บทความสุขภาพ
Knowledge
นพ. สุทัศน์ คันติโต
โรคเส้นเลือดหัวใจตีบ หรือ โรคหลอดเลือดหัวใจ ยังคงเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของคนไทย ยิ่งในยุคปัจจุบันเทคโนโลยีเพิ่มมากขึ้น สไตล์การใช้ชีวิตก็เปลี่ยนแปลงไป กล่าวคือ เราเริ่มทำงานประจำอยู่กับที่มากขึ้น ไม่ค่อยลุกไปไหน เคลื่อนไหวหรือออกแรงกันน้อยลง นำมาซึ่งความเสี่ยงในการเกิดโรคนี้มากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายปัจจัยเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ภาวะอ้วน การสูบบุหรี่ หรือไขมันในเลือดสูง ล้วนส่งผลให้เกิดโรคเส้นเลือดหัวใจตีบได้ เราจึงควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคนี้ไว้ เพื่อประเมินตัวเอง พร้อมทั้งหาแนวทางป้องกัน หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง ลดโอกาสเกิดโรค และรีบไปรักษาได้ทันเมื่อมีสัญญาณอันตรายเกิดขึ้น
เส้นเลือดหัวใจตีบ หรือ โรคหลอดเลือดหัวใจ เกิดจากการสะสมของคอเลสเตอรอลและสารต่าง ๆ ภายในหลอดเลือด จนเกิดคราบไขมัน (Plaque) เกาะอยู่บริเวณผนังหลอดเลือดหัวใจ ส่งผลให้เส้นเลือดหัวใจตีบแคบลง หรือเกิดการแตกของคราบไขมัน ทำให้เกิดการปิดกั้นการไหลเวียนของเลือด หากปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นที่หลอดเลือดเลี้ยงหัวใจ จะทำให้เลือดหล่อเลี้ยงหัวใจลดลง จนไม่เพียงพอ ทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ซึ่งอาจร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
อาการที่สามารถพบได้ในผู้ป่วยที่เส้นเลือดหัวใจตีบ แล้วหัวใจเกิดภาวะหัวใจขาดเลือด ได้แก่
หากมีอาการตามที่กล่าวมานี้ให้รีบมาพบแพทย์โดยทันที เพื่อรับการตรวจ
ศึกษาเพิ่มเติม อาการวูบหมดสติ ที่อาจเกิดจากโรคหัวใจ ได้ที่นี่
สาเหตุ หรือปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจมานั้นเกิดจาก
โรคหลอดเลือดหัวใจสามารถป้องกันได้ จากการควบคุมปัจจัยเสี่ยงในส่วนที่ควบคุมได้ ซึ่งประกอบด้วย พฤติกรรมและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ได้แก่ การรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย การจำกัดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการงดสูบบุหรี่
สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน หรือมีระดับคอเลสเตอรอลและไขมันในเลือดสูง หากรักษาให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ก็จะสามารถลดความเสี่ยงและห่างไกลจากการเป็นโรคหัวใจได้
สำหรับผู้ที่ไม่ทราบว่ามีโรคประจำตัวหรือไม่ ควรได้รับการตรวจคัดกรอง เพื่อ หาปัจจัยเสี่ยงดังกล่าว ที่อาจซ่อนอยู่ แต่ไม่แสดงอาการ
ปัจจัยเสี่ยงที่เราไม่อาจควบคุมได้ คือ อายุ พันธุกรรมในครอบครัว สำหรับผู้ชายที่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจก่อนอายุ 40 ปี และผู้หญิงที่เป็นโรคหัวใจก่อนอายุ 50 ปี อาจเกิดจากกรรมพันธุ์ได้
ดังนั้นจึงควรเข้ารับการตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอ เมื่อมีอายุที่เพิ่มมากขึ้น หรือในกลุ่มที่มีความเสี่ยง เช่น มีประวัติครอบครัว มีไขมันในเลือดสูง
หลายคนอาจจะเคยได้ยินข่าวนักกีฬาทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพ ที่เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน บางคนอาจถึงขั้นเสียชีวิต นำความโศกเศร้าเสียใจในวงการกีฬา
หากใครสนใจอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับสาเหตุและแนวทางการตรวจคัดกรองโรคหัวใจ กรณีที่เป็นนักกีฬา สามารถศึกษาได้ที่นี่
VO2 max เครื่องมือวัดความฟิตของร่างกาย ที่เหล่านักออกกำลังกายควรรู้ !
หากผู้ป่วยให้ข้อมูลและรายละเอียดอย่างถูกต้องทั้งประวัติ และอาการที่ปรากฏจะช่วยให้สามารถวินิจฉัยโรคได้อย่างถูกต้อง
นอกจากนี้ แพทย์อาจให้ตรวจร่วมกับการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ Electrocardiogram (ECG) ตรวจเลือด การตรวจคลื่นสะท้อนสียงของหัวใจ (Echocardiogram) การเดินหรือวิ่งสายพาน(Exercise stress testing) หรือตรวจหัวใจด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (Coronary CT angiography)
การรักษาโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ แบ่งออกได้เป็น 4 ระดับ ประกอบด้วย
ระดับที่ 1 รักษาโดยปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น
ระดับที่ 2 รักษาโดยการใช้ยา ในผู้ที่มีความเสี่ยง (โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน) หรือ ในผู้ที่มีหลอดเลือดหัวใจตีบไม่มากที่ยังไม่จำเป็นต้องทำหัตถการ ต้องรับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
ระดับที่ 3 รักษาโดยหัตถการสวนหลอดเลือดหัวใจและหรือใส่ขดลวด (Stent) เข้าไป เพื่อขยายหลอดเลือดหัวใจตีบให้ทำงานได้เป็นปกติ
ระดับที่ 4 รักษาโดยการผ่าตัด ทำทางเบี่ยงหลอดเลือดหัวใจ (Coronary Artery Bypass Graft – CABG)
เส้นเลือดหัวใจตีบ หรือ โรคหลอดเลือดหัวใจ อาจทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ซึ่งอาจร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ อย่างไรก็ตาม ทุกปัญหาล้วนมีทางแก้ (และแนวทางป้องกัน) หากพบว่าตัวเองอาจเสี่ยงต่อภาวะดังกล่าว ควรศึกษาทำความเข้าใจสาเหตุ อาการ วิธีป้องกัน และแนวทางการรักษา เพื่อเตรียมความพร้อม
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ โรคหัวใจ
สถาบันหัวใจและหลอดเลือดพระรามเก้า โรงพยาบาลพระรามเก้าได้ตระหนักถึงความสำคัญโรคหัวใจและหลอดเลือด เราพร้อมให้บริการการรักษาโดยทีมแพทย์เฉพาะทางและเครื่องมือที่ทันสมัย ตลอดจนการฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจและหลอดเลือดหลังการเกิดโรค เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ป่วยทุกคนจะได้กลับมามีสุขภาพที่ดีและใช้ชีวิตกับครอบครัวอย่างมีความสุข
ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกับ Praram 9 V ปรึกษาแพทย์ได้ทุกที่ผ่านทางวิดีโอคอล (Telemedicine)
เกี่ยวกับผู้เขียนบทความ
แพ็กเกจที่เกี่ยวข้อง (0)
ดูทั้งหมด
บทความที่เกี่ยวข้อง (10)
ดูทั้งหมด
Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital