บทความสุขภาพ
Knowledge
นพ. วิศิษฐ์ ลิ่วลมไพศาล
การปลูกถ่ายไต เป็นการผ่าตัดเพื่อนำไตใหม่จากผู้บริจาคซึ่งอาจเป็นญาติหรือผู้ป่วยสมองตายมาปลูกถ่ายให้แก่ผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรัง เพื่อทดแทนการทำงานของไตที่บกพร่องไป ซึ่งปัจจุบันความสำเร็จของการปลูกถ่ายไตมีอัตราค่อนข้างสูง ผู้ป่วยที่ได้รับการปลูกถ่ายไตจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ สามารถทำงาน รับประทานอาหาร และออกกำลังกายได้เป็นอย่างดี จึงนับว่าเป็นทางเลือกการรักษาที่ดีที่สุดของผู้ป่วยภาวะไตวายเรื้อรัง และไตที่ปลูกถ่ายใหม่สามารถใช้งานได้นานกว่า 10 ปี อย่างไรก็ผู้ป่วยที่ได้รับการปลูกถ่ายไตยังจำเป็นต้องได้รับการดูแลหลังการเปลี่ยนไตไปตลอดชีวิต เพื่อให้ไตใหม่อยู่ได้นานและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลังการปลูกถ่ายไตผู้ป่วยต้องรับประทานยากดภูมิคุ้มกันเพื่อป้องกันภาวะปฏิเสธไต แต่การได้รับยากดภูมิคุ้มกันก็มาพร้อมกับความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น ดังนั้นผู้ป่วยจึงต้องปฏิบัติตนและดูแลสุขภาพให้เหมาะสมตามคำแนะนำของแพทย์ และหลีกเลี่ยงการติดเชื้อเพื่อให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง และเพื่อรักษาประสิทธิภาพการทำงานของไตใหม่ให้ใช้งานได้นานที่สุด
ผู้ป่วยที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะจำเป็นจะได้รับยากดภูมิคุ้มกันไปตลอดชีวิต เพื่อกดระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ป้องกันภาวะปฏิเสธไต เพราะระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจะตอบสนองต่อไตใหม่เสมือนสิ่งแปลกปลอมชนิดหนึ่ง ซึ่งจะทำให้เกิดการปฏิเสธไตใหม่ ทำให้การปลูกถ่ายไตไม่ประสบความสำเร็จได้ ดังนั้นผู้ป่วยควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับยากดภูมิคุ้มกันและยาอื่น ๆ ที่ได้รับ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา และรักษาการทำงานของไตใหม่ได้ให้ยาวนานที่สุด
ผู้ป่วยที่ได้รับการปลูกถ่ายไตจะต้องรับประทานยากดภูมิไปตลอดชีวิต ดังนั้นผู้ป่วยต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับยากดภูมิ รวมไปถึงยาอื่น ๆ ด้วย ซึ่งยากดภูมิคุ้มกันที่ผู้ป่วยจะได้รับหลังการปลูกถ่ายไตจะต้องเป็นไปตามคำแนะนำของแพทย์ ซึ่งยากดภูมิเหล่านี้ ได้แก่
เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายต่อต้านหรือปฏิเสธไตใหม่ โดยผู้ป่วยต้องได้รับยาในขนาดที่เหมาะสม เพราะจะช่วยให้ไตใหม่ที่ได้รับการปลูกถ่ายสามารถทำงานและอยู่กับผู้ป่วยได้นานที่สุด
ผู้ป่วยควรแจ้งให้แพทย์ เภสัชกร หรือพยาบาล รับทราบว่าท่านรับประทานยากดภูมิคุ้มกันอยู่ ในกรณีที่ได้รับการรักษาจากที่อื่น เนื่องจากยาบางชนิดที่ได้รับเพื่อรักษาภาวะอื่น ๆ เพิ่ม อาจเกิดปฏิกิริยาต่อยากดภูมิคุ้มกัน (drug interaction) หรือที่เรียกว่า “ยาตีกัน” ส่งผลให้ระดับยากดภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ จะได้มีการตรวจสอบการให้ยาให้ถูกต้อง
ตัวอย่าง: ผู้ป่วยได้รับยากดภูมิคุ้มกันไซโคลสปอริน (Cyclosporine) ทานวันละ 2 ครั้ง เวลา 8.00 น. และ 20.00 น. ผู้ป่วยลืมทานยาตอน 8.00 น. และนึกขึ้นได้ก่อนเวลา 14.00 น. ให้รีบรับประทานยาทันที แต่ถ้านึกขึ้นได้หลังจากเวลา 14.00 น. ให้ข้ามมื้อนั้นไป และรับประทานยาเวลา 20.00 น. ในปริมาณเท่าเดิม ไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เท่า
ผู้ป่วยควรศึกษาอาการสำคัญที่ต้องได้รับการดูแลโดยเร่งด่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการของภาวะปฏิเสธไตและภาวะติดเชื้อ หากมีอาการเหล่านั้นให้รีบมาพบแพทย์ทันที
ภายหลังการผ่าตัดปลูกถ่ายไต ผู้ป่วยต้องรับประทานยาหลายชนิด โดยเฉพาะยาที่ออกฤทธิ์กดภูมิคุ้มกันของร่างกาย ซึ่งต้องรับประทานตลอดชีวิต เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายมีปฏิกิริยาต่อต้านไตใหม่ ผู้ป่วยจึงควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับชนิดของยา วิธีรับประทานยาที่ถูกต้อง และผลข้างเคียงของยา ดังนี้
การมาพบแพทย์ตามนัดถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลหลังการเปลี่ยนไต ดังนั้นผู้ที่ผ่าตัดปลูกถ่ายไตจึงควรใส่ใจและมาพบแพทย์ตามนัดอย่างเคร่งครัด
การพบแพทย์ตามนัดเป็นสิ่งสำคัญมาก ผู้ป่วยจำเป็นต้องมาพบแพทย์ทุกครั้ง หลังการปลูกถ่ายไต เนื่องจากแพทย์จำเป็นต้องตรวจร่างกายเพื่อให้แน่ใจว่าไตใหม่จะอยู่ได้นานและทำงานได้ดี อีกทั้งการดูแลหลังการเปลี่ยนไตไม่สามารถทำได้ทางโทรศัพท์หรือทางไปรษณีย์ได้ เคยมีกรณีตัวอย่างผู้ป่วยปลูกถ่ายไตไม่ยอมพบแพทย์ เก็บตัวกินยาเองโดยลำพัง สุดท้ายไตเสื่อมลงจากฤทธิ์ของยา เกิดการติดเชื้อ และเสียชีวิตในที่สุด จะเห็นได้ว่าการมาพบแพทย์ตามนัดนั้นสำคัญมาก
เชื้อโรคที่พบในผู้ป่วยปลูกถ่ายไตได้บ่อยหรืออันตรายสูง โดยเฉพาะช่วง 6 เดือนแรก ได้แก่
การเลือกอาหารที่เหมาะสมในผู้ป่วยหลังผ่าตัดปลูกถ่ายไต จะส่งผลให้การฟื้นตัวหลังผ่าตัดเร็วขึ้น ในกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่มีภาวะแทรกซ้อนจะสามารถเลือกทานอาหารได้ปกติ แต่หากเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น มีไข้ ติดเชื้อ มีการสลายของกล้ามเนื้อมากขึ้น จำเป็นต้องรับประทานอาหารให้เหมาะสมและเพียงพอตามสภาวะร่างกายเพื่อป้องกันการเกิดภาวะทุพโภชนาการ อาหารที่รับประทานควรเป็นอาหารปรุงสุก สะอาด ครบ 5 หมู่ และถูกหลักสุขาภิบาลอาหาร
ในกรณีที่ผู้ป่วยต้องควบคุมสารอาหารบางชนิดอันเนื่องมาจากยาหรือสภาวะต่าง ๆ เช่น ในภาวะน้ำตาลในเลือดสูง ไขมันในเลือดสูง ความดันสูง ในภาวะร่างกายต้องการโปรตีนมากขึ้น หรือในภาวะแร่ธาตุต่าง ๆ ของร่างกายไม่อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ควรเลือกอาหารให้เหมาะสมตามชนิดต่าง ๆ ดังนี้
ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมบางชนิดมีผลต่อการทำงานของยากดภูมิคุ้มกัน ผู้ป่วยปลูกถ่ายไต “ควรหลีกเลี่ยง”ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ดังนี้
ผู้ที่ได้รับการปลูกถ่ายไตมักจะได้รับคำแนะนำจากแพทย์ให้ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ และวัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบเพราะจะสามารถลดการป่วยจากการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ และไวรัสปอดอักเสบได้
การบริหารยา: ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ 1 เข็มทุกปี หลังการปลูกถ่ายไต
ข้อห้ามใช้
วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ มี 2 ยี่ห้อ ดังนี้
การบริหารยา: ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ 1 เข็มทุก 5 ปี หลังการปลูกถ่ายไต
ผลข้างเคียง
ข้อห้ามใช้: ปฏิกิริยาแพ้รุนแรงจากการฉีดครั้งก่อน
Pneumococcal Polysaccharide vaccine คือ วัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบ 23 สายพันธุ์
สามารถใช้ในผู้ป่วยปลูกถ่ายไตได้ทั้งชนิดเชื้อตาย (killed vaccine), ชนิดใช้ไวรัสเป็นพาหะ (vector vaccine) หรือชนิด mRNA
คำแนะนำ: ความถี่ในการฉีดวัคซีนแต่ละแบบยังต้องติดตามตามคำแนะนำล่าสุด (อาจมีการเปลี่ยนแปลง)
หลังการผ่าตัดปลูกถ่ายไตผู้ป่วยจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ อย่างไรก็ตามผู้ป่วยยังจำเป็นต้องได้รับการดูแลหลังการเปลี่ยนไตจากทีมแพทย์ตลอดชีวิตเพื่อให้แน่ใจว่าไตใหม่อยู่ได้นานและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผู้ป่วยที่ได้รับการปลูกถ่ายไตต้องรับประทานยากดภูมิคุ้มกันตลอดชีวิตเพื่อป้องกันภาวะปฏิเสธไต และต้องมาพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอเพื่อตรวจดูความแข็งแรงของร่างกาย และเพื่อประเมินการทำงานของไตใหม่ จะมีการเจาะเลือดเพื่อปรับระดับยากดภูมิคุ้มกันให้เหมาะสม และประเมินภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้
อย่างไรก็ตามการได้รับยากดภูมิคุ้มกันจะทำให้ผู้ป่วยมีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายขึ้น ดังนั้นผู้ป่วยจึงต้องปฏิบัติตนให้เหมาะสมเพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ เช่น รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่และสะอาด หลีกเลี่ยงแหล่งชุมชนที่มีคนแออัด ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และได้รับวัคซีนป้องกันโรคอย่างเหมาะสมตามคำแนะนำของแพทย์
ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกับ Praram 9 V ปรึกษาแพทย์ได้ทุกที่ผ่านทางวิดีโอคอล (Telemedicine)
เกี่ยวกับผู้เขียนบทความ
แพ็กเกจที่เกี่ยวข้อง (0)
ดูทั้งหมด
บทความที่เกี่ยวข้อง (10)
ดูทั้งหมด
Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital