภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบ ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้สะดวก ลดอาการเจ็บหน้าอก และลดความเสี่ยงของหัวใจวาย เป็นการเปิดหลอดเลือดโดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ ทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยยังคงต้องดูแลสุขภาพ หมั่นออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และลดปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ เพื่อรักษาสุขภาพของหัวใจในระยะยาว

ลิ้นหัวใจเทียมคืออะไร? ทำไมต้องเปลี่ยน? และอะไรบ้างที่คุณควรรู้?

การผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจเทียมเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาสำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาลิ้นหัวใจผิดปกติ และการผ่าตัดเปลี่ยนลินหัวใจจะช่วยฟื้นฟูการทำงานของหัวใจให้กลับมาใกล้เคียงปกติ อย่างไรก็ตามผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาจะต้องได้รับการประเมินอย่างละเอียด เพื่อเลือกชนิดของลิ้นหัวใจที่เหมาะสม

หัวใจล้มเหลว อาการเป็นอย่างไร ป้องกันได้อย่างไรบ้าง

หัวใจล้มเหลวคือภาวะที่หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนและสารอาหารไม่เพียงพอ อาการสำคัญที่ควรสังเกต ได้แก่ เหนื่อยง่าย หายใจลำบาก ขาบวม และน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มักเกี่ยวข้องกับโรคหัวใจและหลอดเลือด การวินิจฉัยและรักษาอย่างรวดเร็วจะช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนรุนแรง

การตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจมะเร็ง (Biopsy) หมดความสงสัย วินิจฉัยได้อย่างแม่นยำ

การตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจมะเร็ง (Biopsy) คือวิธีที่นิยมในการวินิจฉัยมะเร็ง เนื่องจากความแม่นยำและละเอียดในการบ่งชี้ประเภทของมะเร็ง ทำได้อย่างไร? บทความนี้มีคำตอบ!

การใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ รักษาใจเต้นผิดจังหวะ ให้กลับสู่ภาวะปกติ

การใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ (Pacemaker Implantation) จะใช้รักษาผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ เครื่องจะช่วยให้หัวใจกลับมาทำงานได้ใกล้เคียงกับระดับปกติอีกครั้ง

รู้จัก ASD คืออะไร? ผนังหัวใจรั่วอาการเป็นแบบไหน รักษายังไงดี

ชวนรู้จัก ASD หรือ ภาวะผนังกั้นหัวใจรั่วคืออะไร ผนังหัวใจรั่ว อันตรายไหม? มาเช็กต้นตอสาเหตุ อาการของ ASD แนวทางการรักษา พร้อมวิธีดูแลให้หัวใจห้องบนแข็งแรง!

Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital