บทความสุขภาพ

Knowledge

การฟอกไต วิธียืดอายุผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง ป้องกันอันตรายจากสารพิษสะสม

พญ. ชโลธร แต้ศิลปสาธิต

‘ไต’ทำหน้าที่ขจัดของเสียและรักษาสมดุลของเหลวในร่างกาย เมื่อไตไม่สามารถทำงานได้เช่นเดิม น้ำส่วนเกินและของเสียสะสมจะส่งผลกระทบต่อร่างกายหลายระบบและอาจร้ายแรงถึงชีวิต ซึ่งการฟอกไต เป็นหนึ่งในแนวทางการรักษาโรคไตที่ช่วยประคับประคองให้ร่างกายสามารถทำงานได้ใกล้เคียงปกติ และสามารถยืดอายุของผู้ป่วยให้มีชีวิตอยู่ได้นานขึ้น


Key Takeaways


  • การฟอกไต คือวิธีการกำจัดของเสีย สารพิษ และน้ำส่วนเกินออกจากเลือดทดแทนไตที่ไม่สามารถทำหน้าที่ได้ตามปกติ
  • แพทย์จะพิจารณาให้ผู้ป่วยโรคไตเข้าสู่กระบวนการฟอกไต เมื่อประสิทธิภาพการกรองของเสียออกจากเลือดของไตเหลืออยู่ไม่ถึง 10 มิลลิลิตร / นาที / 1.73 ตารางเมตร
  • การฟอกไตมี 2 รูปแบบ ได้แก่ การฟอกไตทางหลอดเลือด และทางช่องท้อง
  • ผู้ป่วยจะต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อเตรียมการฟอกไต ด้วยการสร้างหลอดเลือดสำหรับการฟอกไตทางหลอดเลือด และการใส่ท่อเพื่อการฟอกไตทางช่องท้อง
  • ผู้ป่วยจะต้องฟอกไตไปตลอดชีวิตหรือจนกว่าจะได้รับการปลูกถ่ายไตใหม่ ดังนั้นผู้ป่วยควรดูแลสุขภาพกายและใจอยู่เสมอ เพื่อทำความคุ้นชินกับการฟอกไตและใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข

การฟอกไตคืออะไร? ทำไมผู้ป่วยโรคไตต้องฟอก?


การฟอกไตคืออะไร-ทำไมผู้ป่วยโรคไตต้องฟอก-1024x1024.webp

การฟอกไต (Hemodialysis) คือกระบวนการรักษาผู้ป่วยโรคไต ที่ไตเสียหายจนไม่สามารถทำงานได้ตามปกติด้วยเครื่องฟอกไต (Dialysis machine) โดยการจำลองการทำงานของไตที่สุขภาพดี เพื่อทำหน้าที่ขจัดสารพิษและของเสียต่าง ๆ แทนไตเดิมที่ไม่สามารถขับออกได้ และยังช่วยรักษาสมดุลน้ำ เกลือแร่ในร่างกายให้อยู่ในระดับใกล้เคียงปกติที่สุด


การฟอกไตจำเป็นต่อผู้ป่วยโรคไตที่การทำงานของไตลดลงเหลือต่ำกว่า 10 มิลลิลิตร / นาที / 1.73 ตารางเมตร เนื่องจากไตไม่สามารถขจัดของเสีย รักษาสมดุลน้ำและเกลือแร่ในร่างกายได้อีกต่อไป จนเริ่มส่งผลกระทบต่อระบบอื่น ๆ ในร่างกายอย่างรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นภาวะน้ำท่วมปอด, เลือดเป็นกรด, เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ, หัวใจล้มเหลว และเสียชีวิตในที่สุด


ผู้ป่วยกลุ่มไหนที่จะต้องเข้ารับการฟอกไต?


  • ผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง ไม่ว่าจะมีสาเหตุจากโรคไตเอง หรือสาเหตุจากโรคอื่น เช่น เบาหวาน, ความดันโลหิตสูง, ไตอักเสบจากภูมิคุ้มกัน
  • ผู้ป่วยโรคไตวายเฉียบพลันที่มีภาวะแทรกซ้อน เช่น น้ำท่วมปอด, ภาวะเกลือแร่ผิดปกติ หรือสมดุลกรด-ด่างผิดปกติที่ไม่สามารถแก้ไขด้วยการใช้ยาได้, ภาวะยูมีเรียจากของเสียคั่งค้างในร่างกาย

“รักษาด้วยการฟอกไต มีโอกาสหายไหม? สำหรับผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง การฟอกไตเป็นเพียงวิธีลดผลกระทบที่เกิดจากโรคไตเท่านั้น ไม่สามารถชะลอการลุกลามและรักษาให้หายจากโรคไตวายได้”


รู้จักวิธีฟอกไต มีแบบไหนบ้าง?


type-of-kidney-dialysis.webp

วิธีการฟอกไตที่ใช้ในปัจจุบันมีอยู่ 2 วิธีหลัก ดังนี้


การฟอกไตทางหลอดเลือด (Hemodialysis)


การฟอกไตทางหลอดเลือด คือวิธีการขจัดของเสีย สารพิษ และน้ำส่วนเกินด้วยเครื่องไตเทียมที่อยู่ภายนอกร่างกาย ซึ่งขั้นตอนการฟอกไตทางหลอดเลือดจะเริ่มต้นจากผ่าตัดต่อหลอดเลือดขยายหลอดเลือดดำให้ใหญ่ขึ้นและพาเลือดเข้าสู่เครื่องไตเทียมได้ เมื่อต้องฟอกไตจะทำการใส่เข็มเข้าที่หลอดเลือด 2 เส้น


  • เส้นเลือดแรก เพื่อเป็นทางให้เลือดออกจากร่างกายและหมุนเวียนเข้าไตเทียม ซึ่งภายในไตเทียมจะมีตัวกรอง Dialyzer ที่มีน้ำยาฟอกเลือด ช่วยดึงของเสีย น้ำส่วนเกินภายในเลือด และปรับสมดุลเกลือแร่ให้เหมาะสม
  • เส้นเลือดที่สอง เพื่อให้เลือดที่ผ่านการกรองแล้วไหลกลับเข้าสู่ร่างกายอีกครั้ง

การฟอกไตวิธีนี้ ผู้ป่วยจะต้องเข้ามาฟอกไตที่โรงพยาบาลหรือศูนย์ฟอกไต โดยจะใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงต่อครั้ง และต้องทำอย่างน้อย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของโรค


การฟอกไตทางช่องท้อง (Peritoneal Dialysis)


การฟอกไตทางช่องท้องเป็นวิธีการขจัดของเสีย สารพิษ และน้ำส่วนเกินด้วยการใช้เยื่อบุช่องท้องเป็นตัวกรองแทนไต โดยก่อนจะฟอกไตด้วยวิธีนี้จะต้องเข้ารับการผ่าตัดใส่ท่อฟอกไตผ่านผนังหน้าท้อง (Peritoneum) เพื่อเป็นช่องทางให้น้ำยาฟอกไตเข้า-ออก หลังจากนั้น 1-2 สัปดาห์จึงจะเริ่มฟอกไตทางช่องท้องได้ ซึ่งมีวิธีการดังนี้


  1. ผู้ป่วยเติมน้ำยาฟอกไตเข้าสู่ช่องท้องผ่านท่อที่ผ่าตัดต่อไว้
  2. น้ำยาฟอกไตจะทำงานแลกเปลี่ยนของเสีย ปรับสมดุลเกลือแร่ และดึงน้ำส่วนเกินออกจากเลือด
  3. เมื่อครบ 4-6 ชั่วโมง ให้ปล่อยน้ำยาทิ้งออกจากช่องท้อง จากนั้นให้เติมน้ำยาใหม่เข้าสู่ช่องท้องอีกครั้ง

การฟอกไตวิธีนี้ ผู้ป่วยสามารถทำได้เองที่บ้าน และจะต้องทำทุกวัน วันละประมาณ 4-6 ครั้งต่อวัน หรือตามคำแนะนำของแพทย์


เมื่อไหร่ที่คุณต้องเริ่มฟอกไต?


เมื่อไหร่ที่คุณต้องเริ่มฟอกไต-1024x1024.webp

ไม่ใช่ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังทุกคนที่จะต้องเข้ารับการฟอกไตทันที เพราะแพทย์จะพิจารณาให้ผู้ป่วยฟอกไต เมื่อไตของผู้ป่วยมีความสามารถในการกรองของเสียออกจากเลือดไม่ถึง 10 มิลลิลิตร / นาที / 1.73 ตารางเมตร ซึ่งอาการที่บ่งบอกว่าคุณจะต้องเริ่มฟอกไตแล้วมีดังนี้


  • ภาวะเลือดเป็นกรด
  • ระดับเกลือแร่ผิดปกติ
  • ภาวะบวมน้ำรุนแรง เสี่ยงต่อระบบหายใจล้มเหลว
  • เยื่อหุ้มปอดหรือเยื่อหัวใจอักเสบ
  • ภาวะยูรีเมีย ผู้ป่วยมีอาการมึนงง ชักกระตุก หมดสติ

วิธีเตรียมตัวก่อนฟอกไตครั้งแรก


how-to-kidney-dialysis.webp

เมื่อแพทย์พิจารณาให้ผู้ป่วยเข้ารับการฟอกไต อันดับแรก ผู้ป่วยจะต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อเตรียมตัวสำหรับการฟอกไตก่อน ซึ่งการฟอกไตทั้งสองวิธีจะมีการผ่าตัดที่ต่างกัน ดังนี้


  • วิธีฟอกไตทางหลอดเลือด : แพทย์จะทำการผ่าตัดสร้างเส้นเลือดสำหรับการฟอกไตขึ้นมา ซึ่งวิธีการเตรียมเส้นฟอกเลือดนั้นมีทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่
    • การใช้หลอดเลือดจริง (Arteriovenous Fistula; AVF) เป็นการนำหลอดเลือดดำและหลอดเลือดแดงจริงของผู้ป่วยมาผ่าตัดเชื่อมต่อกัน เพื่อให้หลอดเลือดดำมีขนาดใหญ่และแข็งแรงขึ้น เหมาะสมต่อการนำเลือดออกมาฟอกในเครื่องไตเทียม
    • การใช้หลอดเลือดเทียม (Arteriovenous Graft; AVG) เป็นการใส่หลอดเลือดเทียมเชื่อมระหว่างหลอดเลือดดำและหลอดเลือดแดง จะใช้วิธีนี้ก็ต่อเมื่อหลอดเลือดของผู้ป่วยมีขนาดเล็กจนไม่สามารถผ่าตัดเชื่อมหลอดเลือดจริงได้
    • การใส่สายสวน (Permanent catheter) เป็นวิธีการใส่สายขนาดใหญ่กับหลอดเลือดดำใหญ่ที่คอ หรือที่ขา เพื่อให้เลือดสามารถไหลเข้าไตเทียมได้เร็ว จะใช้วิธีนี้ก็ต่อเมื่อเส้นเลือดของผู้ป่วยมีปัญหาจนไม่สามารถผ่าตัดเชื่อมหลอดเลือดได้ ผู้ที่มีความดันต่ำ หรือผู้ที่ต้องฟอกไตด่วน เนื่องจากหลังผ่าตัดสามารถใช้ฟอกเลือดได้ทันที
  • วิธีฟอกไตทางช่องท้อง : แพทย์จะต่อท่อเทนซ์คอฟฟ์ (Tenchkoff Catheter) เข้าที่ช่องท้องออกสู่นอกร่างกาย เพื่อใช้เป็นช่องทางเข้า-ออกของน้ำยาฟอกไต

นอกจากการเตรียมพร้อมร่างกายเพื่อการฟอกไตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผู้ป่วยยังควรเตรียมจิตใจให้พร้อมเนื่องจากการฟอกไตในแต่ละครั้งจะใช้ระยะเวลานานหลายชั่วโมง หากเป็นการฟอกไตด้วยเครื่องไตเทียม ระหว่างทำหัตถการ แนะนำให้เตรียมหนังสือหรือแบตเตอรี่มือถือให้พร้อมเพื่อทำกิจกรรมผ่อนคลายระหว่างรอ แต่หากเป็นการฟอกไตทางช่องท้อง ผู้ป่วยอาจทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้หลากหลายกว่าเนื่องจากหลังใส่น้ำยาฟอกไตในหน้าท้องแล้วจะสามารถเคลื่อนย้ายได้อิสระ


แต่ไม่ว่าจะเป็นการฟอกไตวิธีไหน ผู้ป่วยจะต้องค่อย ๆ ปรับวิถีการดำเนินชีวิตให้เพื่อให้เกิดความคุ้นชิน


การฟอกไต มีสิ่งที่ควรระวังหรือไม่?


เพื่อให้การฟอกไตเป็นไปอย่างปลอดภัย ลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง และอาการแทรกซ้อนจากการฟอกไตให้ได้มากที่สุด แพทย์จะมีการซักประวัติผู้ป่วยเพื่อประเมินถึงการเลือกวิธีฟอกไตที่เหมาะสมให้แก่ผู้ป่วย


นอกจากนี้ ผู้ป่วยจะต้องปรับพฤติกรรมให้ถูกสุขลักษณะ โดยเฉพาะการรับประทานอาหาร ที่ต้องหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสเค็มหรือที่มีโซเดียมสูง รวมถึงอาหารหมักดอง อาหารรสจัด อาหารที่ผ่านการแปรรูป เช่น ไส้กรอก แหนม หมูยอ เครื่องดื่มที่มีฟอสเฟสสูง เพื่อป้องกันภาวะเกลือแร่ผิดปกติ ภาวะพาราไทรอยด์สูง และระวังเกิดการติดเชื้อบริเวณเส้นฟอกไต


ฟอกไต เพื่อชีวิตที่ยืนยาวและมีคุณภาพที่สถาบันโรคไต โรงพยาบาลพระรามเก้า


หากไตไม่สามารถขจัดของเสีย สารพิษหรือน้ำส่วนเกินออกจากร่างกายได้อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต การฟอกไตจึงมีความสำคัญต่อผู้ป่วยโรคไตเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังที่จะต้องทำไปตลอดชีวิตหรือจนกว่าจะได้รับการปลูกถ่ายไตใหม่ ดังนั้น ผู้ป่วยควรจะต้องดูแลสุขภาพกายและสุขภาพใจของตนเองอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้สามารถใช้ชีวิตต่อไปอย่างมีความสุข


ที่สถาบันโรคไต โรงพยาบาลพระรามเก้า พร้อมให้บริการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคไตโดยทีมแพทย์เฉพาะทางหลากหลายสาขา ร่วมกับทีมพยาบาลวิชาชีพและทีมสนับสนุน เราทำงานเป็นทีมสหวิชาชีพเพื่อให้ผู้ป่วยโรคไตได้รับการรักษาอย่างครอบคลุมและปลอดภัยที่สุด


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม



คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับฟอกไต


1. การฟอกไตมีผลข้างเคียงหรือไม่?


การฟอกไตเป็นหัตถการที่มีความเสี่ยงเช่นเดียวกับการทำหัตถการอื่น ๆ เช่น การติดเชื้อ หรือความดันโลหิตผิดปกติ อย่างไรก็ตาม โอกาสพบความเสี่ยงจากการฟอกไตในปัจจุบันพบได้น้อยมาก เนื่องจากแพทย์จะให้ข้อมูลที่จำเป็นแก่ผู้ป่วยเกี่ยวกับการฟอกไต รวมถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น วิธีการดูแลตนเอง และอาการที่ควรเฝ้าระวัง ซึ่งการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดจะช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการฟอกไตอย่างปลอดภัยและมีคุณภาพชีวิตที่ดี


2. ผู้ป่วยฟอกไตสามารถเดินทางได้หรือไม่?


ผู้ป่วยฟอกไตยังสามารถเดินทางได้ตามปกติ เพียงแต่หากเป็นผู้ป่วยฟอกไตทางหลอดเลือด จะต้องวางแผนการเดินทางอย่างรอบคอบเพื่อให้สามารถฟอกเลือดตามตารางที่กำหนด สำหรับผู้ป่วยฟอกไตที่คลินิกหรือโรงพยาบาลอาจถูกจำกัดการเดินทางระยะเวลานาน เนื่องจากจะต้องเข้ารับการฟอกไตอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง แต่สำหรับผู้ป่วยฟอกไตทางช่องท้องจะมีความยืดหยุ่นมากกว่า เพราะสามารถพกพาอุปกรณ์สำหรับฟอกไตขณะเดินทางได้


3. การฟอกไตกับการล้างไตต่างกันหรือไม่?


ล้างไตกับฟอกไตต่างกันอย่างไร? แท้จริงแล้วทั้ง 2 อย่าง เป็นวิธีการฟอกไตด้วยกันทั้งคู่ เพียงแต่หากพูดถึงการ ‘ล้างไต’ ก็มักจะนึกถึงการฟอกไตผ่านช่องท้อง


References


Ellsworth, PI. (2024, December 23). Peritoneal Dialysis Catheter Insertion. Medscape. https://emedicine.medscape.com/article/1829737-overview?form=fpf


Hemodialysis. (2018). National Institute of Diabetes and Digestive and Kidney Diseases.https://www.niddk.nih.gov/health-information/kidney-disease/kidney-failure/hemodialysis


Dialysis. (2021, August 8). Cleveland Clinic. https://my.clevelandclinic.org/health/treatments/14618-dialysis


เกี่ยวกับผู้เขียนบทความ

พญ. ชโลธร แต้ศิลปสาธิต

พญ. ชโลธร แต้ศิลปสาธิต

สถาบันโรคไตและเปลี่ยนไต โรงพยาบาลพระรามเก้า

บทความที่เกี่ยวข้อง (10)

ดูทั้งหมด

คุณเป็นโรคภูมิแพ้…จริงหรือ…?

คนทั่วไปเมื่อมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหลเรื้อรัง หรือเป็นๆ หายๆ มักจะบอกว่า เป็นโรคภูมิแพ้ หรือไม่ก็เข้าใจว่าตนเป็นหวัด หวัด เกิดจากการติดเชื้อไวรัส คนทั่วไปมักเป็นได้ปีละ 4 – 5 ครั้งก็มากเกินปกติแล้ว อาการหวัดมักเป็นอยู่ 3 – 4 วัน

โรคไข้อีดำอีแดง โรคที่เกิดจากพิษของเชื้อแบคทีเรีย

ข้อมูลจาก สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย โรคไข้อีดำอีแดงหรือ scarlet fever เป็นโรคที่เกิดจากพิษของเชื้อแบคทีเรียชื่อ #สเตร็ปโตคอคคัสชนิดเอ ทำให้มีผื่นแดง ตามตัวร่วมกับคอหอยหรือทอนซิลอักเสบ พบบ่อยในช่วงอายุระหว่าง 5-15 ปี

วัคซีนปอดอักเสบนิวโมคอกคัสชนิดใหม่ 20 สายพันธุ์ (PCV 20)

โรคปอดอักเสบจากเชื้อนิวโมคอกคัสเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอคคัสนิวโมเนียอี (Streptococcus pneumoniae) ส่วนใหญ่เชื้อจะพบอยู่ในโพรงจมูกและลำคอ สามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งทางละอองฝอยทางการไอหรือจาม เป็นหนึ่งในเชื้อที่ทำให้เกิดปอดอักเสบที่พบบ่อย ทั้งในเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ

โรคแอนแทรกซ์ (Anthrax) โรคติดต่อจากสัตว์สู่คน

โรคแอนแทรกซ์ หรือชาวบ้านเรียกว่าโรคกาลี เป็นโรคที่รู้จักกันมาแต่โบราณกาล แอนแทรกซ์นับว่าเป็นโรคระบาดสำคัญโรคหนึ่งในพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2499 เป็นโรคติดต่ออันตรายร้ายแรงที่เกิดขึ้นได้ในสัตว์กินหญ้าแทบทุกชนิด ทั้งสัตว์ป่า เช่น ช้าง เก้ง กวาง และสัตว์เลี้ยง เช่น โค กระบือ แพะ แกะ แล้วติดต่อไปยังคนและสัตว์อื่น

บอลลูนหัวใจ: แก้ปัญหาหลอดเลือดหัวใจตีบ โดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่

การทำบอลลูนหัวใจหรือ PCI เป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพในการรักษาภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบ ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้สะดวก ลดอาการเจ็บหน้าอก และลดความเสี่ยงของหัวใจวาย เป็นการเปิดหลอดเลือดโดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ ทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยยังคงต้องดูแลสุขภาพ หมั่นออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และลดปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ เพื่อรักษาสุขภาพของหัวใจในระยะยาว

ลิ้นหัวใจเทียมคืออะไร? ทำไมต้องเปลี่ยน? และอะไรบ้างที่คุณควรรู้?

การผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจเทียมเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาสำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาลิ้นหัวใจผิดปกติ และการผ่าตัดเปลี่ยนลินหัวใจจะช่วยฟื้นฟูการทำงานของหัวใจให้กลับมาใกล้เคียงปกติ อย่างไรก็ตามผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาจะต้องได้รับการประเมินอย่างละเอียด เพื่อเลือกชนิดของลิ้นหัวใจที่เหมาะสม

หัวใจล้มเหลว อาการเป็นอย่างไร ป้องกันได้อย่างไรบ้าง

หัวใจล้มเหลวคือภาวะที่หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนและสารอาหารไม่เพียงพอ อาการสำคัญที่ควรสังเกต ได้แก่ เหนื่อยง่าย หายใจลำบาก ขาบวม และน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มักเกี่ยวข้องกับโรคหัวใจและหลอดเลือด การวินิจฉัยและรักษาอย่างรวดเร็วจะช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนรุนแรง

การตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจมะเร็ง (Biopsy) หมดความสงสัย วินิจฉัยได้อย่างแม่นยำ

การตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจมะเร็ง (Biopsy) คือวิธีที่นิยมในการวินิจฉัยมะเร็ง เนื่องจากความแม่นยำและละเอียดในการบ่งชี้ประเภทของมะเร็ง ทำได้อย่างไร? บทความนี้มีคำตอบ!

การใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ รักษาใจเต้นผิดจังหวะ ให้กลับสู่ภาวะปกติ

การใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ (Pacemaker Implantation) จะใช้รักษาผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ เครื่องจะช่วยให้หัวใจกลับมาทำงานได้ใกล้เคียงกับระดับปกติอีกครั้ง

รู้จัก ASD คืออะไร? ผนังหัวใจรั่วอาการเป็นแบบไหน รักษายังไงดี

ชวนรู้จัก ASD หรือ ภาวะผนังกั้นหัวใจรั่วคืออะไร ผนังหัวใจรั่ว อันตรายไหม? มาเช็กต้นตอสาเหตุ อาการของ ASD แนวทางการรักษา พร้อมวิธีดูแลให้หัวใจห้องบนแข็งแรง!

Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital