บทความสุขภาพ

Knowledge

ปลูกถ่ายไตจากหมูสู่คน ความหวังที่ไม่ไกลเกินเอื้อม

พญ. สุธานิธิ เลาวเลิศ

ปัญหาการขาดแคลนอวัยวะเป็นอีกปัญหาที่สำคัญของวงการสาธารณสุขของทั้งในประเทศไทยและเกือบทุกประเทศทั่วโลก ในปัจจุบัน แม้ว่าจะมีความก้าวหน้าทางการแพทย์ในด้านการปลูกถ่ายอวัยวะเป็นอย่างมากจนสามารถช่วยให้ผู้ป่วยมีชีวิตรอดได้ยาวนานมากขึ้น และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าในอดีตเป็นอย่างมาก แต่ยังมีอุปสรรคสำคัญในเรื่องการขาดแคลนอวัยวะ เนื่องจากยังมีผู้บริจาคอวัยวะน้อยกว่าคนไข้ที่รอการปลูกถ่ายอวัยวะเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนไข้โรคไตวายเรื้อรัง ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี ทำให้ มีผู้ป่วยจำนวนมากที่เสียชีวิตในแต่ละปีระหว่างรอการปลูกไต สำหรับประเทศไทยในปี 2566 พบว่ามีผู้รอรับบริจาคไตทั้งสิ้น 6,634 ราย ในขณะที่มีผู้ป่วยทีได้รับการผ่าตัดปลูกถ่ายไตเพียง 986 รายเท่านั้น (ข้อมูลจากสภากาชาดไทย) การปลูกถ่ายอวัยวะจากสัตว์สู่คน (Xenotransplantation) เป็นหนึ่งในวิธีที่มีศักยภาพอย่างมากในการแก้ปัญหาการขาดแคลนอวัยวะของมนุษย์ โดยอวัยวะของสัตว์ที่ผ่านการปรับแต่งพันธุกรรมจนสามารถเข้ากับมนุษย์ให้มากที่สุดแล้วนั้นจะสามารถนำมาใช้เพื่อช่วยลดเวลาในการรอการปลูกถ่ายอวัยวะให้แก่มนุษย์ได้ เพื่อให้สามารถช่วยรักษาผู้ป่วยได้อย่างทันท่วงที และช่วยลดอัตราผู้เสียชีวิตจากปัญหาการขาดแคลนอวัยวะได้ในที่สุด ดังนั้นการปลูกถ่ายอวัยวะจากสัตว์สู่คนจึงกลายเป็นหนึ่งในความหวังของคนไข้ทั่วโลก


การปลูกถ่ายอวัยวะจากสัตว์สู่คน (Xenotransplantation) คืออะไร?


การปลูกถ่ายอวัยวะจากสัตว์สู่คน คือ กระบวนการที่นำอวัยวะหรือเนื้อเยื่อจากสัตว์มาปลูกถ่ายใส่ให้แก่คน โดยนักวิทยาศาสตร์การแพทย์จะใช้เทคนิคทางวิศวะพันธุกรรมที่ทันสมัยในปัจจุบันอย่าง CRISPR-Cas 9 ในการปรับแต่งพันธุกรรมของตัวอ่อนหมูสำหรับการผลิตอวัยวะที่มีความเข้ากันได้กับมนุษย์มากขึ้น เพื่อลดอัตราการปฏิเสธอวัยวะจากการผ่าตัดปลูกถ่าย โดยอวัยวะที่เริ่มมีการทดลองใช้ในการปลูกถ่ายคือหัวใจและไต อย่างไรก็ตามยังมีความจำเป็นที่จะต้องศึกษาถึงผลกระทบในระยะยาวต่อไปเพื่อให้เข้าใจอาการและผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นในระยะยาวต่อมนุษย์ผู้ที่ได้รับการปลูกถ่าย


ทำไมต้องเป็นหมู


สัตว์ที่นิยมนำมาใช้คือหมู เนื่องจากสามารถเพาะพันธุ์ได้โดยง่าย มีอวัยวะภายในที่มีขนาดใกล้เคียงกับมนุษย์มากที่สุด และมีความเสี่ยงในการแพร่กระจายโรคต่ำกว่าสัตว์ชนิดอื่นๆ


ผลการศึกษาทดลองจากอดีตจนถึงปัจจุบัน


ในช่วงแรก มีการทดลองการปลูกถ่ายไตหมูให้แก่ลิงบาบูน ลิงบาบูนถูกนำมาใช้เพราะมีพันธุกรรมที่ใกล้เคียงกับมนุษย์มาก และไตสามารถทำงานได้เกิน 2 ปี ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมาจึงได้มีการทดลองใส่อวัยวะของหมูให้แก่คน โดยการศึกษาที่มหาวิทยาลัยแมรี่แลนด์ (University of Maryland Medical Center) ทดลองปลูกถ่ายหัวใจหมูสู่คน 2 ราย รายแรกเป็นผู้ป่วยชายได้รับหัวใจจากหมู หลังการผ่าตัดเขามีชีวิตอยู่ได้อีกเพียง 2 เดือน สาเหตุการเสียชีวิตไม่ชัดเจน เชื่อว่าเกิดจากการติดเชื้อไวรัสชื่อ porcine CMV ซึ่งเป็นไวรัสเฉพาะหมู ส่วนในรายที่ 2 เกิดภาวะปฏิเสธเนื้อเยื่อแบบชนิดแอนติบอดี ทำลายอวัยวะในที่สุด ในขณะที่มีการศึกษาการปลูกถ่ายไตหมูให้ผู้ป่วยสมองตาย (ก่อนที่หัวใจจะหยุดทำงาน) 2 รายที่ มหาวิทยาลัยอลาบามา (University of Alabama) โดยติดตามการทำงานของไตหลังปลูกถ่ายเป็นเวลา 54 และ 74 ชั่วโมงตามลำดับ พบว่าไตยังสามารถทำงานได้เป็นอย่างดี โดยไม่มีการปฏิเสธเนื้อเยื่อ


และจากข่าวล่าสุดที่กำลังเป็นที่ฮือฮาในวงการปลูกถ่ายอวัยวะทั่วโลก คือการปลูกถ่ายไตหมูสู่ผู้ป่วยโรคไตสำเร็จเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2024 ณ โรงพยาบาลแมสซาซูเซตส์เจเนอรัล โดยเปิดเผยข้อมูลอาสาสมัครเป็นผู้ป่วยชายชื่อ ริชาร์ด สเลย์แมน อายุ 62 ปี เป็นโรคไตเรื้อรังจากเบาหวาน ความดันโลหิตสูง เคยได้รับการผ่าตัดปลูกถ่ายไตมาแล้วเมื่อ 5 ปีก่อน แต่ต่อมาการทำงานของไตล้มเหลว ต้องกลับมาฟอกเลือดใหม่ และได้รับการปลูกถ่ายไตเป็นครั้งที่ 2 โดยใช้ ไตหมู Yucatan เลือดกรุ๊ปโอ ที่มีการปรับเปลี่ยนพันธุกรรมตำแหน่งต่างๆถึง 69 ตำแหน่ง โดยการเปลี่ยนแปลงหลักๆ คือ


  1. ลบยีนส์ที่สร้างโปรตีนคาร์โบไฮเดรตบนผิวเซลล์หมู (glycan antigen) ออกไป 3 ตำแหน่ง เนื่องจากร่างกายคนมีแอนติบอดีต่อโปรตีนดังกล่าวแต่แรก (pre-form antibody)
  2. เพิ่มยีนส์มนุษย์ (overexpressing human transgenes) ที่สร้างโปรตีนเกี่ยวกับระบบคอมพลิเมนต์ของคนและการแข็งตัวในหลอดเลือด 7 ยีนส์ เช่น CD55 และ CD 46 เพื่อให้มีความสามารถยับยั้งระบบคอมพลิเมนต์ของคนได้
  3. ยับยั้งการทำงานของรีโทรไวรัสฝังใน (inactivating porcine endogenous retroviruses)

ริชาร์ด สเลย์แมน ได้รับอนุญาติให้ออกจากรพ. เมื่อวันที่ 3 เมษายน โดยไม่ต้องฟอกเลือด เนื่องจากไตหมูสามารถทำงานได้ดี ริคกล่าวว่า หนึ่งในเหตุผลที่เขาเข้ารับการรักษาด้วยวิธีนี้คือ ไม่เพียงแต่ช่วยชีวิตเขาเอง แต่เพื่อให้เขาความหวังแก่ผู้คนจำนวนมากที่ต้องการปลูกถ่ายเผื่อความอยู่รอด อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 พค.ได้มีการประกาศการเสียชีวิตของเขาโดยยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของการเสียชีวิต


ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับการจากไปของ ริค เป็นผู้บุกเบิกก้าวใหญ่ของวงการปลูกถ่ายอวัยวะ ความกล้าหาญและความเสียสละของริค จะไม่สูญเปล่าแน่นอนค่ะ


Reference


  1. https://www.kidney.org/atoz/content/xenotransplantation
  2. Anand, R.P., Layer, J.V., Heja, D. et al. Design and testing of a humanized porcine donor for xenotransplantation. Nature 622, 393–401 (2023). https://doi.org/10.1038/s41586-023-06594-4

เกี่ยวกับผู้เขียนบทความ

พญ. สุธานิธิ เลาวเลิศ

พญ. สุธานิธิ เลาวเลิศ

สถาบันโรคไตและเปลี่ยนไต โรงพยาบาลพระรามเก้า

บทความที่เกี่ยวข้อง (10)

ดูทั้งหมด

คุณเป็นโรคภูมิแพ้…จริงหรือ…?

คนทั่วไปเมื่อมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหลเรื้อรัง หรือเป็นๆ หายๆ มักจะบอกว่า เป็นโรคภูมิแพ้ หรือไม่ก็เข้าใจว่าตนเป็นหวัด หวัด เกิดจากการติดเชื้อไวรัส คนทั่วไปมักเป็นได้ปีละ 4 – 5 ครั้งก็มากเกินปกติแล้ว อาการหวัดมักเป็นอยู่ 3 – 4 วัน

โรคไข้อีดำอีแดง โรคที่เกิดจากพิษของเชื้อแบคทีเรีย

ข้อมูลจาก สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย โรคไข้อีดำอีแดงหรือ scarlet fever เป็นโรคที่เกิดจากพิษของเชื้อแบคทีเรียชื่อ #สเตร็ปโตคอคคัสชนิดเอ ทำให้มีผื่นแดง ตามตัวร่วมกับคอหอยหรือทอนซิลอักเสบ พบบ่อยในช่วงอายุระหว่าง 5-15 ปี

วัคซีนปอดอักเสบนิวโมคอกคัสชนิดใหม่ 20 สายพันธุ์ (PCV 20)

โรคปอดอักเสบจากเชื้อนิวโมคอกคัสเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอคคัสนิวโมเนียอี (Streptococcus pneumoniae) ส่วนใหญ่เชื้อจะพบอยู่ในโพรงจมูกและลำคอ สามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งทางละอองฝอยทางการไอหรือจาม เป็นหนึ่งในเชื้อที่ทำให้เกิดปอดอักเสบที่พบบ่อย ทั้งในเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ

โรคแอนแทรกซ์ (Anthrax) โรคติดต่อจากสัตว์สู่คน

โรคแอนแทรกซ์ หรือชาวบ้านเรียกว่าโรคกาลี เป็นโรคที่รู้จักกันมาแต่โบราณกาล แอนแทรกซ์นับว่าเป็นโรคระบาดสำคัญโรคหนึ่งในพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2499 เป็นโรคติดต่ออันตรายร้ายแรงที่เกิดขึ้นได้ในสัตว์กินหญ้าแทบทุกชนิด ทั้งสัตว์ป่า เช่น ช้าง เก้ง กวาง และสัตว์เลี้ยง เช่น โค กระบือ แพะ แกะ แล้วติดต่อไปยังคนและสัตว์อื่น

บอลลูนหัวใจ: แก้ปัญหาหลอดเลือดหัวใจตีบ โดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่

การทำบอลลูนหัวใจหรือ PCI เป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพในการรักษาภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบ ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้สะดวก ลดอาการเจ็บหน้าอก และลดความเสี่ยงของหัวใจวาย เป็นการเปิดหลอดเลือดโดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ ทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยยังคงต้องดูแลสุขภาพ หมั่นออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และลดปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ เพื่อรักษาสุขภาพของหัวใจในระยะยาว

ลิ้นหัวใจเทียมคืออะไร? ทำไมต้องเปลี่ยน? และอะไรบ้างที่คุณควรรู้?

การผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจเทียมเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาสำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาลิ้นหัวใจผิดปกติ และการผ่าตัดเปลี่ยนลินหัวใจจะช่วยฟื้นฟูการทำงานของหัวใจให้กลับมาใกล้เคียงปกติ อย่างไรก็ตามผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาจะต้องได้รับการประเมินอย่างละเอียด เพื่อเลือกชนิดของลิ้นหัวใจที่เหมาะสม

หัวใจล้มเหลว อาการเป็นอย่างไร ป้องกันได้อย่างไรบ้าง

หัวใจล้มเหลวคือภาวะที่หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนและสารอาหารไม่เพียงพอ อาการสำคัญที่ควรสังเกต ได้แก่ เหนื่อยง่าย หายใจลำบาก ขาบวม และน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มักเกี่ยวข้องกับโรคหัวใจและหลอดเลือด การวินิจฉัยและรักษาอย่างรวดเร็วจะช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนรุนแรง

การตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจมะเร็ง (Biopsy) หมดความสงสัย วินิจฉัยได้อย่างแม่นยำ

การตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจมะเร็ง (Biopsy) คือวิธีที่นิยมในการวินิจฉัยมะเร็ง เนื่องจากความแม่นยำและละเอียดในการบ่งชี้ประเภทของมะเร็ง ทำได้อย่างไร? บทความนี้มีคำตอบ!

การใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ รักษาใจเต้นผิดจังหวะ ให้กลับสู่ภาวะปกติ

การใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ (Pacemaker Implantation) จะใช้รักษาผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ เครื่องจะช่วยให้หัวใจกลับมาทำงานได้ใกล้เคียงกับระดับปกติอีกครั้ง

รู้จัก ASD คืออะไร? ผนังหัวใจรั่วอาการเป็นแบบไหน รักษายังไงดี

ชวนรู้จัก ASD หรือ ภาวะผนังกั้นหัวใจรั่วคืออะไร ผนังหัวใจรั่ว อันตรายไหม? มาเช็กต้นตอสาเหตุ อาการของ ASD แนวทางการรักษา พร้อมวิธีดูแลให้หัวใจห้องบนแข็งแรง!

Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital