บทความสุขภาพ
Knowledge
พญ. อัณณาช์ เตรียมอนุรักษ์
มะเร็งหัวใจเป็นโรคที่พบได้น้อยและไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในหมู่คนทั่วไป แม้ว่าจะเป็นโรคมะเร็งที่พบไม่บ่อย แต่มะเร็งหัวใจก็เป็นโรคที่มีความรุนแรงสูง สามารถนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนและเสียชีวิตได้หากไม่ได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที มะเร็งหัวใจสามารถเกิดขึ้นได้จากเนื้อเยื่อหัวใจเอง หรือมาจากการแพร่กระจายของมะเร็งจากอวัยวะอื่น เช่น ปอด เต้านม หรือหลอดอาหาร ซึ่งในกรณีหลังมักพบได้มากกว่า การทำความเข้าใจเกี่ยวกับมะเร็งหัวใจจึงเป็นเรื่องสำคัญ มาดูกันว่ามะเร็งหัวใจเกิดขึ้นได้อย่างไร มีอาการอย่างไร และวิธีการรักษาเป็นอย่างไรบ้าง
เนื้องอกในหัวใจแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ได้แก่ เนื้องอกที่แพร่กระจายมาจากอวัยวะอื่น (Secondary Tumors) และ เนื้องอกที่เกิดจากเนื้อเยื่อหัวใจเอง (Primary Cardiac Tumors) แต่ละประเภทมีความแตกต่างกันทั้งในแหล่งที่มาและการพยากรณ์โรค ซึ่งมีผลต่อแนวทางการรักษาและโอกาสในการรอดชีวิตของผู้ป่วย
แม้ว่าเนื้องอกชนิดเนื้อร้ายในหัวใจ (Malignant Primary Tumors) จะพบได้น้อยมาก แต่ความรุนแรงของโรคนี้ทำให้ผู้ป่วยมีโอกาสรอดชีวิตน้อย เนื่องจากเนื้องอกเหล่านี้มีการเจริญเติบโตและแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้การรักษาทำได้ยาก
อาการของเนื้องอกหัวใจอาจแตกต่างกันไปตามขนาดและตำแหน่งของก้อนเนื้องอก บางรายอาจไม่มีอาการใด ๆ และพบเนื้องอกโดยบังเอิญในการตรวจสุขภาพ แต่โดยทั่วไปอาการจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่
มะเร็งหัวใจเป็นโรคที่พบได้น้อยมาก และยังไม่มีสาเหตุการเกิดโรคที่ชัดเจน เนื้องอกชนิดเนื้อร้ายที่เกิดขึ้นจากหัวใจเอง (Primary Cardiac Tumors) นั้นมีอุบัติการณ์ที่น้อยมาก โดยสาเหตุของการเกิดมะเร็งหัวใจยังคงเป็นเรื่องที่นักวิจัยกำลังศึกษา อย่างไรก็ตาม มีปัจจัยเสี่ยงที่อาจเพิ่มโอกาสในการเกิดมะเร็งหัวใจได้ เช่น
การวินิจฉัยมะเร็งหัวใจต้องอาศัยการตรวจด้วยการตรวจพิเศษเพื่อให้เห็นถึงขนาด ตำแหน่ง และความลุกลามของเนื้องอก ซึ่งวิธีการวินิจฉัยที่นิยมใช้ ได้แก่
การรักษามะเร็งหัวใจส่วนใหญ่จะต้องอาศัยการผ่าตัดเป็นหลัก เนื่องจากเนื้องอกชนิดนี้ตอบสนองต่อการฉายแสงและการใช้ยาเคมีบำบัดไม่ดีเท่าที่ควร ดังนั้นการผ่าตัดเอาก้อนเนื้องอกออกให้มากที่สุดจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรักษามะเร็งหัวใจ
การผ่าตัดหัวใจ (Cardiac Surgery) เป็นหนึ่งในวิธีการรักษาที่สำคัญสำหรับมะเร็งหัวใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่เนื้องอกสามารถตัดออกได้ทั้งหมดหรือบางส่วน อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดในกรณีของเนื้องอกชนิดเนื้อร้าย (Malignant Tumors) มักจะทำได้ยาก เนื่องจากเนื้องอกเหล่านี้มักลุกลามไปยังบริเวณอื่นของหัวใจหรืออวัยวะข้างเคียง ทำให้การผ่าตัดไม่สามารถเอาเนื้องอกออกทั้งหมดได้
แต่ในกรณีของเนื้องอกชนิดไม่ใช่เนื้อร้าย การผ่าตัดมักจะให้ผลลัพธ์ที่ดีและผู้ป่วยสามารถหายขาดได้ แต่หากมะเร็งลุกลามไปถึงหลอดเลือดแดงหัวใจหรือลิ้นหัวใจ การผ่าตัดจะมีความซับซ้อนมากขึ้นและมีความเสี่ยงสูงขึ้น
การรักษามะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งหัวใจที่พบได้น้อยจำเป็นต้องได้รับการรักษาร่วมกันจากแพทย์เฉพาะทางโรคมะเร็ง และแพทย์เฉพาะทางด้านหัวใจ เพราะเป็นโรคยากซับซ้อนและมีรุนแรง จึงต้องมีการวางแผนและพิจารณาการรักษากันอย่างระมัดระวัง
การพยากรณ์โรคของมะเร็งหัวใจขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ชนิดของเนื้องอก ขนาด ตำแหน่ง และการลุกลามของเนื้องอก รวมถึงสภาพร่างกายของผู้ป่วยเอง โดยเนื้องอกหัวใจชนิดเนื้อร้าย (Malignant Tumors) มักมีการพยากรณ์โรคที่ไม่ดี เนื่องจากมีการเจริญเติบโตและลุกลามอย่างรวดเร็ว ขณะที่เนื้องอกชนิดไม่ใช่เนื้อร้าย (Benign Tumors) มักสามารถรักษาได้ด้วยการผ่าตัด และผู้ป่วยสามารถมีชีวิตอยู่ได้ยาวนานโดยไม่กลับมาเป็นซ้ำ
สำหรับมะเร็งหัวใจชนิดเนื้อร้าย เช่น Angiosarcoma หรือ Sarcoma อัตราการรอดชีวิตที่ 5 ปีต่ำมาก โดยมีค่าเฉลี่ยไม่ถึง 20% ในกรณีที่พบโรคในระยะท้าย ๆ ขณะที่เนื้องอกชนิดไม่ใช่เนื้อร้าย เช่น Myxoma ผู้ป่วยมักมีโอกาสรอดชีวิตสูงและสามารถกลับมามีชีวิตประจำวันได้ตามปกติหลังการผ่าตัด
เนื่องจากมะเร็งหัวใจเป็นโรคที่พบได้น้อยมาก และในปัจจุบันยังไม่มีวิธีการป้องกันที่แน่ชัด แต่การรักษาสุขภาพหัวใจให้แข็งแรงด้วยการปฏิบัติตามคำแนะนำทั่วไปเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพหัวใจจะช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจได้ เช่น
มะเร็งหัวใจเป็นโรคที่พบได้น้อย แต่มีความรุนแรงสูงและอาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม มะเร็งหัวใจชนิดที่มีต้นกำเนิดจากหัวใจเองพบได้ไม่บ่อย ในขณะที่มะเร็งที่แพร่กระจายมาจากอวัยวะอื่นพบได้มากกว่า การตรวจวินิจฉัยที่รวดเร็วด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ เช่น การตรวจด้วยเครื่องสะท้อนเสียงความถี่สูง (Echocardiography) หรือการตรวจภาพหัวใจด้วย MRI สามารถช่วยให้แพทย์วางแผนการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การรักษามะเร็งหัวใจส่วนใหญ่ยังคงเป็นการผ่าตัด และแม้ว่าผลการรักษามักจะไม่ดีเท่าที่ควรเนื่องจากโรคมีความรุนแรง แต่การตรวจพบโรคในระยะเริ่มต้นสามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการมีชีวิตรอดได้ การดูแลสุขภาพหัวใจอย่างสม่ำเสมอ การเข้ารับการตรวจร่างกายประจำปี หรือเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็ง และการสังเกตอาการผิดปกติเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ รวมถึงโรคมะเร็งหัวใจได้อีกด้วย
เกี่ยวกับผู้เขียนบทความ
แพ็กเกจที่เกี่ยวข้อง (0)
ดูทั้งหมด
บทความที่เกี่ยวข้อง (10)
ดูทั้งหมด
Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital